กรุงเทพฯ--2 ก.ย.--วีม คอมมูนิเคชั่น
ประเด็นสำคัญในการลงทุนทองคำแท่ง (Gold SPOT)
- ปัจจัยสำคัญด้านพื้นฐาน — วันนี้ราคาทองคำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อจากเมื่อคืน หลังนักลงทุนทั่วโลกกลับมาวิตกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในไตรมาส 3/09 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องผลประกอบการบริษัทและภาคการธนาคารของสหรัฐ นอกจากนี้เรื่องของตลาดหุ้นจีนก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ตลาดเฝ้าจับตา ดังนั้น ในระยะนี้ทองคำแท่ง จึงกลับมาทวีความสำคัญในการเป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยอีกครั้งหนึ่ง เช่นเดียวกับเงินดอลลาร์ เงินเยนและพันธบัตรรัฐบาลที่ขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มสูงที่จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินดอลลาร์ด้วย ซึ่งต่างจากช่วงที่ผ่านมาที่เคลื่อนที่สวนทางกัน (ดูข่าวสารสำคัญเพื่อการลงทุน + กราฟแสดงความสัมพันธ์ค่าเงินดอลลาร์กับราคาทองคำในหน้าถัดไป)
- กรอบการเคลื่อนไหวเชิงเทคนิคราคาทองคำแท่ง (Gold SPOT)
Source : Bisnews (Daily)
Source : Bisnews (30 Min)
- ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะสั้น — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, MACD 30 นาทีเคลื่อนตัวอยู่ในบวกทว่าได้ตัดเส้น Trigger จากด้านบนทำให้ดูราคาเป็นลบ, MACDF 30 เคลื่อนตัวอยู่ในแดนลบ ทำให้ดูตลาดเป็นลบ, Fast Stochastic เคลื่อนตัวอยู่ใต้เส้น Trigger ทำให้ ราคามีโอกาสจะกลับตัวขึ้น, RSI 30 นาทีอยู่ที่ระดับ 29.502 ถือเป็นระดับ oversold ทำให้ดูว่าราคามีโอกาสปรับตัวขึ้น, ทิศทางตลาดระยะสั้นดูเป็น Sideways แนวรับแนวต้านของวันอยู่ที่ $949-$960 ค่าเงินบาทในวันนี้อยู่ที่ระดับ ฿33.96-฿34.07
- ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะกลาง — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดระยะกลางยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, RSI อยู่ที่ระดับ 54.71 ถือเป็นระดับ Neutral และทำให้ดูว่าตลาดยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, MACD เคลื่อนตัวอยู่ใกล้ 0 ทว่าได้ตัดเส้น Trigger จากด้านล่างทำให้ดูราคาเป็นบวก, MACDFเคลื่อนตัวอยู่ในแดนบวกทำให้ดูตลาดเป็นบวก, Fast-Stochastic เคลื่อนตัวขึ้นทำให้ดูตลาดเป็นบวก, ทิศทางตลาดระยะกลางเป็นตลาด Sideways โดยจะใช้แนวต้านที่ $960 เป็นต้านระยะกลางที่สำคัญและแนวต้านต่อไปจะอยู่ที่ $990 ส่วนแนวรับระดับกลางอยู่ที่ $927 และ $912
ตาราง 3 : แนวรับ-แนวต้านที่สำคัญ
Source: YLG’s estimations
พิจารณาตารางที่ 3 และกราฟด้านซ้ายมือ พบว่าราคาทองคำแท่งที่ร้านค้าปลีกปิดล่าสุด (เส้นสีแดง = 15,350 บาท) ซึ่งต่ำกว่าราคาทองคำแท่ง (SPOT) ในตลาดโลกเช้านี้ (เส้นสีน้ำเงิน = 15,420 หรือที่ $954.00) แสดงถึงราคาทองคำแท่ง ณ. หน้าร้านขายปลีก มีส่วนลดจากราคาในตลาดโลก อยู่ 70 บาท ขณะที่ราคาของ GFV09 เมื่อวานนี้ปิดตลาดอยู่ที่ 15,430 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาในตลาดโลกเท่ากับ 10 บาท ซึ่งเท่ากับว่า GFV09 มีพรีเมี่ยมมากกว่าที่ร้านค้าปลีก ดังนั้น การเปิดสถานะขาย (Short) GFV09 แล้ว ซื้อ (Long) ทองคำแท่งที่ร้านทอง จะทำให้มีส่วนต่างของกำไรที่คาดหวัง อยู่ที่ 10+70 = 80 บาทต่อทองคำแท่ง 1 บาท ซึ่งยังคงไม่คุ้มค่ากับค่าคอมมิชชั่น (ประมาณ 120 บาทต่อ 1 บาททอง) และดอกเบี้ยในการหากำไรจากส่วนต่างราคาได้ในวันนี้
ข่าวสารสำคัญเพื่อประกอบการลงทุน
ปัจจัยบวก
- ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ — เมื่อคืนนี้
1. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนก.ค. ลดลง -0.2% มากกว่าที่คาดไว้ว่าค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างจะลดลงเพียง -0.1% หลังจากเพิ่มขึ้น +0.3% ในเดือนมิ.ย.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ — วิตกแนวโน้มผลประกอบการภาคเอกชนสหรัฐในไตรมาส 3/09 จะไม่สดใสเท่าไตรมาสที่ผ่านมา แม้ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดเมื่อคืนนี้ จะชี้ถึงภาวการณ์ผลิตที่เพิ่มขึ้นก็ตาม ได้กดดัชนีร่วงลงกว่า -185 จุด ด้วยความหวั่นเกรงต่อ "กันยายนเอฟเฟค" + แนวโน้มที่ธนาคารในสหรัฐจะล้มละลายอีกราว 100-200 แห่ง + CIT ขอเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตรที่ครบกำหนด 15 ก.ย. นี้ออกไปก่อน
- ค่าเงินดอลลาร์ — ดอลลาร์ปิดแข็งค่าขึ้น -$0.0116 เมื่อเทียบเงินยูโร มาที่ $1.4213 จากที่ปิด $1.4329 เมื่อวันก่อนหน้า หลังเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจน ทำให้นักลงทุนกังวลว่าการประชุม G20 ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ หลายประเทศจะเริ่มใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น + การทรุดตัวตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐ + การที่หลายบริษัทในสหรัฐจะเริ่มจ่ายเงินกู้ TARP เร็วกว่ากำหนด ก็หนุนให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นด้วย ส่วนเช้านี้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอีก -$0.0020 มาที่ $1.4193
