กรุงเทพฯ--2 ก.ย.--ปตท.
นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ตลาดขายปลีกหน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่อ่อนตัวลงจากการที่ สัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของโลกยังคงเป็นไปแบบไม่ต่อเนื่อง ถึงแม้หลายฝ่ายได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว รวมถึงปริมาณสำรองน้ำมันดิบของโลกอยู่ในระดับสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งปริมาณสำรองน้ำมันดิบของประเทศสหรัฐฯ ล่าสุดอยู่ที่ 343.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งอยู่สูงกว่าปริมาณสำรองเฉลี่ย 5 ปี อยู่ประมาณ 27 ล้านบาร์เรล กอปรกับกลุ่มประเทศโอเปคผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับลดลง
ในวันนี้ (2 ก.ย..52) ราคาน้ำมันดิบดูไบลดลงมาอยู่ที่ 69.18 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปเบนซินสิงคโปร์ อยู่ที่ 78.43 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 77.34 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้ ปตท.จึงสามารถประกาศข่าวดี ปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซิน (เว้น E85) ลงให้ผู้บริโภคทันที 60 สตางค์/ลิตร น้ำมันกลุ่มดีเซลลง 50 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (3 ก.ย.52) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ราคาเป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ ลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 (พีทีที E 85 พลัส) 22.72
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 (พีทีที E 20 พลัส) 29.24
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95) 31.54
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91) 30.74
น้ำมันเบนซิน 91 (พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91) 35.14
น้ำมันไบโอดีเซล (พีทีที B5 พลัส) 25.99
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (พีทีที เดลต้า เอ็กซ์) 27.19
นายวิทยา กล่าวต่อไปว่า ราคาน้ำมันยังคงผันผวนตามความต้องการและปริมาณสำรองน้ำมัน รวมถึงปัจจัยข่าวเศรษฐกิจและการเมืองรายวัน ล่าสุดยังคงมีปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อการปรับตัวของราคาน้ำมัน เช่น ข้อมูลแสดงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในเขต Mid -West ของสหรัฐฯ โดยดัชนีฝ่ายจัดซื้อของรัฐชิคาโก ในเดือน ส.ค. 52 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 6.6 จุด มาอยู่ที่ระดับ 50.0 จุด นอกจากนี้ Federation of Logistic and Purchasing ของประเทศจีนรายงาน Purchasing Managers' Index (PMI) ในเดือน ส.ค. 52 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.7 จุด มาอยู่ที่ระดับ 54.0 จุด (ดัชนีที่ระดับ 50 จุด หมายความว่าเศรษฐกิจขยายตัว และหากดัชนีต่ำกว่า 50 จุด หมายความว่าเศรษฐกิจหดตัว)