กรุงเทพฯ--15 ก.ย.--ก.ไอซีที
ร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร แถลงภายหลังการประชุม “ผู้บริหารกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร” ว่า การประชุมในครั้งนี้เป็นการหารือเกี่ยวกับความคืบหน้าในการดำเนินงานโครงการและแผนงานยุทธศาสตร์ต่างๆ ของกระทรวงไอซีทีและหน่วยงานในสังกัด โดยมีประเด็นสำคัญๆ คือ ในวันที่ 3 ตุลาคมนี้เป็นวันครบรอบ 7 ปีของการสถาปนากระทรวงไอซีที ซึ่งจะมีการจัดงาน เพื่อนำเสนอภารกิจต่างๆ ของกระทรวงฯ ณ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารบี ในระว่างวันที่ 5-7 ตุลาคม 2552
นอกจากนี้ยังได้มีการหารือในเรื่องเกี่ยวกับความคืบหน้าการจัดตั้งหน่วยงานระดับกรมขึ้นใหม่ในสังกัดกระทรวงไอซีที 3 หน่วยงาน คือ กรมสำรวจและจัดทำแผนที่พลเรือน สำนักงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานส่งเสริมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งได้รับการอนุมัติในหลักการแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน ก.พ.ร. พร้อมกันนี้ยังได้หารือในเรื่องการเพิ่มอัตรากำลังของหน่วยงานในสังกัด คือ สำนักงานปลัดกระทรวงฯ กรมอุตุนิยมวิทยา และสำนักงานสถิติแห่งชาติ โดยส่วนใหญ่จะเพิ่มในส่วนของภูมิภาค และที่ประชุมผู้บริหารฯ ในครั้งนี้ยังมีการรายงานการตรวจเยี่ยมราชการในจังหวัดอุดรธานี และเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งได้มีการมอบแนวนโยบายของปีงบประมาณ 2553 ที่เน้นการนำแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ฉบับที่ 2 ของประเทศไทยมาปรับใช้เป็นแผนปฏิบัติการและแผนงบประมาณรองรับตามแผนแม่บทฯ
ส่วนการดำเนินงานกับเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อมูลไม่เหมาะสมต่างๆ ของกระทรวงไอซีทีผ่านทางศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต หรือ ISOC นั้น กระทรวงฯ ได้ดำเนินการปิดกั้นไปแล้วกว่า 19,000 URL โดยแบ่งเป็นเว็บไซต์ที่กระทบกับความมั่นคง 10,578 URL เว็บไซต์ที่เผยแพร่ซึ่งข้อมูลเข้าข่ายลามกอนาจาร-เว็บไซต์ขายยา 8,474 URL และเว็บไซต์การพนัน 72 URL
ขณะที่ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาดาวเทียมไทยคมนั้น กระทรวงฯ พร้อมที่จะมีการเจรจาเงื่อนไขต่างๆ ในสัญญาเพิ่มเติมกับ บมจ.ไทยคม แต่จะไม่มีการแก้ไขในสัญญาเดิมอย่างแน่นอน ซึ่งคาดว่าเรื่องดังกล่าวจะเรียบร้อยภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้
สำหรับการดำเนินงานและโครงการของหน่วยงานในสังกัดนั้นได้มีการหารือในเรื่องต่างๆ คือ การให้ความร่วมมือกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในการสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์จาก บมจ.ทีโอที และบมจ. กสท โทรคมนาคม โดยได้ให้การสนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์เกี่ยวกับการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬา รวมถึงระบบโทรศัพท์ทางไกล และอินเทอร์เน็ต รวมทั้งได้ขออนุมัติงบกลางจากรัฐบาลจำนวน 17 ล้านบาทมาใช้ในการดำเนินงานด้วย
ด้านบมจ. กสท โทรคมนาคม ได้มีนโยบายการขยายเครือข่ายบรอดแบนด์ในเขตเมืองท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มฐานลูกค้า ที่เป็นนักท่องเที่ยว โดยร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ซึ่งล่าสุดได้ร่วมมือกับเทศบาลเมืองพัทยาทำโครงการไฟเบอร์ ทู เดอะ โฮม (Fiber to the Home : FTTH) ขยายเครือข่ายบรอดแบนด์ริมหาดพัทยา ขณะเดียวกัน บมจ.ทีโอที ก็ได้มีการขยายเครือข่ายไวไฟ (WiFi) ในศรีราชา ซึ่งต่อไปทั้งสองบริษัทจะดำเนินนโยบายเชิงรุกในการขยายเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและไร้สายไปยังเมืองท่องเที่ยวสำคัญอื่นๆ อาทิ หัวหิน หาดใหญ่ เกาะสมุย เชียงใหม่ เป็นต้น
ด้านบจ.ไปรษณีย์ไทย ได้หารือเรื่องการปรับโฉมใหม่เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยการเพิ่มศักยภาพด้านเทคโนโลยี รวมทั้งจะมีการเพิ่มบริการด้านโลจิสติกส์ เน้นเกี่ยวกับการขนส่งผักผลไม้ภายในประเทศ ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาเรื่องปริมาณผลผลิต
ขณะที่ความคืบหน้าเรื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3จี ของ บมจ. ทีโอที นั้น การดำเนินงานในระยะเริ่มต้นหรือเฟส 0 จะทำการปรับปรุงโครงข่าย 1900 MHz เดิมของ บจ.เอซีที โมบาย ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมาเป็นโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3จี แล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2552 โดยจะทดลองระบบในเดือนพฤศจิกายน และเปิดบริการในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ จำนวน 533 สถานีฐาน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-1416747 ทวิติยา สมัตถะ