ซีพีเอฟเผยแผน 5 ปี ยอดขายต้อง 2 แสนล้าน เน้นอาหารปรุงสุก ชูคุณภาพและตราสินค้า

ข่าวทั่วไป Wednesday November 9, 2005 16:25 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--ซีพีเอฟ
ซีพีเอฟเผยแผน 5 ปี ยอดขายต้อง 2 แสนล้าน เน้นอาหารปรุงสุก ชูคุณภาพและตราสินค้าส่วนผลการดำเนินงาน 9 เดือนของปี 48 กำไรเพิ่มกว่า 600% พร้อมจ่ายปันผล 0.14 บาทต่อหุ้น
ซีพีเอฟ กำไรงวด 9 เดือน เพิ่มกว่า 600 % พร้อมจ่ายปันผลไตรมาสสาม 0.14 บาทต่อหุ้น ประกาศเดินหน้าผลิตสินค้าคุณภาพ-ปลอดภัย ทั้งรุกสร้างตราสินค้า ตั้งเป้ายอดขาย 200,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ (Adirek Sripratak President & CEO of Charoen Pokphand Foods Plc.) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ปี 2548 มียอดขาย 83,346 ล้านบาท เทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปี 2547 เพิ่มขึ้น 25 % โดยมียอดขายเพียง 66,704 ล้านบาท และกำไรสุทธิจำนวน 6,055 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 600% จากปี 2547 ที่มีเพียง 857.12 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2548 มีสินทรัพย์รวมจำนวน 83,912 ล้านบาท และอัตราหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 0.58 เท่า
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ซีพีเอฟ มียอดขายจำนวน 30,782 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากระยะเวลาเดียวกันของปี 2547 ที่มียอดขายเพียง 24,515 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจำนวน 2,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 270% จากปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิเพียง 554.12 ล้านบาท พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานไตรมาสนี้ในอัตราหุ้นละ 0.14 บาท โดยจะทำการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2548 โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 21 พฤศจิกายน และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 ธันวาคม 2548 ซึ่งเมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่ได้จ่ายไปแล้ว 2 ครั้งในปีนี้ เท่ากับ 0.44 บาทต่อหุ้น
นายอดิเรก กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของซีพีเอฟ ที่เติบโตอย่างมากจากระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากได้ให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องในการวิจัยและพัฒนาในทุกๆ ด้านของธุรกิจและอุตสาหกรรม เพื่อให้มีรากฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง ด้วยกระบวนการผลิตที่ทันสมัยมีประสิทธิภาพ ทำให้ ณ วันนี้ ซีพีเอฟนับได้ว่าเป็นผู้ดำเนินธุรกิจเกษตรครบวงจรที่มีระบบการตรวจสอบย้อนกลับของกระบวนการผลิตทุกขั้นตอน ทำให้ลูกค้าและผู้บริโภคมั่นใจในสินค้าของบริษัท จึงเป็นผลให้ยอดขายในเกือบทุกส่วนธุรกิจมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากปีที่ผ่านมา
นายอดิเรก กล่าวด้วยว่า ซีพีเอฟเชื่อว่า ธุรกิจที่จะมีการขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว คือ สินค้าอาหารปรุงสุก (Cooked Food) และโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารไทยพร้อมรับประทานภายใต้ตราสินค้าของบริษัท (Thai Ready-to-Eat Meal) โดยได้มีการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย ซึ่งได้รับการตอบรับค่อนข้างดี
ขณะเดียวกัน ธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารจากสัตว์น้ำ ทั้งกุ้งและปลา เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่ซีพีเอฟให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนงานในการผลิตเป็นสินค้าอาหารปรุงสุกและอาหารพร้อมรับประทาน เช่น เกี๊ยวกุ้งที่มีจำหน่ายผ่านเซเว่น-อีเลฟเว่นทั่วประเทศ ณ วันนี้ ซีพีเอฟจึงมีความพร้อมที่จะเป็น “ครัวของโลก” อย่างแท้จริง และมั่นใจยอดขายเพิ่มเป็น 200,000 ล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้า
ซีพีเอฟได้ทำการวิจัยและศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่อง และเล็งเห็นว่า ผู้บริโภคทั่วโลกได้ให้ความสำคัญต่อ “คุณภาพ และความปลอดภัยในการบริโภค” (Quality and Food Safety) มากขึ้น บริษัทจึงมีเป้าหมายที่จะเร่งสร้างตราสินค้าให้แข็งแกร่ง พร้อมรุกด้านกิจกรรมด้านการตลาด โฆษณาและประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ทราบถึงความใส่ใจของบริษัทในการผลิตสินค้าอาหารคุณภาพให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งบริษัทจะเร่งขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าให้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้นด้วย
ทั้งนี้ บริษัทจะยังคงดำเนินกลยุทธ์เพื่อสร้างความพร้อมและความแข็งแกร่งในธุรกิจ โดยมีแผนงานในการปรับโครงสร้างเงินลงทุนและการดำเนินธุรกิจของบริษัทให้มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และแสวงหาโอกาสในการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตทั้งในและต่างประเทศ หรือเป็นธุรกิจที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัท
สำนักสารนิเทศ ซีพีเอฟ
โทรศัพท์ 0-2625-7343-5--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