กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--พีอาร์ วัน เน็ทเวิร์ค
เอสเอพีติดอันดับ 1 ใน 10 ผู้นำในการให้บริการชุมชนทางสังคมออนไลน์ พร้อมเดินหน้าพัฒนาบริการบน SAP Community Network เพื่อช่วยให้สมาชิกได้รับข้อมูลเชิงลึกที่ดีกว่า ผ่านนวัตกรรมการประสานการทำงานร่วมกัน
เอสเอพีติดอันดับ 1 ใน 10 จากผลการรายงานเรื่อง “Most Engaged Brands On The Web” จากการเปิดให้บริการชุมชนทางสังคมออนไลน์แก่ลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจที่เว็บไซต์ SAP Community Network ซึ่งเป็นช่องทางสื่อสารกับชุมชนทางสังคมออนไลน์ โดยมีทั้ง เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ วิกิ (Wiki) และบล็อค นอกจากนี้ เอสเอพี ประเทศเยอรมนี (SAP AG) ยังเพิ่มบริการและคุณสมบัติใหม่ๆ เข้าไปในเว็บไซต์แห่งนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นแก่สมาชิกกว่า 1.7 ล้านคนทั่วโลก
ข้อมูลดังกล่าวปรากฎอยู่ในรายงาน ENGAGEMENTdb Report จัดทำโดย Wetpaint/Altimeter Group จัดอันดับเอสเอพีไว้ว่าเป็นบริษัทแบบ Business-to-Business เพียงบริษัทเดียวที่ติดอันดับ 1 ใน 10 จาก 100 ตราสินค้าระดับโลกที่มีชุมชนทางสังคมออนไลน์ อันแสดงให้เห็นถึงนโยบายของบริษัทที่เอาจริงเอาจัง และการเสียสละเวลาของทีมงานในการนำเสนออยู่บนชุมชนทางสังคมออนไลน์อย่างเข้มแข็ง โดยรายงานฉบับนี้เปิดเผยให้ทราบว่า ตราสินค้าทำเงินระดับโลกส่วนใหญ่ได้รับประสบการณ์ที่เกี่ยวเนื่องกันโดยตรงระหว่างประสิทธิภาพทางการเงิน และการเข้าถึง ชุมชนทางสังคมออนไลน์อย่างลึกซึ้งได้อย่างไร
ทั้งนี้ จากการลงทุนอย่างต่อเนื่องและการเข้าร่วมชุมชนทางสังคมออนไลน์ของเอสเอพี บริษัทยังได้เปิดตัวบริการด้านเครือข่ายชุมชนใหม่ๆ ซึ่งก่อให้เกิดชุมชนเฉพาะด้าน อาทิ Business Process Expert (BPX) ที่ทุ่มเทให้กับการสร้างความเข้าใจด้านInternational Financial Reporting Standards (IFRS) การวางระบบซอฟต์แวร์ SAP Business Suite 7 และสนับสนุนการทำงานร่วมกันกับ PlaNet Finance อีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น ปัจจุบันเอสเอพีเป็นผู้ให้บริการ OpenID ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานเข้าถึงเครือข่ายขนาดใหญ่ของพันธมิตรทางธุรกิจและแหล่งช้อมูลอื่นๆ ที่นำเสนออยู่ในเครือข่ายชุมชนผู้ใช้งานเอสเอพีได้ง่ายขึ้น โดยแพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันที่ดีกว่าเดิมทำให้ประสิทธิภาพการทำงานและการประสานการทำงานโดยรวมมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผ่านการจัดระดับคะแนนและความสามารถในการค้นหาที่ทำให้สมาชิกมีคุณค่าต่อเครือข่ายชุมชนยิ่งขึ้น
“โครงการสร้างชุมชนอย่างมีนวัตกรรมของเอสเอพี ทำให้เข้าถึงชุมชนได้อย่างลึกซึ้งและสร้างความเชื่อมั่นต่อบริษัทในระยะยาวทั้งจากลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ ในขณะเดียวกัน ยังได้เสียงสะท้อนถึงสิ่งที่ต้องมีในอุตสาหกรรมอย่างจำเพาะเจาะจง และโซลูชั่นที่ต้องการ” มร.วอร์เรน วิลสัน และ มร.นิชานท์ ซิง นักวิเคราะห์จาก Ovum เขียนไว้ในรายงานชิ้นล่าสุด โดยระบุอีกว่า “โครงการเกี่ยวกับชุมชนมีแนวโน้มที่จะได้รับการสนับสนุนอย่างมั่นคงยิ่งขึ้นในช่วงเวลาเศรษฐกิจที่ท้าทาย และมีโอกาสเติบโตเมื่อสภาวะเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว”