- ราคาน้ำมันดิบ — ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ต.ค. ร่วงลง -$2.73 มาปิดที่ $68.05 ต่อบาร์เรล หลังกังวลเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ + การร่วงลงของตลาดหุ้นในยุโรปและสหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนหันเหไปยังช่องทางการลงทุนที่ปลอดภัย แม้จะมีข้อมูลทางบวกจากภาคอุตสาหกรรมและยอดขายบ้านสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นเกินคาดก็ตาม ขณะที่เช้านี้ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ต.ค. ขยับขึ้น +$0.13 มาอยู่ที่ $68.18 ต่อบาร์เรล หลัง API เผยปริมาณสำรองน้ำมันดิบร่วงลง -3.2 ล้านบาร์เรล จากที่คาดกันว่าจะเพิ่มขึ้นราว 0.4 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามตัวเลขจาก EIA ในคืนนี้อีกครั้งหนึ่ง
ปัจจัยลบ
- ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ — เมื่อคืนนี้
- สำนักงานจัดการด้านอุปทานสหรัฐฯ ระบุในผลสำรวจที่เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ เพิ่มขึ้นคาดมาที่ 52.9 ในเดือนส.ค. จากระดับ 48.9 ในเดือนก.ค. และมากกว่าที่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นมาที่ 50.5 โดยที่ระดับ 50 ถือเป็นเส้นแบ่งระหว่างภาวะหดตัวกับภาวะขยายตัว
- สมาคมอสังหาริมทรัพย์แห่งสหรัฐฯ เปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขายเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันในเดือนก.ค. โดยขยับขึ้น 3.2% ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายกันไว้ที่ 1.6% ถึง 2 เท่า
- ค่าเงินบาท — ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น -1 สต. มาที่ 34.00 บาท จากที่ปิด 34.01 บาท เมื่อวันก่อนหน้า โดยยังแกว่งตัวในกรอบแคบ และไม่มีความเคลื่อนไหวมากนักเมื่อเทียบกับภูมิภาค หลังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังเข้าดูแลเงินบาทอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เช้านี้เงินบาทอ่อนค่าลง +1 สต. มาที่ 34.00 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีแนวรับสำคัญที่ 33.96 บาทและ 33.91 บาทตามลำดับ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 34.07 บาทและ 34.13 บาท
ปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตาม
- ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ — คืนนี้
ADP Employer Services จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศสหรัฐประจำเดือนส.ค. เวลา 19.15 น. โดยผลสำรวจคาดว่า ตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศจะลดลง -2.5 แสนตำแหน่งในเดือนส.ค. หลังจากลดลง -3.71 แสนตำแหน่งในเดือน ก.ค.กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ค. เวลา 21.00 น. โดยผลสำรวจคาดว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานจะเพิ่มขึ้น +2.2% ในเดือนก.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น +0.4% ในเดือนมิ.ย.กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วยที่ปรับแก้ไขประจำไตรมาส 2 เวลา 19.30 น. โดยผลสำรวจคาดว่า ประสิทธิภาพการผลิตจะเพิ่มขึ้น +6.4% ในไตรมาส 2 เทียบกับรายงานครั้งก่อนที่เพิ่มขึ้น +6.4% และต้นทุนแรงงานต่อหน่วยจะลดลง -5.8% ในไตรมาส 2 เทียบกับรายงานครั้งก่อนที่ลดลง -5.8%สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลปริมาณสำรองน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 ส.ค. เวลา 21.30 น. โดยผลสำรวจคาดว่า ปริมาณสำรองน้ำมันดิบอาจร่วงลง -0.4 ล้านบาร์เรล ส่วนปริมาณสำรองน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น +0.5 ล้านบาร์เรลและปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินอาจดิ่งลง -1.1 ล้านบาร์เรล ขณะที่อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น +0.2%? G-20 - จับตาประชุมจี-20 ช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อหารือปรับสมดุล ศก.โลกและป้องกันการเกิดวิกฤตการณ์ซ้ำอีก หลังเชื่อว่าวิกฤตการณ์อาจจะสิ้นสุดลงแล้ว จึงจำเป็นที่จะต้องมีแผนการที่น่าเชื่อถือที่จะถอนมาตรการกระตุ้นอย่างเป็นระเบียบและรับประกันว่าแผนการดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
- กองทุนทองคำ — SPDR กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. 1 ก.ย.52 ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า รวมถือทองคำไว้ทั้งสิ้น 1,061.83 ตัน เทียบเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.26 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 34.14 ล้านออนซ์
Source : Bloomberg
ข้อมูลจาก YLG ศูนย์รับซื้อ-ขายทองคำแท่ง มาตรฐาน LBMA 653/14 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ (ปากซอย 9) แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 Tel: 0-2287-1155, 0-2677-5520 Fax: 0-2677-5512 www.ylgbullion.com