กรุงเทพฯ--10 ก.ย.--กรีนพีซ
ยุคแห่งความโง่เขลา ภาพยนตร์แอนนิเมชั่นกึ่งสารคดีที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กำลังจะเข้าฉายในกรุงเทพฯ เร็วๆนี้ พร้อมกันกับการฉายรอบปฐมทัศน์กว่า 100 แห่งทั่วโลก
กรีนพีซ ร่วมจัดฉายภาพยนตร์ “ยุคแห่งความโง่เขลา” รอบปฐมทัศน์ โดยเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อตกลงที่มีความเป็นธรรม มุ่งมั่นและมีผลบังคับใช้ในทางกฎหมายในการประชุมสุดยอดว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์กปลายปีนี้ รอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวถูกจัดฉายในวันเดียวกับที่มีการประชุมสมัชชาสหประชาติที่นิวยอร์ค และยังได้ฉายพร้อมกันในโรงภาพยนตร์กว่า 100 โรง ใน 40 ประเทศทั่วโลก (1) ทั่วทุกทวีป รวมถึงทวีปแอนตาร์กติการ์ ในวันที่ 21 และ 22 กันยายน 2552 และคาดว่าจะได้รับการบันทึกไว้ในกินเนสส์ เวิร์ลด์ เรคคอร์ด ว่าเป็นการฉายภาพยนตร์พร้อมกันครั้งใหญ่ที่สุดในโลก
“เป้าหมายของการฉายภาพยนตร์ครั้งนี้ คือโน้มน้าวผู้ชม 250 ล้านคนให้ชมภาพยนตร์ และร่วมเป็นนักกิจกรรมยุติภาวะโลกร้อน” นายมาร์ติน ลอยด์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการรณรงค์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กรีนพีซสากล กล่าว “แม้ดูเหมือนจะเป็นเป้าที่สูงเกินเอื้อม แต่เราอาจจะดูโง่เขลา หากไม่ได้ลองทำ”
กรีนพีซจะจัดฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ในฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และประเทศไทย โดยในประเทศไทย กรีนพีซจะเชิญนักการเมือง ดารานักแสดง เข้าร่วมชมภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ที่โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ในวันที่ 22 กันยายน 2552 นี้ โดยภาพยนตร์เริ่มฉายเวลา 19.00 น. สามารถติดต่อเพื่อซื้อบัตรได้ที่ 02-357-1921 ต่อ 125 และค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ที่ www.greenpeace.or.th/ageofstupid
“ประชาชนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ควรหาโอกาสชมภาพยนตร์เรื่องนี้ เนื่องจากภูมิภาคที่เราอาศัยอยู่นั้น เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีความล่อแหลมมากที่สุดและมีความพร้อมในการรับมือน้อยที่สุดต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งนี้ การฉายภาพยนตร์เรื่องยุคสมัยแห่งความโง่เขลา ได้จัดฉายก่อนหน้าการประชุมโลกร้อนที่กำลังจะมีขึ้นในกรุงเทพฯ เพียงไม่กี่วัน” นายธารา บัวคำศรี ผู้จัดการฝ่ายรณรงค์ ประจำประเทศไทย กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว
