อาวียองซ์ จัดสัมมนา “Change เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส” ครั้งที่ 3 ชวนสร้างแรงบันดาลใจสู่การเปลี่ยนแปลงเพื่อความสำเร็จ

ข่าวทั่วไป Tuesday September 1, 2009 10:35 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ อาวียองซ์ แบรนด์ความงามระดับพรีเมี่ยมของยูนิลีเวอร์ นำโดย มนต์ชัย เดโชจรัสศรี ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ภาคธุรกิจผลิตภัณฑ์ชั้นสูง บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด จัดสัมมนา “Change เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส” ครั้งที่ 3 เสริมสร้างแรงบันดาลใจผู้บริโภคสู่การเปลี่ยนแปลงในยุคเศรษฐกิจชะลอตัว กับวิทยากร วิทิตนันท์ โรจนพานิช คนไทยคนแรกผู้พิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์ ด้วยปณิธานแรงกล้าในการตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยเรื่องราวแรงบันดาลใจสู่ความสำเร็จ 3 ผู้ร่วมธุรกิจสาวจากอาวียองซ์ ได้แก่ สุพัตรา หงส์วิเศษ , ธมกร สุทธนะ และ มัญฑิตา จินดา ที่เกิดจากการเปลี่ยนความเชื่อ เปลี่ยนมุมมอง และเปลี่ยนความฝันของตัวเอง ท่ามกลางผู้สนใจร่วมงานอย่างคับคั่ง ณ หอประชุมมหิศร อาคารไทยพาณิชย์ ปาร์ค พลาซ่า แรงบันดาลใจแรก เริ่มด้วยการรับฟังเรื่องราวการฝ่าฝันอุปสรรคนานา กว่าจะสำเร็จเป็นคนไทยคนแรกผู้พิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์ในวันนี้จาก วิทิตนันท์ โรจนพานิช ที่ได้กล่าวว่า “ส่วนตัวทำอาชีพด้านผลิตรายการ มีนิสัยอยากทำอะไรต้องทำให้สำเร็จ ซึ่งต้องเป็นสิ่งที่ถูกต้องด้วย ครั้งหนึ่งเพื่อนต่างชาติถามว่ารักในหลวงแล้วทำอะไรให้ท่านบ้าง จึงคิดว่าจะทำอะไรสักอย่างที่ยิ่งใหญ่เพื่อตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณ ประจวบกับมีเพื่อนก๊วนดำน้ำมาชวนปีนเขาเอเวอร์เรสต์ ก็สนใจทันที เพราะเป็นจุดสูงสุดในโลก อยากชูพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงบนยอดเขา เพื่อประกาศให้โลกได้รู้ว่าพระเกียรติคุณท่านยิ่งใหญ่และเหนือกว่าสิ่งใดๆ บนโลกนี้ แม้ตัวเองไม่เคยปีนเขามาก่อน แต่ศรัทธาในตัวเองว่าทำได้ จึงรวบรวมทีมงานจะทำรายการ Reality สู่ยอดเขาเอเวอร์เรสต์ไปเสนอสปอนเซอร์ด้วย เพราะค่าใช้จ่ายต่อคนในการปีนเขาไม่ต่ำกว่าคนละ 2 ล้านบาท ผมใช้เวลา 3-4 ปีในไทยก็หาไม่ได้ มีแต่คนต่อว่าว่าเพ้อฝัน เป็นไปไม่ได้ และจะพาตัวเองไปตายมากกว่า แต่ก็ไม่เคยท้อ ไม่กลัวแพ้ แต่กลัวที่จะไม่ได้ทำมากกว่า พยายามคิดหนทางใหม่ๆ ลองทำอีกซ้ำๆ จนกระทั่งมีคนแนะนำให้ลองไปเสนอที่เวียดนามก็สำเร็จจนได้ การปีนเขาครั้งนี้ใช้เวลากว่า 60 วัน มีอุปสรรคมากมาย ทั้งอันตรายจากความสูง 8,848 เมตร , อุณหภูมิหนาวเหน็บที่ -40 องศาเซลเซียส , หายใจด้วยออกซิเจนเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ ขนาดนอนหลับหัวใจยังเต้นถึง 192 ครั้ง/นาที มีเหตุการณ์หนึ่งที่ความสูงในระดับ Dead Zone ผมและคณะต้องห้อยต่องแต่งบนเชือก ท่ามกลางพายุหิมะไปไหนไม่ได้ ที่เท้าผมไม่มีความรู้สึก นิ้วเท้าเหมือนกับอยู่ในสภาพถูกน้ำแข็งกัด ซึ่งการรักษามีทางเดียวคือตัดส่วนนั้นทิ้งเพื่อไม่ให้ลามไปส่วนอื่น ตอนนั้นผมเปลี่ยนความคิดไปเรื่องอื่นแทนให้ตัวเองคลายกังวล ฮัมเพลงไปคนเดียวเหตุการณ์ก็ผ่านพ้นไปได้ หลายครั้งเหนื่อยมากจนขยับอีกก้าวเดียวแทบไม่ไหว ก็ลองท้ากับตัวเองว่า ขออีกก้าวเดียว พูดซ้ำๆ กับตัวเอง ปลอบใจตัวเองด้วยมุขตลกว่าช้าแต่ชัวร์ก็สบายใจ จนในที่สุดก็มาถึงยอดเขาได้สำเร็จ นาทีนั้นผมหยิบธงชาติไทยที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา