ชุดควบคุมระบบอิเล็กทรอนิกส์ขั้นพื้นฐานจากคอนติเนนทอล: ใช้งานง่าย เป็นระบบที่มีความยืดหยุ่นสูง และยังราคาประหยัด

ข่าวยานยนต์ Tuesday September 1, 2009 17:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส - ชุดควบคุมระบบอิเล็กทรอนิกส์ขั้นพื้นฐาน (Basic Function Controller หรือ BFC) คือพัฒนาการใหม่จากคอนติเนนทอล ทำหน้าที่เป็นศูนย์ควบคุมการทำงานของรถยนต์กลุ่มรถประหยัด - ออกแบบมาตามฟังก์ชั่นการทำงานที่ต้องใช้บ่อย มีทั้งความยืดหยุ่นสูง และราคาที่ประหยัด - เริ่มติดตั้งเป็นครั้งแรกแล้วในปีนี้ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานของรถที่ผลิตในประเทศจีน โดยโรงงานจีลี่ แม้ว่าในปัจจุบันนี้สภาพตลาดรถยนต์ในอเมริกาเหนือ ยุโรป และญี่ปุ่น ดูเหมือนจะถึงยุคอิ่มตัว แต่การผลิตรถยนต์ในตลาดโลกก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จาก 63 ล้านคัน ในปี 2548 ก็มีการคาดคะเนว่าน่าจะทะยานถึง 74 ล้านคัน ในปี 2556 โดยประเทศผู้ผลิตที่กำลังเติบโตอย่างบราซิล จีน อินเดีย และรัสเซีย จะเข้ามาเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ระดับโลกถึง 20% ในปี 2556 เมื่อมองในตลาดที่กำลังเติบโตต่าง ๆ รถยนต์ราคาประหยัด ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ความสะดวกพอประมาณ และระบบควบคุมพื้นฐานทั้งที่เป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ และระบบไฟฟ้า มีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอย่างมาก ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในรถยนต์ประเภทดังกล่าวเทียบเท่าได้กับรถยนต์ขนาดกลางในยุโรปเมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้ว ยกตัวอย่างเช่นระบบกระจกไฟฟ้าแบบ anti-pinch protection ระบบช่วยการจอดรถโดยใช้อัลตราโซนิก (ultrasonic parking assist systems) ระบบควบคุมแสงไฟ, (light management) ระบบเซ็นทรัลล็อคโดยรีโมทคอนโทรล (remote control for central locking system) กุญแจระบบ immobilizer หรือระบบปัดน้ำฝน ระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ของรถยนต์นั้น ต้องมีความยืดหยุ่น และสามารถลดหรือเพิ่มได้ตามความต้องการ โดยผู้ผลิตรถ และผู้ผลิตชิ้นส่วนต้องทำงานร่วมกันเพื่อตอบโจทย์ที่เป็นความต้องการของตลาดซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา อุปกรณ์ต่างๆ ในรถยนต์ราคาประหยัดนั้นจะขึ้นอยู่กับแต่ละตลาด ซึ่งจะมีความต้องการแตกต่างกันอย่างกว้างขวาง ขึ้นอยู่กับว่ารถคันนั้นจะถูกส่งออกไปขายยังตลาดในประเทศใด ยิ่งกว่านั้นปัจจัยด้านราคาก็เป็นแรงกดดันที่มีความสำคัญไม่น้อย เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด วิศวกรในส่วนธุรกิจอุปกรณ์ภายในรถยนต์ที่เซี่ยงไฮ้ ได้พัฒนาชุดควบคุมระบบอิเล็กทรอนิกส์ขั้นพื้นฐานที่ออกแบบเฉพาะสำหรับตลาดที่กำลังเติบโต เรียกว่า The Basic Function Controller นี้ เพื่อทำหน้าที่แทนระบบสื่อสารที่เคยแยกเป็นส่วนๆ (individual relays) ยกตัวอย่าง เช่น ไฟกระพริบ (blinker) or แกนปัดน้ำฝน (wiper interval) โดยจับมาวางรวมในที่เดียว ชุดควบคุมระบบอิเล็กทรอนิกส์ขั้นพื้นฐาน (BFC) ได้นำมาประยุกต์ใช้ครั้งแรกในการผลิตเมื่อปลายปี 2551 โดยบริษัท จีลี่ จากประเทศจีน ส่วนการผลิตในประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียก็กำลังจะตามมา และเพื่อประสิทธิภาพในด้านราคา ก็ได้เลือกเอาเพียง 80 