กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--IR PLUS
"ชูพงศ์ ธนเศรษฐกร" มั่นใจหุ้น 2S เข้าเทรดวันแรก 2 ก.ย.นี้ เนื้อหอม เหตุยอดจองล้นเกินจำนวนหุ้นสะท้อนความนิยมจากแฟนหุ้น IPO คาดอาจมีบางส่วนตามเข้าเก็บหุ้นในกระดาน เนื่องจากมั่นใจในธุรกิจและปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ขณะที่บิ๊ก 2S ตอกย้ำความมั่นใจแฟนพันธุ์แท้ ระบุครึ่งปีหลังธุรกิจเหล็กมีทิศทางเริ่มฟื้นตัวชัดเจน จากการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ หวังหนุนผลประกอบการโดดเด่นต่อเนื่อง หลังจากครึ่งปีแรกยังรักษามาร์จิ้นไว้ได้อย่างเหนียวแน่น แม้รายได้ต่ำกว่าปีก่อนจากราคาเหล็กที่ตกต่ำลง
นายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร กรรมการผู้จัดการ สายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CGS) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นของ บริษัท เซาท์เทิร์น สตีล จำกัด (มหาชน) (2S) กล่าวอย่างมั่นใจว่าหุ้น 2S หลังจากเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 2 กันยายน 2552 น่าจะได้รับการตอบรับในทิศทางที่ดีจากนักลงทุน ซึ่งจะเห็นได้จากการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 60 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 19-21 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่กำหนดราคาเสนอขายที่ 1.90 บาท/หุ้น พบว่ามียอดจองซื้อเกินจำนวนหุ้นที่จัดสรรอีกเป็นจำนวนมาก และมีการสอบถามข้อมูลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจว่าจะมีนักลงทุนบางส่วนที่พลาดจากการจองซื้อหุ้น IPO ดังกล่าวตามเข้ามาซื้อหุ้นในกระดานด้วย
'หลังจากเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้น บมจ.เซาท์เทิร์น สตีล พบว่ากระแสตอบรับจากนักลงทุนออกมาดีมากจนยอดจองเกินจำนวนหุ้นที่จัดสรรอีกเป็นจำนวนมาก ก็อาจจะเป็นไปได้ว่านักลงทุนที่พลาดหวังจากการจองซื้อหุ้น IPO จะกลับเข้ามาเก็บหุ้นในกระดานแทน ดังนั้นจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้หุ้น 2S ได้รับความนิยมจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เข้าทำการซื้อขายในกระดานวันแรก วันที่ 2 กันยายน 2552 ประกอบกับการระดมทุนของ บมจ.เซาท์เทิร์นสตีล ในครั้งนี้จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ผลประกอบการมีอัตราการเติบโตที่ดีต่อเนื่องในอนาคต และทำให้ฐานทุนของบริษัทเข้มแข็งขึ้น' นายชูพงศ์กล่าว
นายแสงรุ้ง นิติภาวะชน กรรมการผู้จัดการ บมจ.เซาท์เทิร์นสตีล (2S) กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจเหล็กในครึ่งปีหลังว่ามีทิศทางเริ่มฟื้นตัวชัดเจน จากการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ที่จะทยอยลงสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ ได้รับผลดีจากปัจจัยดังกล่าวตามไปด้วย ประกอบกับทิศทางของราคาเหล็กในครึ่งปีหลังมีโอกาสเคลื่อนไหวในทิศทางที่ดีตามความต้องการใช้เหล็กที่คาดว่าจะสูงขึ้นดังกล่าว จึงคาดว่าจะสนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทฯ มีทิศทางที่ดีตามไปด้วยเมื่อเปรียบเทียบกับครึ่งปีแรก
"คาดว่าหุ้น 2S จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี จากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ประกอบกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น นั่นเป็นเพราะเราดำเนินธุรกิจอย่างรัดกุม รวมถึงการบริหารความเสี่ยงและควบคุมต้นทุนได้เป็นอย่างดี จึงเชื่อว่าเมื่อเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันที่ 2 กันยายนนี้ จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดีและจะไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง"
