สปส.เตรียมปรับสิทธิประโยชน์กรณีคลอดบุตร-ทันตกรรม จัดระดมความคิดเห็น 3 ก.ย.49

ข่าวทั่วไป Wednesday August 23, 2006 17:10 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ส.ค.--สปส.
สำนักงานประกันสังคมเตรียมปรับสิทธิประโยชน์กรณีคลอดบุตร-ทันตกรรมใหม่ เชิญนายจ้าง ลูกจ้าง และผู้เกี่ยวข้องร่วมระคมความคิดเห็นในวันครบรอบ 16 ปีสำนักงานประกันสังคม 3 ก.ย.2549
วันนี้ (23 สิงหาคม 2549) ณ กระทรวงแรงงาน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวแถลงข่าวในเรื่องดังกล่าวว่า “นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549 เป็นต้นมา ที่สปส.ได้มีการปรับเปลี่ยนสิทธิประโยชน์กรณีคลอดบุตรจากรูปแบบเดิมมาเป็นการเหมาจ่ายให้กับโรงพยาบาล นั้นมีเจตนารมณ์สำคัญคือ ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ประกันตนให้ได้รับการดูแลตั้งแต่ฝากครรภ์ คลอดบุตร การตรวจหลังคลอดตลอดจนการบริบาลทารกแรกเกิดซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพผู้ประกันตนเองและทารกในครรภ์ โดยที่ผู้ประกันตนเกิดความมั่นใจไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับภาระค่าใช้จ่ายตั้งแต่ตั้งครรภ์จนถึงคลอด และยังสอดคล้องกับหลักการประกันสังคมในการเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขอีกด้วย”
อย่างไรก็ตามเมื่อสปส.ได้ดำเนินการดังกล่าวมาระยะหนึ่งและมีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกันตน ในการสำรวจของผู้วิจัยที่สปส.ได้ว่าจ้างเพื่อทราบความคิดเห็นของผู้ประกันตนที่มีต่อรูปแบบการให้สิทธิประโยชน์กรณีคลอดบุตร พบว่า ผู้ประกันตนส่วนใหญ่ต้องการเลือกรูปแบบเดิม กล่าวคือผู้ประกันตนถึงร้อยละ 75.82 เลือกรูปแบบการเหมาจ่ายเงินให้แก่ผู้ประกันตนแทนการเหมาจ่ายให้โรงพยาบาล
เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของผู้ประกันตนคณะกรรมการการแพทย์ จึงได้พิจารณาปรับรูปแบบสิทธิประโยชน์กรณีคลอดบุตร ให้เป็นการเหมาจ่ายเงินให้แก่ผู้ประกันตน และคณะกรรมการประกันสังคมได้พิจารณาเห็นชอบการจ่ายสิทธิประโยชน์ในอัตรา 12,000 ต่อครั้ง โดยรูปแบบนี้ผู้ประกันตนจะต้องสำรองจ่ายเงินไปก่อนแล้วจึงมาเบิกคืนจากสปส.ในภายหลังและกรณีที่มีค่าใช้จ่ายส่วนเกินผู้ประกันตนจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายดังกล่าวด้วยตนเอง
นายไพโรจน์ สุขสัมฤทธิ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าเพิ่มเติมว่า “อัตราเหมาจ่ายดังกล่าวนี้ครอบคลุมถึง ค่าตรวจและค่ารับฝากครรภ์ ค่าบำบัดทางการแพทย์ ค่ายาและค่าเวชภัณฑ์ ค่าทำคลอด ค่ากินอยู่และค่ารักษาพยาบาลในสถานพยาบาล ค่าบริบาลและรักษาพยาบาลทารกแรกเกิด ค่ารถพยาบาลหรือค่าพาหนะรับส่งผู้ป่วย และค่าบริการอื่น ๆ โดยผู้ประกันตนสามารถไปขอรับบริการคลอดบุตร ณ สถานพยาบาลใดก็ได้ตามความสะดวก แล้วนำหลักฐานมายื่นเรื่องขอเบิกสิทธิประโยชน์กรณีคลอดบุตร ได้ที่สปส.เขตพื้นที่/จังหวัด ทุกสาขาทั่วประเทศ อย่างไรก็ตามระบบเหมาจ่ายให้แก่ผู้ประกันตนลำบากสำหรับผู้ประกันตนบางรายที่ไม่มีเงินสำรองจ่ายไปก่อนและอาจเกิดปัญหาด้านสุขภาพตามมาหากผู้ประกันตนไม่ไปฝากครรภ์และคลอดที่สถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ดังนั้นเมื่อมีการปรับไปใช้ระบบดังกล่าวแล้ว จึงอยากให้ผู้ประกันตนดูแลสุขภาพระหว่างตั้งครรภ์อย่างเคร่งครัดโดยไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลเพื่อให้ได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิดด้วย”
นอกจากนั้นในกรณีทันตกรรม สปส.ได้ปรับเปลี่ยนจากรูปแบบเหมาจ่ายให้แก่ผู้ประกันตนมาเป็นเป็นรูปแบบการเหมาจ่ายให้กับโรงพยาบาลเช่นเดียวกันโดยผู้ประกันตนมีสิทธิเข้ารับบริการถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน และใส่ฟันเทียมบางส่วนชนิดถอดได้ฐานอคริลิก ณ โรงพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่เมื่อสปส.ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2549 เป็นต้นมาพบว่า โรงพยาบาลบางแห่งยังไม่สามารถจัดบริการทันตกรรมได้มาตรฐานตามที่สปส.กำหนด อีกทั้งผู้ประกันตนยังมีความคาดหวังสูงและมารับบริการเป็นจำนวนมากทำให้เกิดความคับคั่งของผู้ประกันตน
เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ประกันตน สปส.จึงได้จัดให้มีการระดมความคิดเห็นใน 2 กรณีดังกล่าว ในวันที่ 3 กันยายน 2549 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 16 ปีของสปส.โดยจะจัดขึ้นที่สำนักงานประกันสังคม ถ.ติวานนท์ จ.นนทบุรี จึงขอเชิญชวนนายจ้าง ลูกจ้าง นักวิชาการ สื่อมวลชน ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องมาร่วมระดมความคิดเห็นเพื่อนำผลที่ได้มาปรับปรุงสิทธิประโยชน์ทั้ง 2 กรณีให้ตอบสนองความพึงพอใจแก่ผู้ประกันตนมากที่สุด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ศูนย์สารนิเทศ สายด่วน 1506 / www.sso.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