กรุงเทพฯ--28 ก.ย.--คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
พร้อมเพิ่มโปรแกรมเฉพาะเพื่อใช้งานร่วมกับผลิตภัณฑ์มาตรฐานไว-ไฟ 802.11n ที่กำลังจะเกิดขึ้น
อินเทล คอร์ปอเรชั่น เผยถึงรายละเอียดคุณสมบัติของแพลตฟอร์ม อินเทล? เซนทริโน? โมบายล์ เทคโนโลยีรุ่นต่อไปที่จะทำให้คอมพิวเตอร์แล็ปท้อปสามารถทำงานได้รวดเร็วทันใจยิ่งขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการสื่อสารแบบไร้สายให้สูงขึ้นอีกระดับ โดยมีหัวใจหลักของแพลตฟอร์มคืออินเทล คอร์?2 ดูโอ โปรเซสเซอร์ ซึ่งจะช่วยให้เครื่องมีประสิทธิภาพการทำงานและการประหยัดพลังงานสูงขึ้น
อินเทลยังได้ประกาศเปิดตัวโปรแกรมเฉพาะที่จะทำให้สามารถใช้งานร่วมกับผลิตภัณฑ์ไว-ไฟ 802.11n ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยโปรแกรมดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อทำให้สื่อสารได้อย่างรวดเร็วและไม่ติดขัดด้วย
แอ็คเซสพอยท์ที่หลากหลาย การพัฒนาในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อให้โปรเซสเซอร์ดีที่สุดในโลกและเทคโนโลยีอินเทล เซนทริโน โมบายล์ ได้พัฒนาก้าวล้ำไปอีกขั้นหนึ่ง
มร. เดวิด เพิร์ลมัตเตอร์ รองประธานอาวุโส กลุ่มโมบิลิตี้ของอินเทล คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ที่ผ่านมาผู้ใช้งานจะต้องยอมสละความสามารถของคอมพิวเตอร์ด้านใดด้านหนึ่งเพื่อจะได้ใช้คอมพิวเตอร์แบบโมบายล์ แต่ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมานี้ อินเทลได้พัฒนาคอมพิวเตอร์แล็ปท้อปให้ก้าวล้ำไปอีกระดับ ทั้งในด้านประสิทธิภาพ ความสามารถในการเชื่อมต่อและอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ เพื่อให้คอมพิวเตอร์แล็ปท้อปมีสมรรถนะใกล้เคียงหรือเท่ากับคอมพิวเตอร์เดสก์ท้อป เรามุ่งมั่นพัฒนาและขยายขอบเขตประสบการณ์การใช้งานเคลื่อนที่ และผลิตภัณฑ์ของเราที่จะออกมาในอนาคตจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้คนทั่วโลก”เหนือกว่าด้วยประสิทธิภาพการใช้งานแบบเคลื่อนที่และการเชื่อมต่อ
มร. เพิร์ลมัตเตอร์ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม อินเทล เซนทริโน ดูโอ โมบายล์ เทคโนโลยีรุ่นต่อไปว่าจะช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านการทำงานและการประหยัดพลังงานที่โดดเด่นไม่มีใครสู้ได้อยู่แล้วของ โน้ตบุ๊กที่มีอินเทล เซนทริโน โมบายล์ เทคโนโลยี ให้ดียิ่งขึ้นไปกว่าเดิม แพลตฟอร์มดังกล่าวซึ่งมีกำหนดออกวางตลาดในช่วงครึ่งแรกของปี 2550 โดยเป็นการเสริมประสิทธิภาพของตัวประมวลผล อินเทล คอร์ 2 ดูโอ โปรเซสเซอร์ โดยให้ประสิทธิภาพใหม่ในการประหยัดพลังงานในที่ดีกว่าเดิมในซีพียู และมีความเร็วของฟร้อนท์ไซด์บัสเริ่มจาก 667 MHz ถึง 800 MHz ทำให้มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ความสามารถใหม่ๆ ที่เพิ่มเติมเข้ามา เช่น การจัดการให้เครื่องมี residency ที่ยาวนานขึ้น จากสภาวะใช้พลังงานต่ำโดยเทคโนโลยี Enhanced Deeper Sleep และ Dynamic Front Side Bus Switching จะช่วยควบคุมระดับการใช้พลังงานโดยเฉลี่ยในขณะที่ให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
แพลตฟอร์มนี้จะบรรจุโซลูชั่น Wi-Fi แบบใหม่ที่รองรับการทำงานของมาตรฐาน 802.11n ที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้งาน ก่อนที่มาตรฐาน 802.11n จะมีการรับรองอย่างเป็นทางการ อินเทลได้ร่วมมือกับผู้จำหน่ายอุปกรณ์จุดเชื่อมต่อชั้นนำอย่าง บัพฟาโล ดี-ลิงค์ ลิงค์ซิส และเน็ทเกียร์ ในการออกแบบโปรแกรม 802.11n ที่ทำให้สามารถใช้งานร่วมกับมาตรฐานไว-ไฟ 802.11n และทำการทดสอบความสามารถการใช้งานร่วมกัน เพื่อศึกษาถึงประสิทธิภาพการทำงาน ผลการทำงานที่เกิดขึ้นได้ รวมทั้งความเสถียรของการทำงาน
