กรุงเทพฯ--12 ต.ค.--ไอเอ็นจี
บลจ.ไอเอ็นจี ฉวยจังหวะอัตราดอกเบี้ยในประเทศเริ่มนิ่ง เตรียมเปิดขาย “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แบงก์ แอนด์ ไพร์ม คอร์ปอเรท 1” ระหว่างวันที่ 17-24 ต.ค.นี้ เผยลงทุนในตราสารหนี้ระยะ 6 เดือน ชูผลตอบแทน 4.8% ไม่ต้องเสียภาษี เล็งเจาะนักลงทุนชอบความเสี่ยงต่ำ
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด—กองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ทิศทางของอัตราดอกเบี้ยทั้งในและต่างประเทศเริ่มนิ่งและอาจมีการปรับตัวลดลงได้ในช่วงกลางปี พ.ศ. 2550 ซึ่งอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐยังคงอยู่ที่ระดับ 5.25% ต่อปี โดยไม่ได้มีการปรับเพิ่มขึ้นในการประชุม 2 ครั้งหลังสุด เช่นเดียวกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 5.00% ต่อปี
“ในมุมของการขึ้นดอกเบี้ยนั้น เชื่อว่ามีโอกาสเกิดขึ้นน้อย ขณะที่การลดดอกเบี้ยมีความเป็นไปได้ แต่ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่า ดอกเบี้ยในประเทศจะลดลงในปีหน้าได้หรือไม่ เนื่องจากการใช้นโยบายขาดดุล (Deficit Policy) ของรัฐบาล ทำให้ยังไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือทางการเงินในทันที ซึ่งในช่วงที่มีความไม่แน่นอนว่าดอกเบี้ยจะลดลงเมื่อไหร่เช่นนี้ ทำให้นักลงทุนบางกลุ่มต้องการล็อคผลตอบแทนที่แน่นอนในระยะเวลาที่นานขึ้น ทำให้ขณะนี้กองทุนตราสารหนี้ระยะ 6 เดือนกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น” นายจุมพลกล่าว
ดังนั้น เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการดังกล่าว บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเตรียมที่จะเสนอขายกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แบงก์ แอนด์ ไพร์ม คอร์ปอเรท 1 (ING Thai Bank and Prime Corporate 1) ในระหว่างวันที่ 17-24 ตุลาคม 2549
ทั้งนี้ กองทุนรวมดังกล่าว จะเน้นลงทุนแบบซื้อและถือตราสารในพอร์ต จนครบกำหนดอายุประมาณ 6 เดือน โดยเลือกลงทุนในเงินฝากสถาบันการเงิน ตราสารหนี้ที่ออกโดยสถาบันการเงิน หุ้นกู้ภาคเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ระดับ A ขึ้นไป จากสถาบันการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รวมถึงตราสารหนี้ภาครัฐด้วย
นายจุมพลกล่าวด้วยว่า กองทุนรวมดังกล่าวเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนระยะประมาณ 6 เดือน ที่สูงกว่าการฝากเงินในธนาคาร ขณะเดียวกัน ก็ไม่ต้องการรับความเสี่ยงที่สูงนัก ซึ่งคาดว่า กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แบงก์ แอนด์ ไพร์ม คอร์ปอเรท 1 จะสร้างผลตอบแทนให้นักลงทุนได้ประมาณ 4.80% ต่อปี
“ในภาวะที่ดอกเบี้ยทรงตัว และสถานการณ์ทางการเมืองมีทางออกที่ดีอย่างน้อยก็สำหรับนักลงทุนในประเทศ ส่วนนักลงทุนต่างประเทศนั้นก็มีทั้งเห็นด้วยและกังวลแตกต่างกันไป ดังนั้น สำหรับนักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยง แต่ต้องการผลตอบแทนสูงกว่าการฝากเงินกับธนาคารพาณิชย์ การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะ 6 เดือนจึงยังคงเป็นที่นิยมและเป็นที่พึงพอใจของนักลงทุน” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด—กองทุนรวม บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม :กฤติยาพร พลตรี
โทรฯ 02-643-1191-2 มือถือ 08-9636-8414
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net