กรุงเทพฯ--10 ก.ย.--กระทรวงพาณิชย์
กระทรวงพาณิชย์จัดงาน The 6th Thailand International Logistics Fair 2009 อย่างยิ่งใหญ่ เน้นสร้างเครือข่ายโลจิสติกส์ครอบคลุมอาเซียน พร้อมจัดกิจกรรมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการพัฒนาการบริหารจัดการและลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของไทย
กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการส่งออก ร่วมกับสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สมาคมผู้ประกอบธุรกิจวัตถุอันตราย และหน่วยงานสนับสนุนอีก 14 องค์กร จัดงาน The 6th Thailand International Logistics Fair 2009 ระหว่างวันที่ 9-13 กันยายน 2552 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค พบกับสัมมนาและกิจกรรมด้านโลจิสติกส์ต่างๆ มากมายภายในงาน เพื่อช่วยสร้างโอกาสทางการค้า และเสริมสร้างความรู้ด้านการบริหารจัดการโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพให้กับผู้ประกอบการไทย
นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่าในภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ทั่วโลกกำลังประสบอยู่ในขณะนี้ โลจิสติกส์มีความสำคัญต่อภาคธุรกิจการค้ามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทยซึ่งต้องพึ่งพาการส่งออกถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของ GDP จึงมีความจำเป็นต้องเร่งพัฒนาการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ เพื่อลดต้นทุนด้านการบริหารจัดการการส่งออก และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก เนื่องจากต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของประเทศไทยในขณะนี้ยังสูงถึงร้อยละ 18.9 ของ GDP
“เรื่องโลจิสติกส์เป็นเรื่องที่ได้รับความสำคัญอย่างยิ่งจากรัฐบาลนายกอภิสิทธิ์ เนื่องจากเป็นประตูสู่การค้าขายที่มีประสิทธิภาพของประเทศ รัฐบาลจึงได้จัดตั้งคณะกรรมการโลจิสติกส์แห่งชาติ หรือ “กบส” ขึ้นโดยมีภารกิจดูแลด้านงานโลจิสติกส์โดยเฉพาะ และกระทรวงพาณิชย์เองก็ได้ขานรับนโยบายและจัดตั้งคณะกรรมการโลจิสติกส์การค้าขึ้นเพื่อดูแลเรื่องโลจิสติกส์การค้าอีกโดยเฉพาะโดยเน้นแนวคิดเชิง
กลยุทธ์ในการลดต้นทุนโลจิสติกส์การค้าของผู้ประกอบการไทยให้สามารถแข่งขันได้ ขณะที่เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์การค้า เพื่อกระตุ้นความพร้อม และส่งเสริมสนับสนุนภาคการค้าและเศรษฐกิจไทย รองรับการดำเนินการทั้งในระยะเร่งด่วนและในระยะกลางและยาว” นายอลงกรณ์กล่าว
ด้านนายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออกในฐานะผู้จัดงานฯ กล่าวว่าที่ผ่านมากรมฯ ได้ดำเนินการผลักดันให้ผู้ส่งออกและผู้ประกอบการภาคการผลิตพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถในการลดต้นทุนด้านการผลิตและการบริหารจัดการโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการเข้าชมงานโลจิสติกส์ครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ผู้ส่งออกและผู้ประกอบการภาคการผลิตจะได้มองเห็นทางเลือกในการบริหารจัดการโลจิสติกส์จากผู้ให้บริการมืออาชีพโดยตรง อีกทั้งขยายช่องทางเลือกสำหรับบริการโลจิสติกส์ที่เหมาะสม ที่สามารถช่วยประหยัดได้ทั้งต้นทุนและเวลาแทนการบริหารจัดการด้วยตนเองทั้งหมด
งาน The 6th Thailand International Logistics Fair 2009 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้ธีม “ASEAN Logistics Networks” มีผู้เข้าร่วมงาน (exhibitor) ทั้งสิ้น 343 คูหา จาก 171 บริษัท รวมทั้งหน่วยงานและสมาคมจากกลุ่มประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Subregion - GMS) ซึ่งประกอบด้วยจีน เวียดนาม ลาว กัมพูชา พม่า และไทย
ภายในงานมีการจัดแสดงสินค้า เทคโนโลยี และบริการด้านโลจิสติกส์ครบวงจร จากกลุ่มธุรกิจบริการโลจิสติกส์ กลุ่มเครื่องมือและอุปกรณ์โลจิสติกส์ เช่น เครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับคลังสินค้า กลุ่มซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น เทคโนโลยีบาร์โค้ด, RFID และโปรแกรม ERP ตลอดจนกลุ่มธุรกิจและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
นอกจากการจัดแสดงสินค้าและบริการด้านโลจิสติกส์แล้ว ปีนี้ผู้จัดงานฯ ยังเน้นจัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการโลจิสติส์ที่มีประสิทธิภาพ โดยจัดสัมมนา Logistics Symposium เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและวิธีปฏิบัติด้านโลจิสติกส์การค้าระดับภูมิภาคและระดับโลกโดยผู้เชี่ยวชาญของไทยและต่างประเทศ อาทิ การบรรยายในหัวข้อ “What Will Be the Situation of Logistics Industry in 2010 and How Logistics Service Providers Should Adapt to Survive” โดย
Mr. William M. Gottlieb ประธานสหพันธ์ตัวแทนขนส่งและโลจิสติกส์นานาชาติ หรือ FIATA เป็นต้น
นอกจากนี้ ภายในงาน The 6th Thailand International Logistics Fair 2009 ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ Business Presentation โดยนำเสนอเทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านการบริการจัดการโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพจากภาคเอกชน โครงการ Logistics Clinic โดยยกศูนย์บริการส่งออกแบบเบ็ดเสร็จ (OSEC) มาไว้ภายในงานเพื่อให้คำปรึกษาด้านการออกเอกสารเพื่อการส่งออก การประกวด Logistics Model Awards สำหรับผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการด้านโลจิสติกส์ นิทรรศการด้านโลจิสติกส์ และโครงการตลาดแรงงาน หรือ Logistics Job Fair โดย บ. วัฏฏะ คลาสสิฟายด์ส จำกัด
นายปณต บุณยะโหตระ ผู้อำนวยการสำนักโลจิสติกส์การค้า กรมส่งเสริมการส่งออกกล่าวปิดท้ายว่า “ความแข็งแกร่งด้านโลจิสติกส์ของไทยนั้น คือการที่เราสามารถเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ และการที่เราจะสร้างเน็ตเวิร์คเช่นนี้ได้ เราก็ต้องทำให้ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทยไปเป็นคู่ค้ากับต่างประเทศให้มากที่สุด”
งานครั้งต่อไป (The 7th Thailand International Logistics Fair 2010) กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-11 ตุลาคม 2553 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค
ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม
สื่อมวลชนสัมพันธ์ โทรศัพท์: 0-2690 56 81-4 โทรสาร: 0-2690 56 85
รัตติยา โตสูงเนิน, อุไรรัตน์ สุโชดายน
บูรณี จันทรปรรณิก, นุจรี ศรีวรรณยศ