พร้อมด้วยพระบรมฉายาลักษณ์ และป้ายทรงพระเจริญ ที่เตรียมมา เพื่อจะถ่ายรูป ระหว่างนั้นมีคนถามว่าคือรูปใคร พ่อหรือเปล่า มีคนหนึ่งตะโกนว่า King of Thailand รู้สึกตื้นตันมาก ผมตอบกลับไปว่า ใช่ครับนี่คือพ่อของผมและพ่อของชาวไทยทุกคนอย่างภาคภูมิใจ ซึ่งยังจำวินาทีนั้นได้ดี ประสบการณ์นี้ได้ให้แนวคิดซึ่งผมเรียกว่า 4H สำหรับเป็นหลักยึดในการดำเนินชีวิต ได้แก่ Heart คือ ทำสิ่งใดต้องทำด้วยความรัก ทุ่มสุดหัวใจ , Head คือ ทำสิ่งใดต้องรู้จักสิ่งนั้นอย่างดี ศึกษาหาข้อมูลอย่างจริงจัง , Hand คือ ลงมือทำอย่างสุดขั้วสุดขีด และ Hope เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ที่หล่อเลี้ยงความฝันให้ไปสู่ความสำเร็จ ให้นึกถึงภาพนั้นไว้ตลอด เชื่อว่าทุกท่านสำเร็จได้เริ่มที่เปลี่ยนความคิดไปในทางที่ดี และศรัทธาในตัวเอง พยายามอย่างต่อเนื่อง ล้มเหลวได้แต่อย่าล้มเลิก ไม่นานความสำเร็จจะเป็นของทุกคน” ต่อจากนั้น เป็นเรื่องราวความสำเร็จที่มาจากการ “เปลี่ยน” ของผู้ร่วมธุรกิจอาวียองซ์ เริ่มที่ สุพัตรา หงส์วิเศษ เปลี่ยนความเชื่อ จากที่เคยเชื่อว่างานหนักเท่านั้นถึงจะได้เงินมา และต้องลำบากกับงานรับจ้างสารพัดชนิดมาตั้งแต่เด็ก จนเมื่อวันหนึ่งสามีที่เป็นนักบิน ต้องการมอบความมั่นคงให้ชีวิตครอบครัวชวนมาทำธุรกิจเครือข่าย เธอก็สมัครทำธุรกิจอาวียองซ์อย่างไม่เต็มใจ แต่เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ไปไม่นาน มีคนทักว่าผิวพรรณดีขึ้น จึงได้แนะนำต่อให้ก็พบว่ามีรายได้เข้ามาอย่างง่ายๆ จึงเริ่มเปลี่ยนความคิดว่างานที่ดี ง่าย รายได้ไม่จำกัด นั้นมีอยู่ จึงได้ศึกษาและลงมาทำอย่างจริงจัง จนปัจจุบันนี้ครอบครัวมีพร้อมทุกอย่าง และไม่เคยผิดหวังกับการเปลี่ยนความเชื่อครั้งนี้ ต่อด้วย ธมกร สุทธนะ นักธุรกิจด้านไอที โรงพิมพ์ และห้องเช่า ที่เปลี่ยนมุมมอง หาระบบสำรองให้กับธุรกิจส่วนตัว เนื่องจากประสบการณ์บริหารที่ผ่านมาเกือบ 20 ปี พบว่าธุรกิจมีความเสี่ยง ต้องใช้เงินลงทุน ประสพปัญหาแรงงาน หากมีธุรกิจที่ไม่ต้องเผชิญกับปัญหาเหล่านี้ เธอจะไม่ลังเลที่จะทำทันที ที่ผ่านมาแม้ธุรกิจจะไปได้ดี แต่ตลอดเวลามีปัญหามากมายมาให้แก้ไข ถูกโกง และไม่มีเวลาให้ตัวเองและครอบครัวนัก แต่ในวันนี้เธอได้เปลี่ยนมุมมองให้ธุรกิจอาวียองซ์เป็นระบบสำรองของชีวิต สร้างรายได้ปีหนึ่งกว่า 130 ล้านบาท ขยายองค์กรด้วยสมาชิกที่มีร่วมแสนคนในเวลาเพียง 5 ปี มีอิสระในการให้เวลากับตัวเองและครอบครัว อีกทั้งยังเป็นมรดกแก่ลูกสาวได้ต่อไป และสุดท้ายกับ มัญฑิตา จินดา สาวนักการตลาดอนาคตไกล เธอเปลี่ยนความฝันจากอาชีพที่ใฝ่ฝันและฝ่าฝันกว่าจะได้มา มาทำธุรกิจอาวียองซ์อย่างเต็มตัว ด้วยเพราะเล็งเห็นในความมั่นคง แนวโน้มของธุรกิจเครือข่ายที่ก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ และเป็นเทรนด์ของบริษัทรายใหญ่ทั่วโลกที่ลงมาจับธุรกิจนี้อย่างแพร่หลาย เธอจึงลองมาศึกษาอย่างจริงจัง และให้เวลาอย่างเต็มที่ จนปัจจุบันนี้สามารถสร้างรายได้ได้มากกว่าเงินเดือนเริ่มต้นถึง 10 เท่า และยังได้ตอบแทนพระคุณพ่อแม่ มีวลาให้ท่านอย่างเต็มที่ อาวียองซ์ ร่วมเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจสู่การเปลี่ยนชีวิตที่ยิ่งใหญ่ ท่ามกลางพิษเศรษฐกิจ กับสัมมนาพิเศษ Change เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส ในทุกไตรมาส หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร.0-2434-8300 , 0-2434-8547 คุณสุจินดา , คุณแสงนภา , คุณชินนาร

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