เทคโนโลยีที่ดีขึ้น สร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นแก่สมาชิกในชุมชน
เทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น เพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่สมาชิกในชุมชนออนไลน์ โดยทำให้การค้นหาและการเข้าถึงเนื้อหาง่ายกว่าเดิม ทั้งนี้ การรับฟังเสียงสะท้อนจากสมาชิก การเพิ่มยูสเซอร์อินเทอร์เฟส และการทำแอพพลิเคชั่นเพื่อการสืบค้น ทำให้การค้นหาข้อมูลข่าวสารนั้นง่ายขึ้น และการอนุญาตให้สมาชิกแก้ไขข้อมูลเพิ่มเติม ได้เองทำให้มีเนื้อหาสำคัญและสิ่งที่เกี่ยวข้องกับชุมชนทั้งหมดได้จำนวนมาก ช่วยเพิ่มการเข้าถึงแหล่งข้อมูลแก่กลุ่มผู้สนใจที่มีขนาดใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ พันธมิตรทางธุรกิจจะได้รับประโยชน์จากการที่ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ตลอดจนไฟล์ที่ใช้ในการทำโปรโมชั่น และลิงค์ไปยังแหล่งข้อมูลอื่นๆ สามารถค้นพบได้อย่างง่ายดายด้วยแอพพลิเคชั่นการสืบค้นที่ได้รับพัฒนาให้ดีขึ้น
ในขณะเดียวกัน การที่เอสเอพีนำ OpenID มาใช้กับชุมชนออนไลน์ ยังทำให้สมาชิกได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้นจากการใช้ Single Identity ซึ่งดูแลโดย OpenID Foundation มาใช้ในการล็อคอินเข้าสู่เว็บไซต์ต่างๆ ได้ในครั้งเดียว ช่วยให้ไม่ต้องจดจำรหัสผ่านและชื่อสมาชิกที่มากมายและยุ่งยาก นอกจากนี้ การใช้ OpenID ยังทำให้การเข้าถึงเว็บไซต์ได้เร็วขึ้น มีความเป็นส่วนตัว และเข้าถึงข้อมูลได้ดียิ่งขึ้นจากเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจที่มีอยู่อย่างมากมายของเอสเอพี โดยสมาชิกที่ใช้ OpenID แล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนเพื่อสร้างรายชื่อสมาชิกใหม่อีกต่อไป เนื่องจากสามารถล็อคอินเข้าระบบโดยอัตโนมัติไปสู่เว็บไซต์ที่ต้องการได้ทันที ขณะเดียวกัน OpenID ยังใช้เพื่อระบุตัวตนและแสดงตัวตนในเว็บไซต์ที่ผู้ใช้เชื่อถืออีกด้วย
ความสำเร็จของเอสเอพี ต่อชุมชนออนไลน์นั้น สามารถกล่าวได้ว่า เกิดขึ้นจากความตรงไปตรงมา และความสามารถของสมาชิกในการสะท้อนสิ่งที่ต้องการผ่านการสร้างเนื้อหาในเว็บไซต์ ในขณะที่คุณสมบัติด้านการให้คะแนนหรือการจัดอันดับทำให้การสะท้อนสิ่งที่ต้องการจากสมาชิกในชุมชนออนไลน์ทำได้โดยตรง เพื่อช่วยให้สมาชิกรายอื่นๆ ไปยังเนื้อหาจำนวนมหาศาลที่มีอยู่ในห้องสมุดเสมือนของชุมชนออนไลน์ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้สมาชิกสามารถสะท้อนสิ่งที่ต้องการในแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆ ได้อีก อาทิในหน้า whitepapers, webinars, blogs และ e-learnings ของ SAP Community Network โดยการเพิ่มโอกาสในการสะท้อนความต้องการดังกล่าว ช่วยให้เจ้าของเนื้อหาเข้าใจความต้องการของผู้ใช้อื่นๆ และยึดถือในคุณภาพระดับมาตรฐานที่คาดหวังโดยชุมชน
