กรุงเทพฯ--11 ก.ย.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
คณะกรรมการวิสามัญฯ ย้ำ หน่วยงานกทม. ขอขยายเวลาเบิกจ่ายงบประมาณต้องคำนึงถึงการนำเงินไปใช้ให้ตรงตามนโยบายกทม. ทั้งโครงการที่เสนอขอไว้ต้องมีความชัดเจนและเป็นประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด พร้อมทั้งการเบิกจ่ายเงินในโครงการต้องเหมาะสมและตรงตามเนื้องาน อีกทั้งผู้บริหารโรงรับจำนำ กทม. ควรลดดอกเบี้ยเฉพาะข้าราชการและลูกจ้างกทม. พร้อมทั้งเร่งเดินหน้าเพิ่มพื้นที่สีเขียวต่อเนื่อง 50 เขต
นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ส.ก.เขตมีนบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญเพื่อพิจารณาญัตติขอความเห็นชอบให้กรุงเทพมหานครขยายเวลาเบิกจ่ายเงินเหลื่อมปีไว้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ 2553 ของหน่วยงานกทม. โดยมีสมาชิกสภากรุงเทพมหานครพร้อมผู้บริหารกทม. และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเลขานุการสภากรุงเทพมหานครเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 5-6 สภากทม.
ในที่ประชุมคณะกรรมการวิสามัญฯ ได้ตั้งข้อสังเกตถึง การขอขยายเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณของหน่วยงานกรุงเทพมหานคร ควรให้ความสำคัญในโครงการที่เป็นประโยชน์และเป็นนโยบายที่มุ่งเน้นให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการมากที่สุดและ ตรงตามแผนนโยบายที่ได้กำหนดไว้ ทั้งการเบิกจ่ายเงินควรคำนึงถึงความเหมาะสมและตรงตามเนื้องานจริงที่ได้เสนอขอไว้ รวมทั้งไม่ควรดึงงบประมาณไปใช้ในโครงการอื่น ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อโครงการเดิมที่ได้มีการเสนอขอไว้อีกด้วย
แนะโรงรับจำนำลดดอกเบี้ยเฉพาะข้าราชการและลูกจ้างกทม. พร้อมเร่งเดินหน้าเพิ่มพื้นที่สีเขียวต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ได้ตั้งข้อสังเกตอีกว่า สำนักการสิ่งแวดล้อมควรยึดนโยบายหลักเร่งรัดนำเงินไปพัฒนาในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวใน 50 เขต รวมถึงสร้างสวนสาธารณะในพื้นที่ต่างๆ ให้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มปอดให้กับคนกรุงเทพและเป็นการลดปัญหาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย พร้อมทั้งโครงการจ้างเหมาเอกชนดำเนินการติดตั้งระบบสัญญาน GPS ติดตามการใช้งานของรถเก็บขนมูลฝอยเพื่อไม่ให้ใช้นอกวัตถุประสงค์ ผู้บริหารควรทบทวนเพราะสามารถเช็คหมายเลขรถขนขยะได้ง่าย รวมถึงเวลาเข้าออกก็ได้มีการกำหนดไว้ตามเวลาราชการอยู่แล้วหากเกิดกรณีเจ้าหน้าที่นำไปใช้นอกเวลาราชการก็สามารถที่จะตรวจสอบได้ทันที อีกทั้งสำนักงบประมาณควรเข้มงวดในการเบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยงานต่างๆ ซึ่งจะต้องคำนึงถึงความจำเป็นและความเหมาะสมในการนำไปใช้ในให้เกิดประโยชน์จริงๆ
นอกจากนี้สำนักงานสถานธนานุบาลในส่วนของโรงรับจำนำ ควรมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเฉพาะข้าราชการและลูกจ้างกรุงเทพมหานคร รวมถึงการปรับปรุงสถานที่ต้องให้มีความเหมาะสมกับภาพลักษณ์ของโรงรับจำนำ โดยเน้นการปรับปรุงภายในสถานที่ ให้ทันสมัยมากกว่าภายนอก เพื่อไม่ให้ผู้มาใช้บริการเกิดความกังวลในขณะเดินทางมาใช้บริการอีกด้วย นอกจากนี้สำนักการแพทย์ ควรเร่งดำเนินการจัดซื้อเครื่องตรวจเกี่ยวกับโรคหัวใจและอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อทดแทนของเดิมที่ชำรุดและเสื่อมสภาพตามระยะเวลาการใช้งาน ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาและดูแลพี่น้องประชาชนให้มีสุขภาพที่แข็งแรง สอดคล้องกับนโยบายของกรุงเทพมหานครต่อไป