ก.ล.ต. ผลักดันสมาคมบริษัทหลักทรัพย์วางแนวทางพัฒนาธุรกิจเตรียมรับการกำหนดค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์แบบขั้นบันไดและการเปิดตลาดอาเซียน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 8, 2009 07:44 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ก.ย.--ก.ล.ต. นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวภายหลังการประชุมรายไตรมาสระหว่างสำนักงาน ก.ล.ต. และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ ว่า “การหารือระหว่าง ก.ล.ต. กับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ก่อให้เกิดความเข้าใจและความร่วมมือในการพัฒนาตลาดทุนหลายประการ โดยในการประชุมครั้งนี้ มีข้อสรุปที่สำคัญและมีความคืบหน้าในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อตลาดทุนดังนี้ 1. การกำหนดค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์แบบขั้นบันได สมาคมได้เสนอขอแก้ไขอัตราค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์แบบขั้นบันไดที่จะเริ่มใช้ต้นปี 2553 ซึ่ง ก.ล.ต. เห็นว่า ได้มีการประกาศล่วงหน้าเพื่อให้บริษัทหลักทรัพย์ทราบแนวทางและอัตราค่าธรรมเนียม ที่ชัดเจนแล้ว และบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งก็ได้เริ่มปรับตัวทางธุรกิจไปแล้ว ก.ล.ต. จึงได้แจ้งสมาคมว่า ยังไม่มีเหตุที่จะต้องเปลี่ยนแปลงอัตราค่าธรรมเนียมดังกล่าว 2. การเตรียมตัวสำหรับ ASEAN Capital Market Implementation Plan แผนปฏิบัติการด้านตลาดทุนสู่การเชื่อมโยงตลาดของหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนอาเซียนจะทำให้มีการซื้อขายหลักทรัพย์ระหว่างกันและการทำธุรกิจข้ามชาติได้ในปี 2558 เรื่องดังกล่าวจะมีผลต่อผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ในปัจจุบันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก.ล.ต. จึงได้แจ้งให้สมาคมตระหนักถึงเรื่องดังกล่าวเพื่อทำการวิเคราะห์ผลกระทบและหามาตรการหรือช่องทางที่จะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับตลาดทุนไทย 3. การเปิดเผยผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียน ที่ผ่านมาหลังจาก ก.ล.ต. ได้รณรงค์ให้บริษัทหลักทรัพย์ตื่นตัวในเรื่องนี้เพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ไทยทุกแห่งได้เห็นถึงความสำคัญและได้นำผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนใส่ไว้ในบทวิเคราะห์หลักทรัพย์เพื่อให้ผู้ลงทุนใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนแล้ว ความร่วมมือระหว่างสมาคมกับ ก.ล.ต. ในเรื่องนี้จึงประสบความสำเร็จลุล่วงทุกประการ 4. การกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ สมาคมได้แจ้งให้ทราบว่าชมรมวาณิชธนกิจได้พิจารณาการปฏิบัติงานด้านดังกล่าวในกรณีที่ผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์ซื้อหุ้นที่เหลือจากการจัดจำหน่ายเข้าบัญชีลงทุนของบริษัท และได้ขายหุ้นดังกล่าวในวันแรกที่เปิดการซื้อขายว่า เป็นการบริหารความเสี่ยงของผู้จัดจำหน่ายหุ้นที่อาจจะพิจารณาขายหุ้นในวันแรก หรือวันที่มีมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สูงสุด อย่างไรก็ดี ในประเด็นนี้ ก.ล.ต. หวังว่า สมาคมจะกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานให้ชัดเจนได้มากขึ้นโดยเฉพาะในเรื่องการกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่เหมาะสม และแนวทางการขายหุ้นที่เหลือจากการจัดจำหน่าย เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ทั้งผู้ใช้บริการ ผู้ลงทุน และชื่อเสียงของบริษัท รวมถึงความเชื่อมั่นต่อตลาดทุน 5. การพัฒนาสินค้าใหม่ ก.ล.ต. ได้รับทราบความต้องการของภาคเอกชนเกี่ยวกับสินค้าใหม่ในตลาดทุน ซึ่งสมาคมขอให้ ก.ล.ต. ช่วยผลักดันให้เกิดอนุพันธ์ที่อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (FX futures) เนื่องจากเป็นสินค้าที่คาดว่าจะมีผู้ใช้ประโยชน์ได้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ภาคเอกชนยังมีแผนที่จะพัฒนาสินค้าใหม่อีกหลายตัวที่จะต้องให้ ก.ล.ต. และหน่วยงานทางการที่เกี่ยวข้องร่วมกันผลักดันให้เป็นผลสำเร็จในระยะต่อไป” นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวต่อว่า “ช่วงเวลานี้เป็นเวลาแห่งการปรับตัวของบริษัทหลักทรัพย์แต่ละแห่ง ไม่ว่าจะเป็นการควบรวมกิจการ การเตรียมปรับแผนธุรกิจ การผลักดันให้เกิดสินค้าใหม่ในตลาดทุน รวมทั้งการยกระดับมาตรฐานการประกอบธุรกิจด้านต่าง ๆ เพื่อให้พร้อมรับการแข่งขันที่จะมีขึ้นในอนาคต และทำให้ตลาดทุนเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนและผู้ระดมทุน” นายกัมปนาท โลหเจริญวนิช นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า “เรื่องการเปิดเสรีค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นมาตรการหนึ่งที่ส่งผลให้บริษัทหลักทรัพย์ต้องปรับตัวเพื่อเตรียมรับการแข่งขัน จากการหารือ ก.ล.ต. ในครั้งนี้ได้รับทราบว่า ก.ล.ต. ยังไม่มีนโยบายที่จะเปลี่ยนแปลงอัตราค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์แบบขั้นบันไดที่ประกาศไว้เดิม ดังนั้น บริษัทหลักทรัพย์จึงควรเตรียมจัดทำระบบให้พร้อมรองรับในเรื่องดังกล่าว สำหรับการที่ ก.ล.ต. พยายามผลักดันให้สมาคมพัฒนาไปสู่องค์กรกำกับดูแลตนเอง (Self-regulatory organization) นั้น สมาคมจะเร่งศึกษาเพื่อให้ได้ข้อสรุปและกำหนดเวลาดำเนินการที่ชัดเจน และสำหรับ ASEAN Capital Market Implementation Plan ที่จะมีผลต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทหลักทรัพย์ สมาคมจะเร่งศึกษา โดย ก.ล.ต. รับที่จะจัดสัมมนาให้ความรู้เรื่องนี้แก่บริษัทหลักทรัพย์ทุกแห่งเพื่อที่จะสามารถวิเคราะห์ผลกระทบและเตรียมมาตรการปรับตัว ซึ่งในส่วนของสมาคมจะจัดให้มีคณะทำงานย่อยขึ้นมาดำเนินการต่อไป” สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โทรศัพท์ 0-2695-9502-5 โทรสาร 0-2256-7755 E-mail: press@sec.or.th "ก.ล.ต. เกื้อหนุนธุรกิจ ปกป้องสิทธิ์ผู้ลงทุน นำตลาดทุนสู่สากล"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