กรุงเทพฯ--5 เม.ย.--สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ
พลเรือเอก สมใจ วัฒนโยธิน ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพเรือ เป็นผู้แทนกองทัพเรือ วางพานพุ่ม ประดับดอกไม้ เนื่องในวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ ณ ปฐมบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก สะพานพระพุทธยอดฟ้า กรุงเทพมหานคร ในวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๔๙
วันที่ ๖ เมษายน ของทุกปีเป็นวันที่ระลึกมหาจักรี เนื่องจากวันนี้เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๒๕ เป็นวันที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสด็จปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ แห่งราชวงศ์จักรี และทรงสร้างกรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงของไทย ด้วยพระมหากรุณาธิคุณดังกล่าว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดเกล้า ฯ ให้หล่อพระบรมรูปพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑ - ๔ เพื่อประดิษฐานไว้ให้พระมหากษัตริย์องค์ต่อมา พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ และประชาชน ได้ถวายบังคมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณเป็นธรรมเนียมปีละครั้ง และโปรดเกล้าให้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และมีการย้ายที่หลายครั้ง เช่นพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ปราสาท และ พระที่นั่งศิวาลัยปราสาท เป็นต้น ในรัชกาลที่ ๖ โปรดให้ย้ายพระบรมรูปทั้ง ๔ รัชกาลมาไว้ ณ ปราสาทพระเทพบิดร ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พร้อมกับพระบรมรูปของรัชกาลที่ ๕ พระชนกนาถ พระที่นั่งองค์นี้ รัชกาลที่ ๖ โปรดให้ซ่อมจากพุทธปรางค์ปราสาทเพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะ และได้พระราชทานนามดังกล่าว การซ่อมแซมก่อสร้างและประดิษฐานพระบรมรูปทั้ง ๕ รัชกาล สำเร็จลุล่วงในเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๖๑ จึงได้มีพระบรมราชโองการประกาศตั้งพระราชพิธีถวายบังคมพระบรมรูป ในวันที่ ๖ เมษายน ปีนั้น และต่อมา โปรด ฯ ให้เรียกวันที่ ๖ เมษายน ว่า "วันจักรี" โดยการถวายสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ที่ปฐมบรมราชานุสรณ์นั้น มีมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๗๖ โดยการเสด็จฯของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต่อมาในระหว่าง พ.ศ. ๒๔๙๕-พ.ศ. ๒๔๙๖ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน ได้เสด็จพระราชดำเนินไปถวายพวงมาลา เป็นราชสักการะ หลังจากนั้นทรงมีพระราชปรารภพระราชทาน พลตรี หม่อมทวีวงศ์ถวัลยศักดิ์ (ม.ร.ว.เฉลิมลาภ ทวีวงศ์) เลขาธิการพระราชวัง ว่า การวางพวงมาลาตามคตินิยมของชาวไทยใช้สำหรับการไว้อาลัยผู้ที่จากไป แต่วันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ ๖ เมษายน นั้น เป็นมงคลดิถีคล้ายวันที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ สถาปนาพระบรมราชวงศ์จักรี การถวายพวงมาลาจึงไม่เป็นการงดงามเหมาะสม ในปี พ.ศ. ๒๔๙๗ สำนักพระราชวังได้เปลี่ยนเป็นจัดพานพุ่มดอกไม้สดทูลเกล้า ฯ ถวายเป็นเครื่องราชสักการะ ซึ่งได้ปฏิบัติ สืบมาจนถึงปัจจุบัน
(ที่มา :http://www.culture.go.th/knowledge/vid/rama1/chrakree.htm)