กรุงเทพฯ--17 ก.ย.--เอพีพีอาร์ มีเดีย
F5 เน็ตเวิร์กส์ ผู้นำระดับโลกด้านเครือข่ายเพื่อการขับเคลื่อนแอพพลิเคชัน หรือ เอดีเอ็น (ADN - Application Delivery Networking) ต่อยอดความสำเร็จของเทคโนโลยีโหลดบาลานซ์ ขยายการรับรู้สู่ตลาดในฐานะผู้นำด้านเครือข่ายเพื่อการขับเคลื่อนแอพพลิเคชัน สร้างความคล่องตัวให้องค์กร ส่งโซลูชันนวัตกรรมเอดีเอ็นครบวงจรลงตลาดประเทศไทย ครอบคลุมทั้งการรักษาความปลอดภัย ควบคู่ไปกับการเร่งความเร็วในการใช้เว็บแอพพลิเคชัน ช่วยให้ใช้ทรัพยากรในระบบโครงสร้างได้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ณัฐพล อภิลักโตยานันท์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย F5 เน็ตเวิร์กส์ เปิดเผยว่า F5 ประสบความสำเร็จในการบุกเบิกตลาดไอที ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีโหลดบาลานซ์ ซึ่งได้รับความสำเร็จอย่างมากมาย โดยในปัจจุบัน F5 มีส่วนแบ่งในตลาดโหลดบาลานซ์ในประเทศไทยกว่า 70% พร้อมกับยังคงมุ่งหน้าพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การใช้ระบบโครงสร้างที่ดียิ่งขึ้น โดยใช้ฐานความแข็งแกร่งในเรื่องโหลดบาลานซ์ พัฒนาต่อยอดศักยภาพด้านนวัตกรรมไปสู่ระบบเครือข่ายเพื่อการขับเคลื่อนแอพพลิเคชัน หรือ เอดีเอ็น ภายใต้กลยุทธ์การนำเสนอนวัตกรรม “Beyond Load Balancer” จนสามารถก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดเอดี ควบคู่ไปกับการนำเสนอเรื่องของระบบความปลอดภัยสำหรับเว็บแอพพลิเคชัน และได้รับการจัดอันดับผู้นำที่มีส่วนแบ่งสูงสุดในตลาดแพลตฟอร์มล้ำหน้าสำหรับเอดีซี (Application Delivery Controller) คือ 52.2 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสแรกของปี 2552 ตามข้อมูลของการ์ทเนอร์
“นวัตกรรมของ F5 ได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งอเมริกาและยุโรป โดยในตลาดถือว่า F5 เป็นแบรนด์ยอดนิยมที่นำเสนอโซลูชันเอดีเอ็น และสำหรับตลาดเอดีเอ็นในเอเชีย ก็เป็นตลาดที่เติบโตเร็ว ซึ่งในภูมิภาคอาเซียน ตลาดเอดีเอ็นในประเทศไทย นับว่าเป็นตลาดใหญ่เป็นอันดับที่สองรองจากประเทศสิงคโปร์ และ F5 ก็เป็นผู้ให้บริการโซลูชันเอดีเอ็นที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุด” ณัฐพล กล่าว
“สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดในประเทศไทยระหว่างปีนี้ ถึงปีหน้า F5 จะมุ่งเน้นการสื่อสารจุดยืนที่นำเสนอคุณค่าด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี และโซลูชัน มากกว่าการเป็นผู้ให้บริการโซลูชันโหลดบาลานซ์ ทั้งในแง่โฆษณา ประชาสัมพันธ์ และการจัดฝึกอบรมให้แก่พันธมิตรตัวแทนจำหน่ายและผู้วางระบบทั้งหมด เพื่อถ่ายทอดศักยภาพและการนำเสนอโซลูชันระบบ เครือข่ายเพื่อการขับเคลื่อนแอพพลิเคชัน หรือ เอดีเอ็น (ADN - Application Delivery Networking) พร้อมกับนำเสนอคุณค่าสูงสุดจากการใช้โซลูชันของ F5 ต่อยอดทั้งในแง่ของการเร่งความเร็วในการใช้เว็บแอพพลิเคชัน (BIG-IP WebAccelarator) และเพิ่มความปลอดภัยสูงสุดในการใช้แอพพลิเคชัน (BIG-IP Application Security Manager)”
ผลิตภัณฑ์หลัก ใน 4 ตลาด ที่ F5 จะมุ่งเน้นทำตลาดอย่างหนักในประเทศไทย ในปีนี้ และปีถัดไป
