กรุงเทพฯ--3 ก.ย.--วีม คอมมูนิเคชั่น
ประเด็นสำคัญในการลงทุนทองคำแท่ง (Gold SPOT)
- ปัจจัยสำคัญด้านพื้นฐาน — วันนี้ราคาทองคำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังนักลงทุนทั่วโลกยังคงวิตกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในไตรมาส 3/09 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องผลประกอบการบริษัทและภาคการธนาคารของสหรัฐ นอกจากนี้เรื่องของตลาดหุ้นจีนก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ตลาดเฝ้าจับตา ดังนั้น ในระยะนี้ทองคำแท่ง จึงกลับมาทวีความสำคัญในการเป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยอีกครั้งหนึ่ง เช่นเดียวกับเงินดอลลาร์ เงินเยนและพันธบัตรรัฐบาลที่ขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง (ดูข่าวสารสำคัญเพื่อการลงทุน + กราฟแสดงความสัมพันธ์ค่าเงินดอลลาร์กับราคาทองคำในหน้าถัดไป)
- กรอบการเคลื่อนไหวเชิงเทคนิคราคาทองคำแท่ง (Gold SPOT)
- ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะสั้น — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดเป็นขาขึ้น, MACD 30 นาทีเคลื่อนตัวอยู่ในบวกทว่าได้ตัดเส้น Trigger จากด้านบนทำให้ดูราคาเป็นลบ, MACDF 30 เคลื่อนตัวอยู่ในแดนลบ ทำให้ดูตลาดเป็นลบ, Fast Stochastic เคลื่อนตัวขึ้น ทำให้ ราคามีโอกาสปรับตัวขึ้น, RSI 30 นาทีอยู่ที่ระดับ 56.069 ถือเป็นระดับ Neutral และทำให้ดูว่าตลาดระยะสั้นยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, ทิศทางตลาดระยะสั้นดูเป็น Sideways-up แนวรับแนวต้านของวันอยู่ที่ $959-$988 ค่าเงินบาทในวันนี้อยู่ที่ระดับ ฿33.97-฿34.08
- ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะกลาง — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดระยะกลางเป็นขาขึ้น, RSI อยู่ที่ระดับ 74.159 ถือเป็นระดับ overbought ทำให้ดูว่าราคามีโอกาสปรับตัวลง, MACD เคลื่อนตัวอยู่ในแดนบวกและได้ตัดเส้น Trigger จากด้านล่างทำให้ดูราคาเป็นบวก, MACDFเคลื่อนตัวอยู่ในแดนบวกทำให้ดูตลาดเป็นบวก, Fast-Stochastic เคลื่อนตัวขึ้นทำให้ดูตลาดเป็นบวก, ทิศทางตลาดระยะกลางเป็นตลาด Sideways-up โดยจะใช้แนวต้านที่ $990 เป็นต้านระยะกลางที่สำคัญและแนวต้านต่อไปจะอยู่ที่ $1,005 ส่วนแนวรับระดับกลางอยู่ที่ $960 และ $940
พิจารณาตารางที่ 3 และกราฟด้านซ้ายมือ พบว่าราคาทองคำแท่งที่ร้านค้าปลีกปิดล่าสุด (เส้นสีแดง = 15,400 บาท) ซึ่งต่ำกว่าราคาทองคำแท่ง (SPOT) ในตลาดโลกเช้านี้ (เส้นสีน้ำเงิน = 15,830 หรือที่ $977.30) แสดงถึงราคาทองคำแท่ง ณ. หน้าร้านขายปลีก มีส่วนลดจากราคาในตลาดโลก อยู่ 430 บาท ขณะที่ราคาของ GFV09 เมื่อวานนี้ปิดตลาดอยู่ที่ 15,450 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาในตลาดโลกเท่ากับ 380 บาท ซึ่งเท่ากับว่า GFV09 มีส่วนลดน้อยกว่าที่ร้านค้าปลีก ดังนั้น การเปิดสถานะขาย (Short) GFV09 แล้ว ซื้อ (Long) ทองคำแท่งที่ร้านทอง จะทำให้มีส่วนต่างของกำไรที่คาดหวัง อยู่ที่ 430-380 = 50 บาทต่อทองคำแท่ง 1 บาท ซึ่งยังคงไม่คุ้มค่ากับค่าคอมมิชชั่น (ประมาณ 120 บาทต่อ 1 บาททอง) และดอกเบี้ยในการหากำไรจากส่วนต่างราคาได้ในวันนี้
ข่าวสารสำคัญเพื่อประกอบการลงทุน
ปัจจัยบวก
- ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ — เมื่อคืนนี้
1. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อใหม่ที่โรงงานในสหรัฐได้รับเพิ่มขึ้น +1.3% ในเดือนก.ค. น้อยกว่าที่คาดไว้ที่ +2.2% ในเดือนก.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น +0.9% ในเดือนมิ.ย. ขณะที่การเพิ่มขึ้นของยอดซื้อเครื่องบินได้ชดเชยอุปสงค์ที่ซบเซาสำหรับสินค้าไม่คงทน
2. ADP Employer Services เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานทั่วสหรัฐลดลง -2.98 แสนตำแหน่งในเดือนส.ค. น้อยกว่าที่ลดลง -3.6 แสนตำแหน่งในเดือนก.ค. แต่มากกว่าที่คาดไว้ว่า ตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศจะลดลงเพียง -2.5 แสนตำแหน่งในเดือนส.ค.
3. กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขประสิทธิภาพการผลิตนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นจากที่คาดไว้เดิมในไตรมาส 2 โดยเพิ่มขึ้น +6.6% จากเดิมที่คาดไว้ที่ +6.4% และเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2003 ขณะที่ประสิทธิภาพการผลิตในไตรมาสแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น + 0.3% ส่วนต้นทุนแรงงานต่อหน่วยลดลง -5.9% ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบ 9 ปี หลังลดลง -5% ในไตรมาสแรก
4. สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของสหรัฐเปิดเผยปริมาณสำรองน้ำมันดิบลดลง -0.4 ล้านบาร์เรล ลดลงน้อยกว่าที่คาดว่าจะลดลง -0.6 ล้านบาร์เรล มาที่ 343.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 ส.ค. ส่วนปริมาณสำรองน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น +1.2 ล้านบาร์เรล เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มเพียง +0.6 ล้านบาร์เรล มาที่ 163.6 ล้านบาร์เรลและปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินลดลง -3.0 ล้านบาร์เรล ลดลงมากกว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง -0.9 ล้านบาร์เรล มาที่ 205.1 ล้านบาร์เรล ขณะที่อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้นมากถึง +3.1% จากที่คาดว่าจะเพิ่มเพียง +0.3% มาที่ 87.2%
- ตลาดหุ้นสหรัฐ — ความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน แม้ราคาหุ้นร่วงลงอย่างหนักแล้วเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาก็ตาม โดยตลาดหุ้นสหรัฐปิดลดลงอีก -29.93 จุดหรือ -0.32% มาที่ 9,280.67 จุด
- ราคาน้ำมันดิบ — ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ต.ค. ปิดทรงตัวที่ $68.05 ต่อบาร์เรล หลังแกว่งตัวผันผวนในระหว่างวัน โดยราคาน้ำมันเคลื่อนตัวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ จนกระทั่ง EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบลดลงเพียงเล็กน้อยในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่เช้านี้ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ต.ค. ขยับขึ้น +$0.29 มาอยู่ที่ $68.34 ต่อบาร์เรล
- ค่าเงินบาท — ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง +3 สต. มาที่ 34.03 บาท จากที่ปิด 34.00 บาท เมื่อวันก่อนหน้า โดยเงินบาทมีทิศทางอ่อนค่าเช่นเดียวกับสกุลเงินในยูโรโซน และภูมิภาคเอเชีย จากกระแสเงินทุนในช่วงนี้ที่มีเข้ามาซื้อดอลลาร์ในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย ขณะที่เช้านี้เงินบาทอ่อนค่าลงอีก +4 สต. มาที่ 34.07 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีแนวรับสำคัญที่ 33.97 บาทและ 33.91 บาทตามลำดับ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 34.08 บาทและ 34.13 บาท
- กองทุนทองคำ — SPDR กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. 1 ก.ย.52 เพิ่มขึ้น +1.53 ตันจากวันก่อนหน้า รวมถือทองคำไว้ทั้งสิ้น 1,063.36 ตัน เทียบเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.30 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 34.19 ล้านออนซ์
ปัจจัยลบ
- ค่าเงินดอลลาร์ — ดอลลาร์ปิดอ่อนค่าลง +$0.0051 เมื่อเทียบเงินยูโร มาที่ $1.4264 จากที่ปิด $1.4213 เมื่อวันก่อนหน้า หลัง ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า อาจะต้องใช้เวลาอีกนานก่อนที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐและ FED จะพยายามหลีกเลี่ยงการกระตุ้นเศรษฐกิจมากเกินไปจนส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ส่วนเช้านี้ดอลลาร์อ่อนค่าลงอีก +$0.0008 มาที่ $1.4272
- อุปทานน้ำมันในตลาดโลก - การผลิตน้ำมันในตลาดโลกในเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นมาที่ 9.97 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือ เพิ่มขึ้น +0.6% MoM จาก 9.91 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก.ค. และเพิ่มขึ้น +1.5% YoY จาก 9.82 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้เป็นการผลิตจากกลุ่ม OPEC เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ส่งผลให้อัตราการปฏิบัติตามมติลดการผลิตของกลุ่มอยู่ที่ 68% จาก 70% ในเดือนก.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดกันว่าโอเปกจะคงเป้าหมายการผลิตในการประชุมทบทวนนโยบายการผลิตในวันที่ 9 ก.ย.นี้ที่กรุงเวียนนา
ปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตาม
- ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ — คืนนี้
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ เวลา 19.30 น. โดยผลสำรวจคาดว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 29 ส.ค.จะอยู่ที่ -5.6 แสนราย ลดลงจาก -5.7 แสนรายในสัปดาห์ก่อนหน้าสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาคบริการและดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจเดือนส.ค. เวลา 21.00 น. โดยผลสำรวจคาดว่า ดัชนี ISM ภาคบริการจะอยู่ที่ 48.0 ในเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้นจาก 46.4 ในเดือนก.ค. และดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจในภาคบริการจะอยู่ที่ 48.0 ในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น จาก 46.1 ในเดือนก.ค.? G-20 - จับตาประชุมจี-20 ช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อหารือปรับสมดุล ศก.โลกและป้องกันการเกิดวิกฤตการณ์ซ้ำอีก หลังเชื่อว่าวิกฤตการณ์อาจจะสิ้นสุดลงแล้ว จึงจำเป็นที่จะต้องมีแผนการที่น่าเชื่อถือที่จะถอนมาตรการกระตุ้นอย่างเป็นระเบียบและรับประกันว่าแผนการดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ข้อมูลจาก YLG ศูนย์รับซื้อ-ขายทองคำแท่ง มาตรฐาน LBMA 653/14 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ (ปากซอย 9) แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 Tel: 0-2287-1155, 0-2677-5520 Fax: 0-2677-5512 www.ylgbullion.com