กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
กลุ่มอุตสาหกรรมผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ชั้นนำของโลก ชื่นชมรัฐบาลที่วางกลยุทธ์พร้อมนำไปสู่การปฎิบัติอย่างได้ผลในการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์อันดับ 1 ของโลก เชื่อมั่นรัฐบาลไทยเดินมาได้ถูกทาง ผนึกกำลังขานรับนโยบายรัฐบาล “กระตุ้นเศรษกิจ (SP-2)” พร้อมประกาศสนับสนุนการพัฒนาผู้ประกอบการไทย(SMEs) พัฒนางานวิจัย และเร่งสร้างกำลังคน ร่วมกับสวทช. เพื่อเป็นผู้นำการส่งออกอันดับ 1 ของโลก ยาวไปถึง 10 ปีข้างหน้า
กลุ่มอุตสาหกรรมผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ชั้นนำของโลกที่ตั้งมั่นฐานการผลิตในประเทศไทย กล่าวชื่นชมรัฐบาลที่วางกลยุทธ์พร้อมนำไปสู่การปฎิบัติอย่างได้ผล ในการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์อันดับ 1 ของโลกอย่างต่อเนื่อง เชื่อมั่นรัฐบาลไทยเดินมาได้ถูกทาง พร้อมประกาศสนับสนุนการพัฒนาผู้ประกอบการไทย(SMEs) ล่าสุด Hatchinsun ส่งผู้บริหารระดับสูงมาหารือพร้อมใกล้จะประกาศจำนวนเงินและโครงการที่จะมาลงทุนในประเทศไทย คาดมีมูลค่านับหมื่นล้านบาท
ดร.ชิต เหล่าวัฒนา ผู้จัดการโปรแกรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยถึงความก้าวหน้าของการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ในประเทศไทย ซึ่งโปรแกรมฮาร์ดิสก์ไดรฟ์ ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2549 ว่าสวทช. ภายใต้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมที่จะส่งผลกระทบทั้งในเชิงเศรษฐกิจและสังคมให้กับประเทศได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยอุตสาหกรรมฯมีสัดส่วนของปริมาณการผลิตรวมเป็นอันดับ 1 ของโลก มีการจ้างแรงงานกว่า 100,000 คนและการส่งออกมากกว่า 5 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม การดึงดูดการลงทุนของประเทศเพื่อนบ้านและประเทศพัฒนาใหม่ เช่น ประเทศจีน ประเทศสิงคโปร์ ประเทศมาเลเซีย การพัฒนาของเทคโนโลยีใหม่เพื่อรองรับการผลิตสำหร้บฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ที่มีขนาดเล็ก หรือที่มีความสามารถในการจุข้อมูลมากขึ้น ตลอดจนความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานที่จะรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลอย่างมากต่อการคงอยู่ของอุตสาหรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ในประเทศไทย ดังนั้น โจทย์ที่สำคัญสำหรับประเทศไทยคือ ทำอย่างไรจะรักษาฐานการผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ที่สำคัญของโลกที่เป็นอยู่ให้คงอยู่ต่อไปในประเทศไทยและทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มภายในประเทศและความเชื่อมโยงต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต
โปรแกรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ได้รับมอบหมายจากทาง สวทช.ภายใต้กระทราวงวิทยาศาสตร์ เพื่อจัดกิจกรรมสนับสนุนอุตสาหกรรมฯ ตลอดระยะเวลา 4 ปี โดย ร่วมกับศูนย์วิจัยร่วมเฉพาะทางด้านขบวนการผลิตชั้นสูงของฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ ศูนย์วิจัยร่วมเฉพาะทางด้านส่วนประกอบของฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ และศูนย์วิจัยร่วมเฉพาะทางด้านเทคโนโลยีการบันทึกข้อมูล ในการสนับสนุนทุนการศึกษา วิจัย มากกว่า 300 ทุน แก่นักศึกษาปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญญาเอกของคลัสเตอร์อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟและจากนักวิจัยในเครือข่ายพันธมิตร เพื่อสนับสนุนงานวิจัยและการพัฒนาบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมดังกล่าว
จากการดำเนินงานที่ผ่านมา ทางสวทช.ได้รับการตอบรับอย่างดีจากภาคอุตสาหกรรมฯ ทั้งที่เป็นผู้ผลิต ผู้ประกอบชิ้นส่วน รวมถึงหน่วงานที่เกี่ยวข้องอย่างดี แม้ช่วงเวลา 2-3 ไตรมาสที่ผ่านมา ภาวะเศรษฐกิจจะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมในประเทศ แต่ผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ก็สามารถปรับตัวได้ และมีผลประกอบการที่ดีขึ้นเป็นลำดับต้นๆ ไม่เพียงเท่านั้นยังเร่งการลงทุนด้านการวิจัยในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอีกด้วย
