ก.ไอซีที เดินหน้าตรวจสอบการเผยแพร่คลิปเสียงนายกรัฐมนตรีผ่านอินเทอร์เน็ต

ข่าวทั่วไป Monday August 31, 2009 10:48 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--31 ส.ค.--ก.ไอซีที ร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยถึงกรณีการเผยแพร่คลิปเสียงที่มีเสียงคล้ายนายกรัฐมนตรี ว่า คลิปเสียงดังกล่าวมีความยาวประมาณ 3 นาที โดยได้เริ่มมีการเผยแพร่ตั้งแต่ช่วงหลังเที่ยงคืนวันที่ 26 สิงหาคม 2552 หรือช่วงเช้าของวันที่ 27 สิงหาคม 2552 ซึ่งกระทรวงไอซีทีไม่ได้นิ่งนอนใจกับการกระทำดังกล่าว และได้ดำเนินการส่งคลิปเสียงให้บริษัทเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญเป็นที่ยอมรับในระดับเอเชียแปซิฟิกตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า เป็น คลิปเสียงที่มาจากการตัดต่อเสียงอย่างแน่นอน จึงได้ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเพิ่มเติมว่ามีการตัดต่อเสียงในช่วงใดบ้าง ด้านนายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยเพิ่มเติมว่า “จากการตรวจสอบคลิปเสียงดังกล่าวไปแล้ว 80% พบว่ามีการตัดต่อเสียงอยู่ทั้งหมด 16 แห่ง และหากตรวจสอบครบทั้ง 100% คาดว่าจะพบจุดที่มีการตัดต่อเสียงประมาณกว่า 20 แห่ง ซึ่งจากการตรวจสอบคลิปเสียงดังกล่าวพบว่ามีความผิดปกติที่ใช้เป็นหลักฐานในการเอาผิดหลาย ลักษณะ เช่น บรรยากาศและเสียงรบกวนมีความไม่คงที่ ไม่สม่ำเสมอ ถ้อยคำในคลิปเสียงไม่สมบูรณ์มีคำขาดหาย รวมทั้งรูปประโยคก็ไม่สมบูรณ์ จังหวะการอ่านไม่เป็นธรรมชาติ เป็นต้น” ดังนั้น กระทรวงไอซีทีจึงได้ประสานกับทาง ISP และขออำนาจศาลเพื่อปิดกั้นการเผยแพร่คลิปเสียงดังกล่าวผ่านทางอินเทอร์เน็ตแล้ว 8 เว็บเพจ (URL) โดยปิดกั้นคลิปเสียงทั้งที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ประชาไท ยูทูบ และอื่นๆ ซึ่งหากพบว่ามีการเผยแพร่คลิปเสียงดังกล่าวผ่านทางอินเทอร์เน็ตอีก กระทรวงฯ จะดำเนินการเอาผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (1) (2) และ (3) ซึ่งมีสาระสำคัญโดยสรุป คือ ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน รวมถึงเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ที่เข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา จะมีความผิดตามมาตรา 14 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ที่เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามมาตรานี้ทั้ง (1) (2) หรือ (3) ถือเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 14 (5) และได้รับโทษเช่นเดียวกัน ร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ได้มอบหมายให้ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต หรือ ISOC ติดตามร่องรอยการเผยแพร่คลิปเสียงดังกล่าว โดยร่วมมือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติค้นหาต้นทางแหล่งที่มาของการเผยแพร่และสืบค้นหาผู้กระทำความผิด ซึ่งขณะนี้ทราบเบาะแสการเผยแพร่แล้ว โดยกระทรวงฯ จะสืบค้นจนระบุตัวบุคคลผู้กระทำความผิดแล้วประสานงานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ และสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อขอหมายศาลเข้าจับกุมและดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายทั้งพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และกฎหมายอาญา เนื่องจากการกระทำดังกล่าวมีเจตนามุ่งหวังที่จะให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นภายในประเทศและกระทบต่อความมั่นคงของประเทศด้วย” อย่างไรก็ตาม หากการเผยแพร่คลิปเสียงดังกล่าวมีต้นทางการเผยแพร่อยู่ในต่างประเทศแต่ผลของการกระทำนั้นมาปรากฏอยู่ในประเทศไทยก็สามารถใช้กฎหมายไทยในการเอาผิดได้ และเมื่อมีการนำคลิปเสียงมาเผยแพร่ต่อในประเทศไทยก็จะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายไทยเช่นกัน ส่วนกรณีการเผยแพร่ผ่านสัญญาณดาวเทียมของต่างประเทศนั้นกระทรวงฯ ไม่สามารถดำเนินการสกัดกั้นหรือรบกวนสัญญาณได้ กระทรวงฯ จะดำเนินการได้เฉพาะการเผยแพร่ผ่านดาวเทียมที่เป็นของประเทศไทย เช่น ดาวเทียมไทยคมเท่านั้น แต่หากมีการนำคลิปเสียงมาเผยแพร่ต่อก็จะเข้าข่ายการกระทำความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ สำหรับกรณีที่จะมีการนำคลิปเสียงไปเผยแพร่ในการชุมนุมทางการเมืองนั้น ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเป็นผู้เข้าไปดำเนินการเอาผิด แต่ไม่ใช่บทบาทหน้าที่ของกระทรวงไอซีที ส่วนการดำเนินการกับเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อมูลไม่เหมาะสมต่างๆ ของกระทรวงไอซีทีผ่านทางศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต หรือ ISOC นั้น ได้ดำเนินการไปแล้วรวม 18,390 URL แบ่งเป็นเว็บไซต์ที่กระทบกับความมั่นคง 10,578 URL เว็บไซต์ที่เผยแพร่ซึ่งข้อมูลเข้าข่ายลามกอนาจาร 7,690 URL เว็บไซต์ขายยา 50 URL และเว็บไซต์การพนัน 72 URL สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 141 6747 ทวิติยา

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