มร. เพิร์ลมัตเตอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผลิตภัณฑ์หลายๆ ตัวที่ใช้มาตรฐานเทคโนโลยี Wi-Fi 802.11n ที่มีอยู่ในท้องตลาดปัจจุบันนี้ไม่สามารถทำงานร่วมกันกับเครือข่าย Wi-Fi เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด และเราเชื่อมั่นว่า โซลูชั่นมาตรฐาน 802.11n จะสร้างความสมดุลที่ดีที่สุดระหว่าง throughput และการประหยัดพลังงาน โปรแกรมที่มีประสิทธิภาพสูงของเราจะช่วยให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดจากการใช้งานร่วมกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานคาดหวังจากแล็ปท้อปที่มีอินเทล เซนทริโน โมบายล์ เทคโนโลยี โปรแกรมที่ทำให้สามารถทำงานร่วมกันนี้ได้รับการออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพเหนือกว่าโปรแกรมที่มีอยู่ในปัจจุบันที่มีประสิทธิภาพดีอยู่แล้วตามที่กลุ่มพันธมิตร Wi-Fi Alliance ได้ประกาศไว้”
มร. เพิร์ลมัตเตอร์เผยว่าอินเทลได้ร่วมมือกับโนเกียเพื่อนำผลิตภัณฑ์การเชื่อมต่อระบบบรอดแบรนด์ไร้สายแบบครบวงจรที่ใช้เทคโนโลยี 3G ที่ล้ำสมัยของโนเกียมารวมไว้ในแพลตฟอร์มอินเทล เซนทริโน ดูโอ โมบาลย์ เทคโนโลยี ซึ่งจะช่วยเพิ่มทางเลือกในการเชื่อมต่อให้กับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์แล็ปท้อปด้วยเครือข่าย 3G ที่มีให้ใช้บริการอย่างกว้างขวาง
เทคโนโลยีแพลตฟอร์ม อินเทล เซนทริโน โมบายล์ รุ่นใหม่นี้จะเพิ่มความสามารถที่มาจากเทคโนโลยี อินเทล? วีโปร? ที่มีอยู่ในคอมพิวเตอร์เดสก์ท้อปสำหรับใช้ในองค์กรธุรกิจที่มีจำหน่ายในขณะนี้ เทคโนโลยี Wireless Intel? Active Management Technology1 จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพทางด้านไอที การบริหารทรัพย์สิน, ความปลอดภัยของระบบ และความพร้อมสำหรับการใช้งาน ซึ่งท้ายที่สุดจะช่วยลดค่าใช้จ่ายโดยรวมในการดูแลรักษาระบบ ระบบใหม่นี้ยังมีนวัตกรรมใหม่ของอินเทล flash memory-based accelerator ที่สามารถทำให้ระบบกลับสู่ภาวะการทำงานปกติได้อย่างรวดเร็วหลังการ hibernation และสามารถรันแอพพลิเคชั่นหลายๆ อย่างพร้อมกันได้เร็วขึ้นถึงสองเท่า ช่วยประหยัดพลังงานของฮาร์ดไดรฟ์ได้ถึง 0.4 วัตต์ และยังช่วยให้สามารถบูทเครื่องได้เร็วขึ้น2
นอกจากนี้อินเทลจะเดินหน้าพัฒนาชุดชิปเซ็ตให้มี integrated graphic core เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านกราฟิกที่จะช่วยให้ภาพมีความสมบูรณ์เหมือนจริง มีชีวิตชีวา และสามารถเล่นด้วยความคมชัดสูง
การเพิ่มผลิตภัณฑ์กลุ่มโมบายล์
อินเทลมีความพยายามอย่างต่อเนื่องในการขยายชุดผลิตภัณฑ์อุปกรณ์เคลื่อนที่ โดยได้ประกาศว่าแพลตฟอร์มพีซีอัลตร้า โมบายล์ จะมีวางจำหน่ายในไตรมาสแรกของปี 2550 โดยซีพียูของแพลตฟอร์มนี้จะกินกำลังประมาณครึ่งหนึ่งของซีพียูที่ใช้ในปัจจุบัน และมีขนาดเพียงหนึ่งในสี่ของซีพียูในปัจจุบัน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้คอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กและเก๋ไก๋กว่าเดิม ระบายความร้อนได้ดีกว่า และมีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่นานกว่า
รายละเอียดเกี่ยวกับงานไอดีเอฟ
อินเทล ดิเวลล็อปเปอร์ ฟอรัม (ไอดีเอฟ) เป็นงานแสดงด้านเทคโนโลยีประจำปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ซึ่งจัดขึ้นสำหรับนักพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์โดยเฉพาะ งานไอดีเอฟ เป็นเวทีที่บริษัทชั้นนำในวงการมารวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับพีซี เซิร์ฟเวอร์ อุปกรณ์ติดต่อสื่อสาร และอุปกรณ์พกพาต่างๆ ผู้สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานไอดีเอฟ และเทคโนโลยีต่างๆ ของอินเทลได้ที่ http://developer.intel.com
ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมซิลิกอน อินเทลได้พัฒนาเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และริเริ่มสิ่งต่างๆ เพื่อสร้างความก้าวหน้าในการทำงานและการดำรงชีวิตของผู้คน ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทอินเทล ได้ที่เว็บไซต์ http://www.intel.com/pressroom
Intel, โลโก้ของ Intel, Centrino, โลโก้ “Intel. Leap ahead.,”, Intel Viiv และ Intel Inside เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ
อินเทล คอร์ปอเรชั่น หรือสำนักงานสาขาทั้งในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ ขอสงวนสิทธิ์
*ชื่อและยี่ห้ออื่นอาจถูกอ้างอิงถึงโดยถือเป็นทรัพย์สินของชื่อยี่ห้อนั้นๆ