CPF ร่วมมือกระทรวงศึกษาธิการให้ความรู้ครูเลี้ยงไก่ไข่ เน้น 4 หัวใจหลักเพื่อโภชนาการเด็กไทย

ข่าวทั่วไป Monday September 14, 2009 09:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--ซีพีเอฟ ดร.สมเกียรติ ชอบผล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการดำเนินงานกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถม เปิดเผยว่า คณะกรรมการกองทุนโครงการเพื่ออาหารกลางวันใน โรงเรียนประถมศึกษา ได้น้อมนำแนวพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ในด้านการแก้ไขปัญหาทุพโภชนาการของเด็กและเยาวชนผู้ด้อยโอกาสในชนบทมาปฏิบัติ โดยสนับสนุนงบประมาณของกองทุนให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 40,095,358 บาท สำหรับสนับสนุนกิจกรรมการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัด สพฐ. จำนวน 255 โรงเรียนที่เสนอโครงการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ เพื่อให้เด็กนักเรียนได้รับประทานไข่สัปดาห์ละ 3 ฟอง หรือ 120 ฟอง ต่อคนต่อ 1 ปีการศึกษา (200 วันตลอดเปิดภาคเรียน) อันจะนำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพโปรตีนและเสริมสารอาหารสำคัญที่ยังเป็นปัญหาแก่เยาวชนไทย ได้แก่ แร่ธาตุเหล็ก และวิตามินเอ ตลอดจนบูรณาการหลักสูตรการเลี้ยงไก่ไข่ให้เป็นหลักสูตรในท้องถิ่น และเป็นแหล่งผลิตอาหารสดเชื่อมโยงไปยังชุมชน “เพื่อให้โครงการสัมฤทธิ์ผล สพฐ. จึงจัดอบรมผู้บริหารสถานศึกษา ครูโภชนาการและครูที่ดูแลกิจกรรมเลี้ยงไก่ไข่ทั่วประเทศ ประมาณ 950 คน โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากกรมปศุสัตว์ สถาบันโภชนาการมหาวิทยาลัยมหิดล และ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารของประเทศไทย ที่จะเข้ามาให้ความรู้โดยไม่คิดมูลค่า และมีมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบทร่วมให้คำปรึกษาและเป็นพี่เลี้ยงแก่ครูและโรงเรียนที่ผ่านการคัดเลือกอย่างใกล้ชิด โดยเน้นย้ำ 4 หัวใจนอกเหนือจากการเลี้ยงคือ 1.โภชนาการมาตรฐานของเด็กนักเรียน 2. อาหารที่ดีปลอดภัย 3.การเป็นแหล่งผลิตอาหารของโรงเรียน และ 4.การนำไปสู่การเรียนรู้” นายสมเกียรติกล่าว ด้าน นายสุปรี เบ้าสิงห์สวย ผู้จัดการมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท สนับสนุนโดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ และคณะอนุกรรมการดำเนินงานกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา เปิดเผยถึงกระบวนการคัดเลือกโรงเรียนในโครงการว่า จะคัดเลือกจากโรงเรียนกว่า 3,000 แห่ง ที่เขียนโครงการเสนอเข้ามาว่าโรงเรียนใดเสนอโครงการเลี้ยงไก่ไข่ จากนั้นทีมงาน CPF จะเข้าไปพิจารณาพื้นที่ในเชิงเทคนิค เพื่อดูความเป็นไปได้ในการดำเนินโครงการ ประกอบกับพิจารณาความพร้อมของผู้บริหารโรงเรียน ครูและนักเรียนที่จะรับผิดชอบโครงการด้วย ซึ่ง CPF จะเข้าไปสนับสนุนโดยตรงปีละประมาณ 50 โรงเรียน ส่วนนอกเหนือจากนั้นจะประสานเครือข่าย เช่น กรมปศุสัตว์ วิทยาลัยเกษตร เข้าไปสนับสนุน “โครงการนี้มีเงื่อนไขที่ชัดเจนคือการให้ครั้งเดียวอย่างพอเพียง โรงเรียนที่ผ่านการคัดเลือกและอบรมครูแล้วเสร็จ ซึ่งได้รับงบประมาณจาก สพฐ. ภายใต้โครงการกองทุนหมุนเวียนส่งเสริมผลผลิตเพื่ออาหารกลางวันกิจกรรมการเลี้ยงไก่ไข่ที่ครอบคลุมการสร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ อุปกรณ์การเลี้ยง พันธุ์สัตว์ อาหารสัตว์ รุ่นแรก รวมถึง ยาและวัคซีน โดยครู นักเรียนและชุมชน ต้องร่วมกันจัดการโครงการให้สามารถดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ซึ่งการเลือกที่จะให้ความรู้แก่ครูก่อนนั้น เพราะครูคือผู้นำการเปลี่ยนแปลงของสังคม ที่มีส่วนสำคัญยิ่งในการถ่ายทอดความรู้สู่เด็กๆ และชุมชน” นายสุปรีกล่าว การอบรมครูเลี้ยงไก่ไข่นี้ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จในพื้นที่ 7 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ อุบลราชธานี เชียงใหม่ กรุงเทพมหานคร อุดรธานี ขอนแก่น พิษณุโลก สุราษฎร์ธานี ซึ่งนำไปสู่ความรู้ความเข้าใจในโครงการอาหารกลางวันนักเรียนแก่ครู เป็นการให้ความรู้และทักษะด้านบริหารจัดการโครงการ และสร้างทัศนคติที่ดีต่ออาชีพเกษตร ตลอดจนเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อบูรณาการไปสู่การเรียนการสอนใน 2 เรื่องคือ หลักสูตรท้องถิ่นว่าด้วยเรื่องการจัดการอาชีพเกษตร และ ทักษะที่เกิดขึ้นกับนักเรียนและผู้ปกครองต้องสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง สำนักสื่อสารและประชาสัมพันธ์ CPF โทร. 02-631-0641, 02-638-2713, 02-625-7344-5 e-mail : pr@cpf.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