กรุงเทพฯ--12 ม.ค.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ยืนยันอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันมูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท ในโครงการ Medium-term Debenture ของ บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT หรือ ผู้ออกหุ้นกู้) (TLT07NA, TLT084A, TLT087A) ที่ระดับ “AAA” และจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันในวงเงินไม่เกิน 10,000 ล้านบาท ในโครงการ Short-term Debenture ที่ระดับ “T1+” พร้อมทั้งคงแนวโน้มอันดับเครดิตที่ “Stable” หรือ “คงที่”
โดยหุ้นกู้ดังกล่าวค้ำประกันโดย Toyota Motor Finance (Netherlands) B.V. (TMF หรือ ผู้ค้ำประกัน) ซึ่ง TMF เป็นบริษัทลูกของ Toyota Financial Service Corporation (TFS) อันเป็นบริษัทที่ถือหุ้น 100% โดย Toyota Motor Corporation (TMC) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกลุ่ม บริษัททั้ง 3 แห่งคือ TMF, TFS และ TMC ได้รับการจัดอันดับเครดิตระดับ “AAA” จากแสตนดาร์ดแอนด์พัวร์ (เอสแอนด์พี) และ “Aaa” จากมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส และอันดับเครดิตตราสารหนี้ระยะสั้นที่ระดับ “A-1+” และ “Prime-1” ตามลำดับ
ทริสเรทติ้งรายงานว่า อันดับเครดิตหุ้นกู้ทั้งระยะปานกลางและระยะสั้นของ TLT สะท้อนถึงการค้ำประกันแบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้โดย TMF ซึ่งอันดับเครดิตของ TMF อยู่บนพื้นฐานความเข้มแข็งของอันดับเครดิตของ TMC ภายใต้โครงสร้างการค้ำประกันดังกล่าว TMC ได้ทำสัญญาให้การสนับสนุนด้านสินเชื่อ (Credit Support Agreement หรือ CSA) กับ TFS ในขณะเดียวกัน TFS ก็ได้ทำสัญญาให้การสนับสนุนด้านสินเชื่อกับ TMF ด้วยเช่นกัน ภายใต้เงื่อนไขของสัญญา CSA ดังกล่าว TMC จะทำหน้าที่รักษาสภาพคล่องทางการเงินให้อยู่ในระดับที่เพียงพอสำหรับรองรับภาระหุ้นกู้ หรือพันธบัตร และตราสารการเงิน (Commercial Paper) อื่นๆ ของบริษัทลูกซึ่งได้แก่ TFS และ TMF นอกจากนี้ TMC ยังจะเป็นผู้จัดหาสภาพคล่องทางการเงินที่เพียงพอกับเงื่อนไขการค้ำประกันของ TMF ด้วย ทั้งนี้ การค้ำประกันของ TMF บังคับใช้ภายใต้กฎหมายของประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยเป็นการค้ำประกันอย่างไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้ ซึ่งผู้ค้ำประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบในการชำระเงินตามกำหนดเวลาของหุ้นกู้แต่ละชุดที่ออกให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ของ TLT โดยที่ภาระการค้ำประกันของ TMF มีสถานะทางกฎหมายอยู่ในระดับเดียวกับตราสารหนี้ไม่มีประกันและไม่ด้อยสิทธิอื่นๆ ของผู้ค้ำที่ออกทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ดังนั้นการค้ำประกันดังกล่าวจึงเป็นการระบุว่าความเสี่ยงของหุ้นกู้นี้อยู่ในระดับเทียบเท่ากับความเสี่ยงของตราสารหนี้ไม่มีประกันและไม่ด้อยสิทธิอื่นๆ ของผู้ค้ำ อีกทั้งยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขหรือเพิกถอนโดยปราศจากการยินยอมทั้งจากตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้และผู้ค้ำประกัน และการยินยอมของตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้ต้องขึ้นอยู่กับมติส่วนใหญ่ของผู้ถือหุ้นกู้
อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ผู้ค้ำประกันไม่มีภาระในการชำระหนี้ใดใดแทนในกรณีที่ผู้ออกตราสารไม่สามารถชำระหนี้ด้วยเหตุอันเกิดจากการเข้าแทรกแซง หรือการกระทำต่างๆ โดยองค์กรใดใดของรัฐบาลไทย ดังนี้ (1) ชะงักการชำระเงินเนื่องจากผู้ออกหุ้นกู้ไม่สามารถโอนเงินไปให้นายทะเบียนหรือผู้ถือหุ้นกู้ หรือไม่สามารถแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นสกุลเงินที่ต้องชำระตามหุ้นกู้ (2) ทำให้ต้องมีการโอนการถือหุ้นข้างมากหรือการควบคุมผู้ออกหุ้นกู้ไปยังองค์กรอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกของกลุ่มโตโยต้า (3) การเวนคืนหรือการโอนซึ่งทรัพย์สินของผู้ออกหุ้นกู้ให้เป็นของรัฐซึ่งมีมูลค่ารวมอย่างน้อย 10% ของมูลค่าสุทธิของสินเชื่อเช่าซื้อสุทธิของผู้ออกหุ้นกู้และบริษัทลูกของผู้ออกหุ้นกู้ และ (4) การเวนคืนหรือการโอนทรัพย์สินให้เป็นของรัฐอันมีผลทำให้ผู้ออกหุ้นกู้และบริษัทลูกของผู้ออกหุ้นกู้ไม่สามารถประกอบธุรกิจได้ ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งเห็นว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีโอกาสที่จะเกิดน้อยมาก
เกี่ยวกับสัญลักษณ์และนิยามอันดับเครดิตที่จัดโดยทริสเรทติ้ง
อันดับเครดิตตราสารหนี้ระยะกลางและระยะยาว
ทริสเรทติ้งใช้สัญลักษณ์ตัวอักษรแสดงผลการจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้ระยะกลางและระยะยาวจำนวน 8 อันดับ โดยเริ่มจาก “AAA” ซึ่งเป็นอันดับเครดิตสูงสุด จนถึง “AA”, “A”, “BBB”, “BB”, “B”, “C” และ “D” ซึ่งเป็นอันดับต่ำสุดที่อยู่ในสภาวะผิดนัดชำระหนี้ โดยตราสารหนี้ระยะกลางและระยะยาวมีอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป
สัญลักษณ์อันดับเครดิตแต่ละระดับสะท้อนความสามารถในการชำระดอกเบี้ยและคืนเงินต้นของผู้ออกตราสารหนี้หรือตราสารหนี้นั้นๆ ตามกำหนดเวลา ทั้งนี้ อันดับเครดิตจาก “AA” ถึง “C” อาจมีเครื่องหมายบวก (+) หรือลบ (-) ต่อท้ายเพื่อจำแนกความแตกต่างของคุณภาพของอันดับเครดิตภายในระดับเดียวกัน
อันดับเครดิตตราสารหนี้ระยะสั้น
ในการจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้ระยะสั้น ทริสเรทติ้งจะเน้นการวิเคราะห์โอกาสที่จะเกิดการผิดนัดชำระหนี้ (Default Probability) เป็นสำคัญโดยมิได้คำนึงถึงระดับของการชดเชยความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ (Recovery After Default) แต่อย่างใด โดยสัญลักษณ์อันดับเครดิตตราสารหนี้ระยะสั้นเริ่มจาก “T1” ซึ่งเป็นระดับสูงสุด จนถึง “T2”, “T3” และ “T4” ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดโดยผู้ออกตราสารหนี้มีความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้นที่ค่อนข้างอ่อนแอ ทั้งนี้ ตราสารหนี้ระยะสั้นมีอายุต่ำกว่า 1 ปี
อันดับเครดิตตราสารหนี้ระยะสั้นแต่ะละระดับสะท้อนสถานะทางการตลาด การเงิน และความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้นของผู้ออกตราสารนั้นๆ ทั้งนี้ อันดับเครดิตในระดับ “T1” อาจมีเครื่องหมายบวก (+) ต่อท้ายอันแสดงถึงความสามารถในการชำระหนี้ที่สูงยิ่งขึ้น
อันดับเครดิตทุกประเภทที่จัดโดยทริสเรทติ้งเป็นอันดับเครดิตตราสารหนี้ในตระกูลเงินบาท ซึ่งสะท้อนความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสารโดยไม่รวมความเสี่ยงในการเปลี่ยนแปลงการชำระหนี้จากสกุลเงินบาทเป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ
แนวโน้มอันดับเครดิต
นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังกำหนด “แนวโน้มอันดับเครดิต” (Rating Outlook) เพื่อสะท้อนความเป็นไปได้ของการเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตของผู้ออกตราสารในระยะปานกลางหรือมากกว่า โดยทริสเรทติ้งจะพิจารณาถึงโอกาสที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของภาวะอุตสาหกรรมและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในอนาคตของผู้ออกตราสารที่อาจกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ ทั้งนี้ แนวโน้มอันดับเครดิตที่ออกให้แก่หน่วยงานหนึ่งๆ จะเทียบเท่ากับความสามารถในการชำระหนี้ของหน่วยงานนั้นๆ
แนวโน้มอันดับเครดิตแบ่งออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่
Positive หมายถึงอันดับเครดิตอาจปรับขึ้น
Stable หมายถึงอันดับเครดิตอาจไม่เปลี่ยนแปลง
Negative หมายถึงอันดับเครดิตอาจปรับลดลง
Developing หมายถึงอันดับเครดิตอาจปรับขึ้น ปรับลดลง หรือไม่เปลี่ยนแปลง--จบ--