“ เราได้รับการติดต่อจากผู้ผลิตรายใหญ่เช่น Hitachi WD และ Seagate เพื่อร่วมมือการจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนากระบวนการผลิตตั้งแต่ปลายปี2551 เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิต อีกทั้งได้ร่วมหารือแนวทางการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้สามารถรับงานของผู้ผลิตที่มีแนวโน้มจะขยายตัวขึ้น และเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมของประเทศในระยะยาว ทางโปรแกรมฯเองได้เริ่มดำเนินโครงการที่เป็นความร่วมมือกับบริษัท ฮิตาชิโกล บอลสตรอเรจ ประเทศไทย จำกัด และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ในการทำสายการผลิตอัตโนมัติ ซึ่งมีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมโครงการดังกล่าวด้วย “
ด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่ทางสวทช.เร่งดำเนินการเป็นกิจกรรมที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศโดยรวม โดยมุ่งเน้นกลยุทธ์ที่สำคัญ คือการพัฒนาด้านเทคโนโลยี หรือการพัฒนากระบวนการผลิตต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ควบคู่กับการพัฒนาทรัพยากรบุคคลเพื่อที่จะเตรียมทักษะและความพร้อมให้กับบุคลากรในอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ เพิ่มขีดความสมารถของผู้ประกอบการไทยเพื่อสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรม และเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับประเทศไทยสำหรับการดึงดูดเทคโนโลยีขั้นสูงให้เข้ามาลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้น ดังตัวอย่างความมั่นใจของผู้ผลิตชิ้นส่วนรายใหญ่จากสหรัฐอเมริกา เช่นบริษัทฮัชชินสัน ที่ได้ตัดสินใจขยายการลงทุนมูลค่ากว่า 1,000 ล้านในประเทศไทยเป็นต้น
ความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อให้ประเทศไทยสามารถยืนหยัดทั้งการรักษาฐานการผลิต และการดึงดูดการลงทุนเพิ่มจากนักลงทุนต่างชาติ ตลอดจนการสร้างผลกำไรเพิ่มขึ้น ประเทศไทยจำเป็นต้องมีการพัฒนาผู้ประกอบการไทยที่สามารถผลิตชิ้นส่วน และเครื่องมือ ให้มีความรู้ความสามารถรับงานจากผู้ผลิตรายใหญ่ได้ เพื่อลดต้นทุน และเวลา อันเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจดังกล่าว
“อย่างไรก็ดีการส่งเสริมบริษัทคนไทยให้สามารถทำงานร่วมกับบริษัทข้ามชาติ เราจำเป็นต้องมีความพร้อมทั้งในด้านสถานที่ ความพร้อมของบุคลากร การสนับสนุน “อย่างจริงจัง” จากภาครัฐ ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านคู่แข่งของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิงคโปร์ มาเลเซีย ต่างมีมาตรการที่จะสร้างความได้เปรียบ และจูงใจที่ชัดเจน เช่นมาตรการจูงใจทั้งในรูปของเงิน และกิจกรรมสนับสนุนบริษัทและคนของเขาอย่างต่อเนื่อง ไทยเราจำเป็นต้องเร่งพัฒนากลยุทธ์ แข่งขันกับคู่แข่งทั้งสองให้ได้ หากเรานิ่งเฉยเราจะแพ้ทันที ดังนั้นกำลังสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสนับสนุนจากภาครัฐเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ของไทย ผมขอขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้การสนับสนุนผ่านงบประมาณ “กระตุ้นเศรษกิจ (SP-2)” ผมมั่นใจว่า ภายในเวลาไม่เกินสามปี งบหนึ่งบาทที่เราลงทุนกันในวันนี้จะคืนมาสิบบาทในเชิงรายได้ของบริษัทคนไทยในอุตสาหกรรมนี้ครับ” ดร. ชิต กล่าวในที่สุด
ผู้ส่งข่าว : สุทิศา อภิสิริเดช
ผู้จัดการโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์
โทรศัพท์ : 0 2564 6955-8
โทรสาร : 0 2564 6959
E-mail : hddi-all@nstda.or.th, Sutisa@nstda.or.th Website : http://www.hddi.in.th
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 025646857 อรรถกร ศิริสุวรรณ