เปอร์เซ็นต์ของระบบที่ใช้งานบ่อย ๆ ในรถราคาประหยัด มารวมอยู่ในชุดควบคุมระบบอิเล็กทรอนิกส์ขั้นพื้นฐาน (BFC) ฟังก์ชั่นใดที่ไม่ได้ใช้งานบ่อยก็นำไปผนวกในระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่แยกต่างหาก โดยได้มีการเตรียมซอฟท์แวร์เผื่อไว้ให้สะดวกหากจะนำกลับมารวมอยู่ในชุดควบคุมระบบอิเล็กทรอนิกส์ขั้นพื้นฐาน (BFC) ในภายหลัง ตัวฮาร์ดแวร์ก็ถูกดีไซน์ขึ้นในรูปแบบและหลักการเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น ระบบที่แทบจะไม่ได้ใช้ชิ้นส่วนแยกชิ้น ชุดระบบควบคุมได้ถูกปรับเปลี่ยนให้ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดในราคาที่เหมาะสม รูปแบบดีไซน์ของชุดควบคุมระบบอิเล็กทรอนิกส์ขั้นพื้นฐาน (BFC) จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งาน และสเปคของบริษัทรถยนต์แต่ละบริษัท คอนติเนนทอลและบริษัทผู้ผลิตรถยนต์แต่ละรายทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ตรงตามมาตรฐานที่บริษัทรถยนต์ต้องการ และหากมีการเปลี่ยนฟังก์ชั่นมาตรฐานภายหลัง ก็จะมีการเปลี่ยนเป็นชุดใหม่ทั้งชุด โดยที่ชุดใหม่นี้อาจเปลี่ยนอุปกรณ์มาตรฐานทั้งหมด หรือมิฉะนั้นก็มีการเพิ่มฟังก์ชั่นเข้าไปกับอุปกรณ์เดิม ความคลาดเคลื่อนเพียงเล็กน้อยที่เกิดขึ้นบนฟังก์ชั่นการทำงานจะนำไปสู่การแก้ไขปรับเปลี่ยนพารามิเตอร์ของชิ้นส่วนนั้น ๆ ด้วยวิธีการดังกล่าวนี้ การดัดแปลงยานยนต์เพื่อให้ตรงกับความต้องการของตลาดส่งออกแต่ละตลาดจึงทำได้ด้วยความรวดเร็ว และยิ่งเมื่อแต่ละตลาดมีปัจจัยเรื่องราคาเข้ามาเกี่ยวข้องจึงเกิดเป็นความท้าทายที่จะลดฟังก์ชั่นบางอย่างลง หรือปรับฟังก์ชั่นลดระดับความซับซ้อนลงให้แตกต่างจากโมเดลในทวีปยุโรปเพื่อที่จะสามารถลดราคาของสินค้าลงได้ อย่างไรก็ตาม คอนติเนนทอลก็จะไม่ประนีประนอมเรื่องคุณภาพกับชุดควบคุมระบบอิเล็กทรอนิกส์ขั้นพื้นฐาน (BFC) ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องซอฟท์แวร์ หรือฮาร์ดแวร์ ทุกอย่างจะต้องได้มาตรฐานตามแนวนโยบายของบริษัท คอนติเนนทอลรับประกันความเชื่อมั่นสำหรับเทคโนโลยีแบบใหม่นี้ โดยได้ว่าจ้างให้วิศวกรรวมทั้งลูกค้าหลักของบริษัทให้ทดลองใช้ระบบดังกล่าว โดยมีผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ควบคุมดูแลตลอดกระบวนการผลิต โดยรับประกันประสิทธิภาพภายใน 1 ปี โดยปกติแล้ว คอนติเนนทอลจะไม่เสนอสินค้าที่เบ็ดเสร็จให้กับลูกค้าที่เป็นบริษัทรถยนต์ โดยเฉพาะในส่วนของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในที่เป็นมาตรฐาน แต่จะดูจากความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มจากอุปกรณ์มาตรฐานที่มีอยู่แล้ว สำหรับชุดควบคุมระบบอิเล็กทรอนิกส์ขั้นพื้นฐานนั้น คอนติเนนทอลให้ความสำคัญกับคุณภาพ ราคาที่เหมาะสม ภาพรวมขององค์ประกอบทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นความยืดหยุ่นในการใช้งาน scalability functionality ความวางใจ ความปลอดภัย ซึ่งมีความสำคัญยิ่งยวด ด้วยกลยุทธ์ดังกล่าว คอนติเนนทอลจึงสามารถนำเสนอแนวคิดของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในราคาที่เหมาะสมที่สุด ด้วยคุณภาพที่ดีที่สุด สำหรับตลาดที่กำลังเติบโต กลุ่มคอนติเนนทอล คอร์ปอเรชั่น เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและส่งมอบชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำลำดับต้นๆ ของโลก มียอดขายในปี 2551 มากกว่า 24 