กรุงเทพฯ--2 ก.ย.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2552 คณะรัฐมนตรีได้รับทราบถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานและกำหนดการพิธีเปิดงานแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 อย่างเป็นทางการ ตามที่กระทรวงการคลังได้นำเสนอการจัดพิธีเปิดงานดังกล่าวขึ้น ในวันศุกร์ที่ 4 กันยายน 2552 เวลา 8.30 - 12.00 น. ณ ห้อง Grand Diamond Ballroom อาคารอิมแพค คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี เพื่อให้ประชาชนที่จะได้รับประโยชน์จากการดำเนินโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนได้รับทราบข้อมูลโครงการ รวมทั้งแผนการดำเนินงานในด้านต่างๆ อย่างทั่วถึง และเร่งรัดหน่วยงานเจ้าของโครงการ โดยเฉพาะหน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรวงเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 ในรอบแรกจำนวน 200,000 ล้านบาท ให้สามารถเริ่มดำเนินงานและปฏิบัติงานได้ตามกรอบระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้จัดให้มีการเปิด Website “www.TKK2555.com” (ไทยเข้มแข็ง 2555) เพื่อเป็นช่องทางในการเผยแพร่ข้อมูลโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 รวมทั้งแผนการดำเนินงานให้สาธารณชนและสื่อมวลชนสามารถใช้ในการติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินโครงการ รวมทั้งร่วมตรวจสอบการดำเนินงานภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 กับหน่วยงานของทางราชการเพื่อให้การใช้จ่ายเงินภายใต้แผนโครงการต่างๆ เป็นไปอย่างโปร่งใส
โดยกระทรวงการคลังได้เชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ทั้งในส่วนของหน่วยงานภาครัฐ ผู้แทนจากภาคเอกชน รวมทั้งผู้แทนจากสื่อมวลชน โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมในพิธีเปิดงานฯ ประมาณ 1,000 คน ประกอบด้วย
? หน่วยงานภาครัฐ ประกอบด้วย คณะรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง หัวหน้าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้งคณะกรรมการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวนประมาณ 800 คน
? หน่วยงานภาคเอกชน ประกอบด้วย สถาบันการเงิน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ จำนวนประมาณ 200 คน
โดยในพิธีเปิดงานดังกล่าว กระทรวงการคลังจะมีการเปิดตัวโครงการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนของ 4 กระทรวงที่ได้รับการจัดสรรงบลงทุนภายใต้ปฏิบัติการไทยเข้มแข็งสูงที่สุด ดังนี้
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับการจัดสรรงบลงทุนในรอบแรกจำนวน 48,078 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการที่สำคัญ คือ
? โครงการการจัดหาแหล่งน้ำและเพิ่มพื้นที่ชลประทาน เพื่อเพิ่มพื้นที่ระบบชลประทานใหม่ ทั่วประเทศ วงเงิน 20,232 ล้านบาท
? โครงการการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ชลประทาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ ในพื้นที่ชลประทานเดิม วงเงิน 17,224 ล้านบาท
กระทรวงศึกษาธิการ ได้รับการจัดสรรงบลงทุนในรอบแรกจำนวน 45,389 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการที่สำคัญ คือ
? โครงการปัจจัยสนับสนุนด้านการศึกษา เพื่อพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา วงเงิน 7,949 ล้านบาท
? โครงการพัฒนาเพื่อยกระดับคุณภาพครูทั้งระบบ เพื่อพัฒนาและอบรมครูในสาขาต่างๆ และเพิ่มสัดส่วนของครูต่อนักเรียนให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน วงเงิน 6,989 ล้านบาท
? โครงการก่อสร้างและปรับปรุงสถานศึกษาทั่วประเทศ วงเงิน 5,467 ล้านบาท
? โครงการยกระดับอาชีวศึกษาสู่ความทันสมัย เพื่อพัฒนาทักษะและคุณภาพของแรงงาน เพื่อรองรับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมต่างๆ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ วงเงิน 7,647 ล้านบาท
กระทรวงคมนาคม ได้รับการจัดสรรงบลงทุนในรอบแรกจำนวน 39,900 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการที่สำคัญ คือ
? โครงการถนนไร้ฝุ่น พัฒนาโครงข่ายระบบทางหลวงชนบททั่วประทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการขนส่งสินค้าและบริการ โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าในภาคการเกษตรและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในชนบท วงเงิน 14,821ล้านบาท
? โครงการงานบำรุงรักษาทางหลวง เพื่อยกระดับมาตรฐานโครงข่ายทางหลวงทั่วประเทศ และเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าและบริการ วงเงิน 14,034 ล้านบาท
กระทรวงสาธารณสุข ได้รับการจัดสรรงบลงทุนในรอบแรกจำนวน 11,515 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการที่สำคัญ คือ
? โครงการพัฒนาและปรับปรุงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (สถานีอนามัย) วงเงิน 1,534 ล้านบาท และโครงการพัฒนาและปรับปรุงโรงพยาบาลระดับอำเภอ วงเงิน 3,085 ล้านบาท โดยเป็นการก่อสร้างและปรับปรุงอาคารโรงพยาบาล และการจัดหาครุภัณฑ์ทางการแพทย์ เพื่อยกระดับมาตรฐานและคุณภาพการให้บริการด้านสาธารสุขในพื้นที่ทั่วประเทศ
? โครงการสนับสนุนการปฏิบัติงานของเครือข่ายบริการด้านสาธารณสุขทุกระดับ วงเงิน 3,888.58 ล้านบาท เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นสำหรับบุคลากรด้านสาธารณสุขในทุกระดับ เพื่อให้สามารถให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่ชนบทได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
กระทรวงการคลังมั่นใจว่า โครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ในสาขาต่างๆ ที่จะเริ่มดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรมตั้งแต่เดือนกันยายน 2552 เป็นต้นไป จะช่วยกระตุ้นให้เกิด การลงทุนและการจ้างงานภายในประเทศ รวมทั้งสร้างความมั่นใจให้แก่ภาคเอกชนให้เข้ามาร่วมลงทุนกับรัฐบาล และก่อให้เกิดการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กระจายไปในภูมิภาคและท้องถิ่นทั่วประเทศ ซึ่งจะก่อให้ เกิดผลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในระยะต่อไป รวมทั้งส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยโดยรวมเป็นไปอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน รวมทั้งยังจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว
สำนักบริการการระดมทุนโครงการลงทุนภาครัฐ
สำนักบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง
โทร. 0-2265-8050 ต่อ 5712