เยี่ยมพลายโชคดี หลังกทม. จับ-ปรับ-ยึด ตามโครงการช้างยิ้ม

ข่าวทั่วไป Tuesday September 8, 2009 11:00 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ก.ย.--กทม. รองผู้ว่าฯ ธีระชน นำคณะผู้บริหารและสื่อมวลชน กทม. ตรวจเยี่ยมพลายโชคดี ช้างที่กทม. อายัดไว้ตามมาตรการจับ-ปรับ-ยึด และกักกันชั่วคราว สนองโครงการช้างยิ้มที่ กทม.ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำคณะผู้บริหารและสื่อมวลชนตรวจเยี่ยมศูนย์อนุรักษ์ช้างกาญจนบุรี หมู่ 4 ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ตามโครงการช้างยิ้มที่กรุงเทพมหานครดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่องตามมาตรการด้านการบังคับใช้กฎหมาย จับ-ปรับ-ยึด และนำช้างไปกักกันชั่วคราวที่ศูนย์ดังกล่าว โดยในการตรวจเยี่ยมครั้งนี้รองผู้ว่าฯ นำคณะเยี่ยม “พลายโชคดี” หรือพลายนำโชค ที่กรุงเทพมหานครอายัดไว้จากการตรวจจับเมื่อวันที่ 21 พ.ค.52 แล้วนำไปไว้ที่ศูนย์อนุรักษ์แห่งนี้ กทม. จับยึดช้าง 4 เชือก เข้ามาเร่ร่อนในพื้นที่ สำหรับการดำเนินตามมาตรการ จับ-ปรับ-ยึด ในช่วงที่ผ่านมา นอกจากพลายโชคดีแล้วกรุงเทพมหานครได้จับและอายัดช้างจำนวน 3 เชือก คือ พังทองดี จับได้ที่เขตธนบุรี เมื่อ 19 ส.ค. 52 พลายแบ๊งค์ จับได้ที่เขตธนบุรี เมื่อ 26 ส.ค. 52 และพลายป๋องแป๋ง จับได้ที่เขตบางเขน เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 52 โดยเมื่อวันที่ 2 ก.ย. 52 ที่ผ่านมากทม. ได้ประสานกรมอุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการ จับ ปรับ ยึด ต่อเนื่องต่อไป ซึ่งช้างที่ถูกกักกันชั่วคราวจะได้รับการตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเข้มงวด ทั้งนี้จากการรับข้อมูลและเบาะแสช้างเร่ร่อนในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ 27 ส.ค. 52 เป็นต้นมา ทางสายด่วน กทม. 1555 ไม่มีการแจ้งพบช้างเร่ร่อน พลายโชคดีอยู่ท่ามกลางสภาพความเป็นอยู่ที่ดี มีธรรมชาติล้อมรอบ ด้านสภาพความเป็นอยู่ของช้างที่อายัดไว้ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างกาญจนบุรีนั้น ช้างได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ มีอาหารที่ปลอดภัยไม่มีการปนเปื้อนของสารพิษหรือยาฆ่าแมลง และมีผู้ดูแลเป็นควาญและสัตวแพทย์อย่างใกล้ชิด กรุงเทพมหานคร ได้กำหนด 6 มาตรการ เพื่อเป็นกรอบ ปฏิบัติการอย่างเป็นรูปธรรม ภายหลังที่กทม. สามารถแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อนประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง สามารถลดจำนวนช้างเร่ร่อนในพื้นที่จนเกือบไม่เหลือ ซึ่งตัวอย่างที่ชัดเจนคือการซื้อช้างพังบัวคำเพื่อนำไปดูแลที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างลำปาง จากเงินบริจาคของประชาชน และการอายัดช้างพลายโชคดีไปดูแลที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างกาญจนบุรี เนื่องจากตั้งข้อสงสัยว่าเป็นช้างป่า สำหรับมาตรการ 6 ด้าน ประกอบด้วย 