1. ตลาดแรกซึ่ง F5 ยังคงรักษาความเป็นผู้นำไว้ได้ตลอดกาล ได้แก่ ตลาดโหลดบาลานซ์ (Load Balance) ซึ่งผลิตภัณฑ์ในราว 90 เปอร์เซ็นต์ของตลาดโหลดบาลานซ์ทั้งหมด ได้แก่ LTM หรือ Local Traffic Manager เป็นโหลดบาลานซ์ที่ใช้ภายในดาต้าเซ็นเตอร์ อีก 10 เปอร์เซ็นต์เป็นของ ตลาดโหลดบาลานซ์ที่ใช้ระหว่างดาต้าเซ็นเตอร์ สำหรับองค์กรที่มีดาต้าเซ็นเตอร์มากกว่าหนึ่งแห่ง เช่นองค์กรโทรคมนาคม หรือ องค์กรที่ให้บริการด้านการเงิน ได้แก่ GTM หรือ Global Traffic Manager โดย F5 จะยังคงนำเสนอทั้งผลิตภัณฑ์ F5 BIG-IP Local Traffic Manager และ F5 BIG-IP Global Traffic Manager ให้กับลูกค้าที่มีความต้องการ
2. ตลาดซีเคียวริตี้ หรือ ด้านความปลอดภัยในดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งจะมาช่วยต่อยอดลูกค้าฐานเดิมในกลุ่มที่ใช้โหลดบาลานซ์ของ F5 อยู่แล้ว ให้สามารถขับเคลื่อนแอพพลิเคชันผ่านเว็บได้อย่างปลอดภัย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ บิ๊ก-ไอพี เอเอสเอ็ม (BIG-IP Application Security Manager) ซึ่งเป็นเว็บแอพพลิเคชันไฟร์วอลล์ที่ล้ำหน้า สามารถดึงเอาประโยชน์จากโครงสร้างที่ใช้ระบบปฏิบัติการทีมอส (TMOS) ออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ ทั้งการเร่งความเร็วและการรักษาความปลอดภัยในขณะเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการบีบอัดข้อมูล การทำแคชชิ่ง (caching) เป็นต้น และช่วยลดการใช้แบนด์วิธได้สูงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ โดยล่าสุด F5 เพิ่งได้มีการเปิดตัว บิ๊ก-ไอพี เอเอสเอ็ม เวอร์ชัน ล่าสุดคือ เวอร์ชัน 10 ไปเมื่อตอนต้นปี ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความฉลาดในการบริหารจัดการ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น และลดค่าใช้จ่ายจากการใช้ทรัพยากรในระบบได้อย่างคุ้มค่าที่สุด และสิ่งสำคัญก็คือ ช่วยตอบสนองวิสัยทัศน์ของ F5 ในการนำเสนอบริการรวมเพื่อการใช้ข้อมูลและแอพพลิเคชัน หรือที่เรียกว่า Unified Application and Data Delivery Services ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากการมีไฟร์วอลล์สำหรับแอพพลิเคชันที่ทำงานได้เร็วที่สุดและมีสมรรถนะที่เหนือกว่า ทั้งยังช่วยผสานรวมโซลูชันความปลอดภัยเข้าไว้เป็นหนึ่งเดียวภายใต้เครือข่ายเพื่อการขับเคลื่อนแอพพลิเคชัน ช่วย ป้องกันแอพพลิเคชันจากภัยอย่าง Denial of Service การโจมตีระบบในวงกว้าง การโจมตี SQL (SQL injection) และการโจมตีในรูปแบบอื่นๆ ทั้งบนแอพพลิเคชันแบบเดิมและเว็บ 2.0 แอพพลิเคชัน เพื่อให้ความปลอดภัยบนโซลูชันเพื่อการขับเคลื่อนแอพพลิเคชันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
3. ตลาดเว็บทราฟฟิก (Web Traffic) จัดเป็นตลาดที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในยุคปัจจุบัน เพื่อสนองความจำเป็นในการสื่อสารระหว่างองค์กรและลูกค้าผ่านเว็บไซต์ เช่นการให้บริการธุรกรรม ประเภท e-Banking, M-Banking กระทั่งตลาดเกมออนไลน์ หรือการทำตลาดผ่านเว็บ เพื่อสร้างคอมมูนิตี้ ให้เกิดความภักดีในแบรนด์ รวมถึงการค้าขายออนไลน์ ทั้งหมด ทั้งหมดนี้ เกิดจากการที่องค์กรธุรกิจเล็งเห็นความสำคัญของการสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาเพื่อสร้างประสบการณ์ให้แก่ผู้บริโภค และทำให้โซลูชันที่เพิ่มประสิทธิภาพความเร็วของการทำกิจกรรมผ่านเว็บไซต์ เช่น BIG-IP WebAccelerator เป็นที่ต้องการในตลาดแห่งนี้ เพราะหากเว็บไซต์ของตนไม่สามารถสนองความพึงพอใจด้านความเร็วให้ลูกค้าของตนได้ เช่นการต้องรอโหลดหน้าเว็บใดเว็บหนึ่งนานเกินไป อาจทำให้ลูกค้าคลิกเม้าท์เปลี่ยนหน้าโฮมเพจในที่สุด ดังนั้น BIG-IP WebAccelerator เข้ามามีบทบาทในตลาดแห่งนี้เป็นอย่างมาก เพราะเป็นโซลูชันชั้นสูงที่ช่วยเร่งความเร็วของเว็บแอพพลิเคชัน จากเทคโนโลยีที่ช่วยลดการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ และระบบเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิผล จึงเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายในเรื่องของแบนด์วิธได้อีกทาง นอกจากนี้ โซลูชันดังกล่าวยังสามารถทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มของเว็บแอพพลิเคชันชั้นนำได้หลากหลายทั้งจากไมโครซอฟท์ ออราเคิล ซีเบล เอสเอพี และ บีอีเอ ช่วยให้องค์กรสามารถรับมือกับปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อสมรรถนะของเว็บแอพพลิเคชันได้อย่างดี ทั้งในเรื่องของความล่าช้าบนระบบแวน (WAN) และรูปแบบการปฏิบัติบนฝั่งบราวเซอร์ที่ไม่เหมาะสม โดยเทคโนโลยีดังกล่าวช่วยปรับปรุงสมรรถภาพของแอพพลิเคชันให้เพิ่มขึ้นได้กว่า 3-10 เท่า
4. ตลาดสุดท้าย ตลาด สตอเรจเวอร์ชวลไลเซชัน ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังได้รับความสนใจมากที่สุดในขณะนี้ และเป็นที่จับตามองทั้งจากองค์กรต่างๆมากมายที่ต้องการเพิ่มสมรรถนะโครงสร้างไอทีขององค์กรตนเองให้ทรงประสิทธิภาพ ดังนั้น ARX Series คือคำตอบของตลาดนี้ เพราะเป็นโซลูชันด้านดาต้าและไฟล์เวอร์ชวลไลเซชันอัจฉริยะ ที่ช่วยให้สามารถบริหารจัดการไฟล์ข้อมูลได้ง่ายขึ้น ในลักษณะของระบบจัดการแบบอัตโนมัติ และเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ ให้ประสิทธิภาพสูงในการบริหารจัดการระบบสตอเรจได้ตามนโยบายที่กำหนด ช่วยขจัดปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อการใช้แอพพลิเคชันและธุรกิจ จากการย้ายข้อมูล (Data Migration) การจัดระบบสตอเรจแบบเป็นลำดับชั้น (Storage Tiering) และการทำรีพลีเคชันข้อมูล (Data Replication) รวมถึงการทำโหลดบาลานซ์บนระบบสตอเรจ (Storage Load Balancing) ซึ่งผลิตภัณฑ์ของ F5 สามารถบริหารจัดการร่วมกับผลิตภัณฑ์ของผู้จำหน่ายรายอื่นได้อย่างราบรื่น ซึ่งสิ่งนี้นับเป็นหนึ่งในจุดแข็งของ F5
F5 ยังคงพร้อมที่จะเดินหน้าด้วยความคล่องตัว ในการนำเสนอโซลูชันเอดีเอ็นให้กับฐานลูกค้าเดิม ในอุตสาหกรรมสำคัญเช่นสถาบันการเงิน ภาคธุรกิจโทรคมนารม และองค์กรเอกชน พร้อมก้าวสู่โอกาสใหม่ท่างการตลาด เช่น ตลาดหน่วยงานราชการ พร้อมกับได้วางแผนงานในการทำการตลาดร่วมกับพันธมิตรผู้จำหน่ายรายอื่นในตลาด ควบคู่ไปกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความคล่องตัวที่เหนือกว่าให้ดาต้าเซ็นเตอร์ของลูกค้า โดยจะเสริมคุณค่า ทั้งสมรรถนะ และความปลอดภัย เพื่อรองรับการเติบโตของโครงสร้างสถาปัตยกรรมไอทีขององค์กรที่มีแต่จะโตขึ้น และมีความต้องการนวัตกรรมที่สูงขึ้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ
บริษัท เอพีพีอาร์ มีเดีย จำกัด
ทนุ รักษาผล 02-655-6633 thanu@apprmedia.com
กณวรรธน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา 02-655-6633 kanawat@apprmedia.com
บุษกร ศรีสงเคราะห์ 02-655-6633 busakorn@apprmedia.com