คุณสมบัติใหม่ในชุมชนออนไลน์ Business Process Expert (BPX)
ชุมชนออนไลน์ Business Process Expert (BPX) เป็นเครือข่ายออนไลน์ที่เชื่อมโยงลูกค้าของเอสเอพี พันธมิตรทางธุรกิจ และสมาชิกในชุมชนเข้าไว้ด้วยกัน โดยมีเวทีสนทนาที่มีลักษณะเฉพาะตัว และแหล่งรวบรวมองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องด้วยมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับเอสเอพีอย่างหลากหลายและกว้างขวาง โดยมีสิ่งที่เพิ่มเติมเข้าไปใหม่ คือชุมชนออนไลน์ด้าน International Financial Reporting Standards (IFRS) และ SAP Business Suite 7 ที่ซึ่งสมาชิกสามารถส่งข้อความหรือตอบประเด็นสงสัยให้สมาชิกด้วยกัน รวมถึงการแลกเปลี่ยนบทความและเอกสาร และร่วมกันเขียนบล็อคเพื่อบอกเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับ IFRS และ SAP Business Suite 7 ได้
เอสเอพีเชื่อว่า IFRS คือการเปลี่ยนแปลงกระแสหลักด้านระบบการเงินของหลายๆ บริษัทในการนำเสนอรายงานทางการเงิน โดยชุมชนใหม่นี้จะให้ความสำคัญไปที่ผลกระทบที่ IFRS มีต่อธุรกิจ และโซลูชั่นของเอสเอพีช่วยให้การเปลี่ยนผ่านไปยังระบบใหม่นี้ง่ายขึ้นได้อย่างไร ทั้งนี้ จากความพร้อมในการทำงานตามมาตรฐาน IFRS ในโซลูชั่นจากเอสเอพี ชุมชนออนไลน์คือศูนย์รวมองค์ความรู้ที่มีข้อมูลพร้อมว่าจะเริ่มต้นวางแผนพัฒนาระบบเพื่อรองรับมาตรฐาน IFRS ได้อย่างไร ในขณะที่บล็อคจากผู้เชี่ยวชาญและเวทีสนทนาคือแหล่งที่สมาชิกสามารถเข้ามาถามเกี่ยวกับการวางระบบได้ ส่วนเว็บ SAP EcoHub ยังคงมีข้อมูลเกี่ยวกับพันธมิตรทางธุรกิจและบริการที่บริษัทเสนอเพื่อช่วยในการวางระบบ IFRS
ชุมชนออนไลน์ SAP Business Suite 7 มีเวทีสนทนาสำหรับผู้ใช้งานซอฟต์แวร์ยุคใหม่ของเอสเอพี ซึ่งช่วยให้ธุรกิจปรับแต่งกระบวนการทำงานเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด และช่วยให้ค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศลดลง ในชุมชนออนไลน์นี้ยังมีแหล่งข้อมูลที่เปิดเผยประสบการณ์การใช้งานอย่างตรงไปตรงมา เป็นแหล่งให้สมาชิกได้เรียนรู้จากผู้ใช้งานรายอื่น มีไฟล์ต่างๆ และข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ ตลอดจนมูลค่าที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมต่างๆ จากกระบวนการทางธุรกิจ โดยให้ความสำคัญกับผลที่อุตสาหกรรมแต่ละชนิดได้รับ ซึ่งช่วยให้เกิดการขยายประสิทธิภาพขององค์กรและแอพพลิเคชั่นที่มีอย่างมากมาย
เอสเอพียังมีนโยบายระยะยาวในการร่วมงานกับ PlaNet Finance ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรชั้นนำระดับสากลที่สนับสนุนสถาบันทางการเงินที่ให้บริการแก่ผู้มีรายได้น้อยในแถบภูมิภาคของโลกที่มีประเทศยากจน โดยเอสเอพีได้เปิดตัวชุมชนแห่งใหม่เพื่อสร้างชุมชนออนไลน์ให้แก่ผู้ใช้งานที่สามารถเข้าร่วมได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือตลาดที่ยังไม่มีผู้ให้บริการ ซึ่งตั้งเป้าจำนวนผู้เข้าร่วมชุมชนไว้ที่ 3,000 ราย ในปีนี้ โดยเอสเอพีจะสนับสนุนเงิน 200,000 ยูโร ภายใต้การบริหารโครงการผ่าน PlaNet Finance.