1. ใช้กำลังเจ้าหน้าที่และสัตวแพทย์ออกตรวจจับและอายัดช้างเร่ร่อนในพื้นที่กรุงเทพ โดยไม่มีการผ่อนปรน แล้วนำไปดูแลที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างกาญจนบุรีเป็นเวลา 30 วัน เพื่อให้เจ้าของแสดงหลักฐานเจ้าของ รูปพรรณ สัณฐาน และดำเนินการปรับตามกฎหมาย ทั้งนี้จังหวัดท่องเที่ยวอื่นก็ได้ให้ความร่วมมือในลักษณะเดียวกัน 2. การแก้ไขปัญหาระยะยาว จะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งจากการหารือพบว่ามีปางช้างหลายแห่งสามารถรองรับช้างได้จำนวนหนึ่ง เช่น ปางช้างสุรินทร์ที่กทม. จะร่วมกับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อบต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ สร้างโฮมสเตย์ให้ นักท่องเที่ยวใช้ชีวิตร่วมกับช้างและเรียนรู้วิถีช้าง ขณะนี้มีควาญช้างประสงค์เข้าร่วมงาน 13 ราย ช้าง 36 เชือก โดยควาญช้างจะมีงานทำส่วนช้างก็จะได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี พื้นที่ที่จะดำเนินการจำนวน 3,000 ไร่ ส่วนศูนย์อนุรักษ์ช้างกาญจนบุรี มีพื้นที่ 130 ไร่ ก็จะจัดเป็น แหล่งท่องเที่ยว มีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น ปลูกพืชอาหารช้าง กิจกรรมการเลี้ยงช้าง การอาบน้ำให้ช้าง และอนาคตจะมีโครงการช้างบำบัดผู้ป่วยออทิสติกด้วย 3. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องเป็นเจ้าของงานเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาระยะยาว โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมีการเข้าพบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพย์ฯ ด้วยตนเองเพื่อหารือในประด็นดังกล่าว 4. การส่งเสริมการท่องเที่ยว งานช้างสุรินทร์ที่จะจัดในเดือน พ.ย. นี้ พร้อมกับการเปิดตัวศูนย์อนุรักษ์ช้างสุรินทร์ด้วย 5. กทม. ร่วมกับหลายหน่วยงานจัดคอนเสิร์ต เพื่อช้างยิ้ม ในเดือน ธ.ค. 52 เพื่อหารายได้เข้ากองทุนอนุรักษ์ช้างที่กทม. ได้เปิดบัญชีรับบริจาค ซึ่งรายได้จะนำไปบริหารจัดการโครงการช้างยิ้มต่อไป 6. กทม. โดยสำนักเทศกิจจัดเตรียมการเสนอให้ตราข้อบัญญัติช้าง ให้สามารถบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับช้างได้ในพื้นที่ ซึ่งจะนำเรื่องนี้เข้าบรรจุในวาระการประชุมสภากทม. ในเดือน ม.ค. 53 จากการสำรวจขณะนี้ในประเทศไทยมีช้างที่ไม่ใช่ช้างป่าทั้งหมด 3,825 เชือก เป็นช้างที่อยู่ในปางช้าง 1,991 เชือก นอกนั้นเป็นช้างเร่ร่อนหรือลากไม้อีก 1,834 เชือก โดยทั้งหมดฝังไมโครชิปแล้ว ทั้งนี้หากพบว่าเป็นช้างที่ลักลอบเข้ามาในประเทศไทยหรือเป็นช้างป่า ก็จะดำเนินการอายัดและดำเนินคดีต่อไป ซึ่งในระยะนี้กทม. ยังคงรับบริจาคเงินจากผู้มีใจศรัทธาอยู่ เพื่อนำไปช่วยช้างไทยให้ยิ้มได้อย่างยั่งยืน ซึ่งหลังจากนี้ไปกทม. จะนำคณะไปเยี่ยมช้างบัวคำที่เป็นช้างเชือกแรกที่กทม. และผู้มีจิตกุศลร่วมบริจาคทรัพย์ไถ่ชีวิต ที่ศูนย์บริบาลช้างบ้านปางหละ สถาบันคชบาลแห่งชาติ

แท็ก ช้าง  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