พันล้านยูโร หรือประมาณ 1.08 ล้านล้านบาท (1,080 พันล้านบาท) ในฐานะที่กลุ่มคอนติเนนทอล เป็นผู้จัดหาผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ที่สำคัญ ได้แก่ ระบบเบรก ระบบและชิ้นส่วนสำหรับระบบส่งกำลังและแชสซี หน้าปัดรถยนต์ อุปกรณ์เพิ่มความบันเทิงในรถยนต์ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในยานยนต์ ยางรถยนต์และยางสังเคราะห์ เป็นต้น กลุ่มคอนติเนนทอล มุ่งมั่นพัฒนาระบบและส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่สูงสุด อีกทั้งร่วมกันปกป้องสภาพแวดล้อมของโลกด้วย นอกจากนี้ คอนติเนนทอล ยังเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่เข้มแข็งในการพัฒนาเครือข่ายการสื่อสารที่ใช้ในยานยนต์ ปัจจุบัน กลุ่มคอนติเนนทอล คอร์ปอเรชั่น มีพนักงานประมาณ 130,000 คน ในสำนักงานกว่า 190 แห่งใน 35 ประเทศทั่วโลก กลุ่มยานยนต์คอนติเนนทอล เป็นหนึ่งในผู้นำการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ลำดับต้นๆ ของโลก ประกอบด้วย 3 ส่วนธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจแชสซีและความปลอดภัย (ยอดขาย 5.1 พันล้านยูโร พนักงาน 27,000 คน) ธุรกิจระบบส่งกำลัง (ยอดขาย 4 พันล้านยูโร พนักงาน 25,000 คน) และธุรกิจอุปกรณ์ภายในรถยนต์ (ยอดขาย 5.9 พันล้านยูโร พนักงานมากกว่า 30,000 คน) ในปี 2008 กลุ่มยานยนต์สามารถสร้างยอดขายรวมมากกว่า 15 พันล้านยูโร กลุ่มยานยนต์ มีสำนักงานกว่า 130 แห่งทั่วโลก ในฐานะพันธมิตรของอุตสาหกรรมยานยนต์ ได้มีการพัฒนาและผลิตชิ้นส่วนและระบบที่เป็นนวัตกรรมที่ตอบสนองต่อยานยนต์แห่งโลกอนาคตซึ่งรถยนต์สามารถตอบสนองความต้องการส่วนบุคคล ให้ความเพลิดเพลินในการขับ มีความปลอดภัยในการขับขี่สูง อีกทั้งยังปกป้องสภาพแวดล้อมของโลกและราคาประหยัดคุ้มค่าด้วย ธุรกิจแชสซีและความปลอดภัย พัฒนาและผลิตระบบเบรกอิเล็กทรอนิกส์ ระบบเบรกไฮดรอลิก ระบบควบคุมแชสซี เซ็นเซอร์ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ระบบควบคุมถุงลมนิรภัย เช่นเดียวกับ ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม ความสามารถหลักของสายงานนี้คือ การบูรณาการระบบป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุและระบบปกป้องหลังเกิดอุบัติเหตุไปสู่แนวคิดความปลอดภัยของคอนติการ์ด ส่วนธุรกิจระบบส่งกำลัง จะผสมผสานนวัตกรรม และระบบส่งกำลังยานยนต์ที่มีประสิทธิภาพ ธุรกิจนี้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์หลากหลายรวมถึงหัวฉีดแกสโซลีนและดีเซล ระบบจัดการเครื่องยนต์ ระบบควบคุมเกียร์ เซ็นเซอร์ และแอคทูเอเตอร์ ระบบจ่ายเชื้อเพลิงและชิ้นส่วน รวมทั้งระบบสำหรับรถยนต์ไฮบริด การจัดการข้อมูลเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจอุปกรณ์ภายในรถยนต์ ซึ่งเน้นการจัดการข้อมูลเป็นหัวใจสำคัญ ประกอบไปด้วยอุปกรณ์ภายในรถยนต์และหน้าปัดแสดงข้อมูล หน่วยควบคุมการเปิดปิดรถยนต์อัตโนมัติ ระบบตรวจสอบยางรถ วิทยุ ระบบมัลติมีเดียและระบบนำทาง ระบบควบคุมอุณหภูมิ เทเลมาติกส์ โมดุลที่นั่งคนขับ ผลิตภัณฑ์และบริการเสริมอื่น ๆ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ คุณปัณรษี ไทยวัชรามาศ บริษัท พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส จำกัด โทรศัพท์ 0-2651-8989 ต่อ 222 อีเมล์ panarasee@prassociates.net www.continental-corporation.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