“ชุมชนออนไลน์ของเอสเอพีในด้านนวัตกรรมมีองค์ความรู้ที่สะสมอยู่ ร่วมกับพลังของนักพัฒนา พันธมิตร ลูกค้า ผู้เชี่ยวชาญด้านกระบวนการทางธุรกิจ และอื่นๆ จะช่วยให้ลูกค้าเพิ่มผลการลงทุนทางเทคโนโลยีได้สูงสุด” มร.มาร์ค โยลตัน รองประธานอาวุโส จาก SAP Community Network กล่าว “ชุมชนออนไลน์ของเอสเอพีมีสิ่งแวดล้อมในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่เชื่อถือได้และถูกต้อง เพื่อแลกเปลี่ยนความต้องการและโซลูชั่นที่จำเพาะเจาะจง ในการสร้างนวัตกรรมร่วมกันซึ่งจะนำไปสู่รายได้ การเติบโต และมูลค่าที่ลูกค้าจะได้รับมากยิ่งขึ้น”
SAP Community Network เป็นชุมชนออนไลน์ที่สร้างแรงสะท้อนให้เกิดขึ้นทั้งจากลูกค้า พันธมิตร พนักงาน และผู้นำทางความคิดจากทั่วโลกที่เข้ามาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในหัวข้อต่างๆ มากมายที่เกี่ยวกับเอสเอพี ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมแบบเปิดสำหรับผู้เชี่ยวชาญ เกิดการทำงานร่วมกันอย่างตรงไปตรงมาแบบมีปฏิสัมพันธ์ต่อเนื่องผ่านบล็อค วิกิ (Wiki) และเวทีสนทนา อีกทั้งทำให้สมาชิกเข้าถึงข่าวสารและแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ ดังนั้นจึงสามารถร่วมกันสร้างนวัตกรรมในการแก้ไขปัญหาให้เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และตอบสนองต่อปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
เกี่ยวกับบริษัท เอสเอพี (ประเทศไทย) จำกัด
บริษัท เอสเอพี (ประเทศไทย) จำกัด ได้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1995 ในปัจจุบัน SAP Thailand มีลูกค้าในประเทศไทย มากกว่า 500 ราย หรือมากกว่า 1000 installations ซึ่งเป็นลูกค้าทั้งในหน่วยงานราชการรัฐวิสาหกิจ เอกชน องค์กรต่างประเทศ ระบบงานของ เอสเอพี นั้นได้ถูกจัดทำขึ้น ให้สามารถรองรับกฎหมายของประเทศไทยและนอกจากนี้ยังสนับสนุนการทำงานเป็นภาษาไทยด้วยเช่นเดียวกัน โดยที่ระบบงานของ SAP นั้นสามารถรองรับการทำงานขององค์กรได้ทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดย่อม หากท่านต้องการติดต่อสอบถามหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชั่นของทาง SAP ท่านสามารถติดต่อได้ที่ SAP Thailand Ltd.— ชั้น 9 อาคารลิเบอร์ตี้สแควร์ ถนนสีลม บางรัก กทม. Tel: (662) 631 1800; Fax: (662) 631 1818; e-mail: info.thailand@ sap.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน :
วิไลลักษณ์ ภักดี บริษัท เอสเอพี (ประเทศไทย) จำกัด
โทร.02- 631-1800, wilailak.pakdee@sap.com
ภัทธิรา บุรี และ อุทัยวรรณ ชูชื่น บริษัท พีอาร์ วัน เน็ทเวิร์ค จำกัด
โทร. 02-937-4518-9, pattrira@pr-one.com, utaiwan@pr-one.com