กรุงเทพฯ--3 ก.ย.--ซินเนอร์จี้ เวิลด์ไวด์ มาร์เก็ตติ้ง
น้องใหม่มาแรง “ซินเนอร์จี้ เวิลด์ไวด์” บริษัทเครือข่ายสัญชาติอเมริกัน ผนึกกำลัง เนเจอร์ ซันไชน์ ผู้ผลิตอาหารเสริมชนิดเม็ดแห่งแรกของโลก ปรับกลยุทธ์รุกตลาดในเมืองไทยครั้งใหญ่ พร้อมดึงนักธุรกิจร่วมบุกธุรกิจ ตั้งเป้าสิ้นปีนี้ยอดขายทะลุ 300 ล้านบาท มั่นใจภายใน 2 ปีติดอันดับ Top 10 บริษัทเครือข่ายน้ำดี ภายใต้สโลแกน “Leave a Legacy”
นายศุภพงศ์ จันทรวีระกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซินเนอร์จี้ เวิลด์ไวด์ มาร์เก็ตติ้ง(ประเทศไทย)จำกัด ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางบำรุงผิวและอาหารเสริม แบรนด์ “Synergy” กล่าวว่า ซินเนอร์จี้ เวิลด์ไวด์ ก่อตั้งขึ้นโดยคุณแดน ฮิกกินสัน เป็นนักธุรกิจชาวอเมริกา และได้รุกตลาดที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นแห่งแรก ภายใต้การร่วมมือกับบริษัทผลิตอาหารเสริมชนิดเม็ดแห่งแรกของโลกมานานกว่า 40 ปี “เนเจอร์ ซันไซน์” เป็นองค์กรที่มีความแข็งแกร่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ อเมริกาที่มีความมั่นคงมาก ปัจจุบันซินเนอร์จี้ เวิล์ดไวด์ ได้รับการตอบรับที่ดีจากประเทศญี่ปุ่นด้วยผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอาหารเสริมเป็น 1 ใน 5 ของตลาดเครือข่าย และเริ่มรุกเปิดตลาดในอเมริกา ไทย สิงค์โปร ออสเตรเลีย ฯลฯ ภายใต้สโลแกน “Leave a Legacy”
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ตรียมความพร้อมเปิดตัวสำนักงานใหญ่อย่างเป็นทางการในราวเดือนตุลาคมนี้ ณ อาคารไซเบอร์เวิล์ด ถนนรัชดา บนพื้นที่ 700 ตารางเมตร พร้อมด้วยการปรับเปลี่ยนระบบธุรกิจให้เป็นเชิงรุก เพราะเมืองไทยนั้นถือว่าเป็นประเทศที่มีการแข่งขันในด้านธุรกิจเครือข่ายค่อนข้างดุเดือด ดังนั้นเมื่อซินเนอร์จี้ เข้ามารุกขยายตลาดในเมืองไทย จึงต้องปรับแผนการและกลยุทธ์ตลาดให้เข้ากับการแข่งขันในเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นการฝ่าปัญหาเศรษฐกิจ หรือปรับกลยุทธ์รับมือกับการแข่งขันในตลาดขายตรงที่ค่อนข้างรุนแรงในปัจจุบัน
“เราได้ปรับกลยุทธุ์การตลาดในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาสินค้าและนักธุรกิจไปพร้อมกัน เพราะทั้ง 2 ส่วนถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในธุรกิจเครือข่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราจะมุ่งเน้นไปที่ความมั่นคงของรายได้สมาชิก การสร้างความเชื่อมั่นในองค์กรที่ประสบความสำเร็จกับซินเนอร์จี้ สินค้าที่ดีมีคุณภาพ รวมทั้งแนวคิดการขยายตลาดปรับให้เป็นรูปแบบ E-Commerce ผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ต และทิศทางการขยายศูนย์นักธุรกิจ โดยล่าสุดได้เปิดในต่างจังหวัดมีแล้ว 3 สาขา คือ นครราชสีมา , สุราษฎรธานี และเชียงใหม่ นอกจากนี้มีการปรับในส่วนของ Customer Service ให้เป็นทั้ง Call Center เพื่อช่วยในให้บริการหลังการขายอีกด้วย”
“ทางบริษัทยังได้ปล่อยโปรโมชั่นต่างๆ มากมาย เพื่อเป็นแรงจูงใจและแรงกระตุ้นให้กับนักธุรกิจ อาทิ กองทุนรถยนต์ ,กองทุนรถเบนซ์ , การเดินทางไปสัมมนาทั้งในและต่างประเทศ เช่น มัลดีฟส์ ญี่ปุ่น สำหรับนักธุรกิจที่ทำคุณสมบัติได้ตามกำหนด ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยผลักดันให้ซินเนอร์จี้เติบโตอย่างมั่นคง รวดเร็ว และเชื่อว่าจะสามารถขึ้นสู่อันดับ Top 10 ของบริษัทเครือข่ายน้ำดีของเมืองไทย อย่างไรก็ตาม ในปี 2553 บริษัทฯ ได้เตรียมวางแผนรีแบรนด์ดิ้งครั้งใหญ่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างปรับนโยบายของบริษัทแม่ซินเนอร์จี้ประเทศสหรัฐอเมริกา ” นายศุภพงษ์ กล่าว