ภาพยนตร์เรื่องยุคแห่งความโง่เขลา กำกับโดยแฟรนนี อาร์มสตรอง (ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง McLibel) และควบคุมการผลิตโดยลิซซี กิลเล็ท และจอห์น แบทเซค (จากภาพยนตร์เรื่อง One Day in September) และแสดงนำโดยพีท โพสเลธเวท ที่รับบทชายแก่ ที่อาศัยอยู่ในโลกยุค 2598 นั่งดูภาพจากแฟ้มข้อมูลของปี 2551 แล้วเกิดคำถามขึ้นในใจว่า “ทำไมเราไม่ลงมือหยุดภาวะโลกร้อน เมื่อเรามีโอกาส” นอกจากนี้ ภาพยนตร์ดังกล่าวยังได้รับคำวิจารณ์จากสื่อมวลชนและนักการเมืองว่า ควรค่าอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีห่วงใยถึงความอยู่รอดของโลก [2]
การมีส่วนร่วมของกรีนพีซในครั้งนี้เกิดขึ้นจากการวางแผนร่วมกันบนเรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ หลังจากที่ผู้กำกับฟรานนี อาร์มสตรอง ได้เตรียมฉายภาพยนตร์นี้ล่วงหน้าให้แก่สมาชิกสภาผู้แทนของเนเธอร์แลนด์ [3]
“หลังจากเห็นถึงความมุ่งมั่นของทีมผู้ผลิต กรีนพีซจึงอยากมีส่วนในการสนับสนุนการรณรงค์ดังกล่าว ทีมงานผู้ผลิตได้ปรับแนวทางในการระดมทุน การจัดจำหน่ายและการประชาสัมพันธ์ในวงกว้าง เป้าประสงค์ของพวกเขามิใช่เพียงการประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เท่านั้น แต่เป็นการผลักดันเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นบนโลกนี้” นายมาร์ติน กล่าวเสริม
โพสเลธเวท อาร์มสตรองและกิลเลท จะจัดรอบปฐมทัศน์ โดยต้อนรับแขกผู้เข้าร่วมงานอย่างนาย โคฟี อันนัน นักแสดงอย่างกิลเลียน แอนเดอสัน ผู้มีชื่อเสียงในแวดวง นักต่อสู้เรื่องโลกร้อน และผู้นำประเทศ ด้วย “พรมเขียว” ที่ปูเพื่อต้อนรับผู้ร่วมงาน ซึ่งจะเดินทางมาถึงโดยเรือ จักรยาน รถสามล้อถีบ หรือสเก็ตบอร์ด ที่โรงภาพยนตร์ติดแผงพลังงานแสงอาทิตย์ ใจกลางแมนฮัตตัน รอบปฐมทัศน์จะเริ่มขึ้นด้วยสารคดีสั้นจากกรีนพีซ เรื่องธารน้ำแข็งละลายในเทือกเขาหิมาลัย และผืนป่าโบราณในอินโดนีเซีย และยังมีดนตรีโดย ทอม ยอร์ค จาก Radiohead อีกด้วย
ทุกคนสามารถร่วมติดตามภาพยนตร์เรื่องยุคแห่งความโง่เขลานี้ได้ โดยสำรองตั๋วเพื่อเข้าชมรอบปฐมทัศน์และสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพยนตร์ได้ที่ www.ageofstupid.net และในเวบไซต์ www.greenpeace.or.th/ageofstupid สำหรับประเทศไทย
นอกจากนี้ PSI โทรทัศน์ผ่านดาวเทียมในประเทศไทย ยังได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการฉายภาพยนตร์ยุคแห่งความโง่เขลารอบปฐมทัศน์ทั่วโลกผ่านทางดาวเทียม โดยจะออกอากาศในวันอังคารที่ 22 กันยายน 2552 เวลา 20.00 น. ภายใต้การดำเนินการของบริษัทผลิตรายการโทรทัศน์ ในจังหวัดเชียงใหม่ www.digitalmixes.co.uk ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกอากาศผ่านทางดาวเทียม PSI สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ www.psichannel.com