เขากล่าวอธิบายเพิ่มเติมว่า 2S เป็นบริษัทฯ ที่มีปัจจัยพื้นฐานที่โดดเด่น มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนต่ำมาก และที่ผ่านมามีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมออีกด้วย ที่สำคัญเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจให้มีการเติบโตและพัฒนาศักยภาพของบริษัทให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นรวมไปถึงเพิ่มความสามารถในการแข่งขันพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และในฐานะผู้บริหารก็พร้อมจะเดินหน้าผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต
ข้อมูล บริษัท เซาท์เทิร์นสตีล จำกัด (มหาชน)
บริษัท เซาท์เทิร์นสตีล จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเหล็กแผ่น ท่อเหล็ก เหล็กรางรูปตัวซีลวดตะแกรงเหล็ก และผลิตภัณฑ์เหล็กรูปพรรณอื่นๆ เช่น เหล็กฉากพับ เหล็กแบนตัด เหล็กตัวซีพับ และเหล็กรางพับให้แก่ลูกค้าในภาคใต้ของประเทศและประเทศมาเลเซีย โดยมีกำลังการผลิตรวมประมาณ 145,800 ตันต่อปี(ไม่รวมกำลังการผลิตของเหล็กม้วนแถบเล็ก) ซึ่งแบ่งเป็นกำลังผลิตของเหล็กแผ่น (Steel Sheet) ประมาณ 30,000 ตันต่อปี เหล็กตัวซีประมาณ 58,000 ตันต่อปี ท่อเหล็กประมาณ 48,000 ตันต่อปี เหล็กแบนพับประมาณ 5,000 ตันต่อปี และลวดตะแกรงเหล็ก (Wire Mesh)ประมาณ 4,800 ตันต่อปี นอกจากนี้บริษัทยังดำเนินธุรกิจซื้อมาและจำหน่ายไปผลิตภัณฑ์เหล็กรูปพรรณอื่นๆ ที่บริษัทไม่ได้ผลิตเอง เช่น ท่อเหล็กชุบสังกะสีเหล็กฉาก เหล็ก H-Beam เหล็ก I-Beam เหล็กรางน้ำ เหล็กแผ่นลาย เหล็กม้วน และเหล็กเพลาขาว เป็นต้น หรือท่อเหล็ก เหล็กรางรูปตัวซีและลวดตะแกรงเหล็กซึ่งมีขนาดที่บริษัทไม่สามารถผลิตเองได้
ปัจจุบัน บริษัทมีทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้ว 200,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 200,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีความประสงค์ที่จะนำเงินสุทธิจำนวนประมาณ 105.28 ล้านบาท ที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรกจำนวน 60,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 30 ของทุนจดทะเบียนของบริษัท ในราคาหุ้นละ 1.90 บาท ไปใช้สำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียน
บริษัท นีสเทิร์นสตีล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย โดย 2S ถือหุ้นร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 90 ล้านบาท ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเหล็กแผ่น ท่อเหล็ก เหล็กรางรูปตัวซี รวมทั้งดำเนินธุรกิจซื้อมาและจำหน่ายไปผลิตภัณฑ์เหล็กรูปพรรณอื่นๆ เช่น ท่อเหล็กชุบสังกะสีเหล็กฉาก เหล็ก H-Beam เหล็ก I-Beam เหล็กรางน้ำ เหล็กแผ่นลาย เหล็กม้วน และเหล็กเพลาขาว เป็นต้น หรือท่อเหล็ก และเหล็กรางรูปตัวซี ซึ่งมีขนาดที่บริษัทย่อยไม่สามารถผลิตเองได้ ให้แก่ลูกค้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ โดยมีกำลังการผลิตรวมประมาณ 137,000 ตันต่อปี (ไม่รวมกำลังการผลิตของเหล็กม้วนแถบเล็ก) ซึ่งแบ่งเป็นกำลังผลิตของเหล็กแผ่น (Steel Sheet) ประมาณ 30,000 ตันต่อปี เหล็กตัวซีประมาณ 80,000 ตันต่อปีท่อเหล็กประมาณ 27,000 ตันต่อปี
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
IR PLUS : คุณจุฬารัตน์ เจริญภักดี (ฟ้า) Mobile. 089-4888337 , Tel 02-5549395