การฉายภาพยนตร์ยุคแห่งความโง่เขลา เป็นส่วนหนึ่งของโครงการรณรงค์ “เดินกับช้าง ร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลง” ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันเสาร์ที่ 12 กันยายนนี้ โดยกิจกรรมดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างกรีนพีซ Tcktcktck และกองทุนวิจัยและอนุรักษ์ช้างไทย โครงการ Chang(e) Caravan — เดินกับช้าง ร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลง — จะนำโขลงช้างเลี้ยง 5 เชือก เดินทางจากเขาใหญ่อันเป็นมรดกโลกและมรดกแห่งอาเซียนในเขต อ. ปากช่อง จ.นครราชสีมา ถึงกรุงเทพมหานคร ก่อนหน้าการประชุมโลกร้อนที่กรุงเทพฯ รวมระยะทางราว 250 กิโลเมตร เป็นเวลา 15 วัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผลกระทบและความจำเป็นอันเร่งด่วนที่ต้องเตรียมการรับมือ รวมถึงร่วมเรียกร้องผลักดันให้มีการลงมือทำที่จริงจัง หากสนใจเข้าร่วมกิจกรรม สามารถติดต่อได้ที่ www.greenpeace.or.th
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
ธารา บัวคำศรี ผู้จัดการฝ่ายรณรงค์ประจำประเทศไทย กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีเมล tbuakams@greenpeace.org
วิริยา กิ่งวัชระพงศ์ ผู้ประสานงานสื่อมวลชน กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีเมล wkingwat@greenpeace.org
Wiriya Kingwatcharapong
Media Campaigner
Greenpeace Southeast Asia, Thailand
Tel +66 (0)2 357 1921 # 115
Fax +66 (0)2 357 1929
skype wiriyanueng
หมายเหตุ
(1) กรีนพีซฉายภาพยนตร์ยุคแห่งความ โง่เขลา ในประเทศอาร์เจนตินา ออสเตรีย เบลเยียม บราซิล ชิลี เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมัน ฮอลแลนด์ ฮังการี อินเดีย อินโดนีเซีย อิตาลี ลักแซมเบิร์ก เม็กซิโก นอร์เวย์ ฟิลิปปินส์ รัสเซีย สโลวาเกีย สเปน สวีเดน สวิสเซอร์แลนด์ ไทย ตุรกี และสหรัฐอเมริกา
ส่วนออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอังกฤษ ได้จัดฉายรอบปฐมทัศน์ไปแล้ว
(2) “นับเป็นวาทกรรมชิ้นเอกเรื่องโลกร้อนที่ทรงพลังที่สุด เท่าที่เคยมีมา” มาร์ค ไลนาส ผู้ประพันธ์เรื่อง Six Degrees: Our Future on a Hotter Planet
“ภาพยนตร์เรื่องยุคแห่งความโง่เขลาสะท้อนถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงความจำเป็นอันเร่งด่วน และเหตุผลที่เราจำเป็นต้องลงมือทำโดยเร็วที่สุด” เอ็ด มิลลิแบน เลขาธิการของ State for Energy and Climate Change ประเทศอังกฤษ
“ตื่นเต้น เร้าใจตลอดทั้งเรื่อง นับเป็นภาพยนตร์ดรามาเรื่องโลกร้อนบนจอเงินเรื่องแรก ที่ประสบความสำเร็จ” The Guardian, UK
(3) ภาพยนตร์เรื่องยุคสมัยแห่งความโง่เขลาใช้การระดมทุนแนวทางใหม่ที่เรียกว่า “การระดมจากฝูงชน ‘Crowd Funding’ ซึ่งผู้ร่วมทุนแต่ละคนเป็นหุ้นส่วนในหนัง
การเผยแพร่หลังจากฉายบนจอภาพยนตร์ในประเทศอังกฤษ อยู่ภายใต้การดำเนินการของ Indie Screening ซึ่งอนุญาตให้คนนำภาพยนตร์ไปฉายที่บ้าน ที่ทำงานหรือในห้องประชุมของเมือง การจัดฉายรอบปฐมทัศน์ทั่วโลกตั้งเป้าให้ถึงร้อยกว่าแห่งทั่วโลก
การฉายรอบปฐมทัศน์ในประเทศอังกฤษ ได้รับการบันทึกให้เป็นภาพยนตร์ที่มีการฉายพร้อมกันหลายโรงมากที่สุดในโลก ซึ่งฉายพร้อมกันกว่า 60 โรง ส่วนการฉายพร้อมกันทั่วโลกในครั้งนี้ คาดหวังว่าจะมีมากกว่า 100 โรงทั่วโลก