กรุงเทพฯ--21 ก.ย.--บีโอไอ
กระทรวงอุตสาหกรรม ยกทัพจัดงาน “นายกฯ พบนักลงทุนอเมริกัน” ถึงถิ่นลุงแซม เชิญซีอีโอ 11 บริษัทยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ จับเข่าคุยนายกฯ อภิสิทธิ์ หวังสร้างความเชื่อมั่น ด้านรัฐมนตรีชาญชัย เตรียมเปิดสำนักงานต่างประเทศแห่งที่ 13 ของบีโอไอ ณ กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน คาดช่วยดึงเม็ดเงินลงทุนจากกลุ่มสแกนดิเนเวีย
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 20-23 กันยายน 2552 นี้ กระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จะเดินทางไป นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อจัดงาน “นายกฯ พบนักลงทุนอเมริกัน” เพื่อให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งเดินทางไปประชุมองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ที่สหรัฐอเมริกา ได้พบปะหารือกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทชั้นนำในประเทศสหรัฐฯ
งาน “นายกฯ พบนักลงทุนอเมริกัน” จะเป็นโอกาสดีที่นายกรัฐมนตรีของไทยจะได้พบปะหารือและสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยให้กับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทอเมริกัน รวมทั้งจะเป็นโอกาสอันดีที่กระทรวงอุตสาหกรรมจะได้นำเสนอการปรับปรุงมาตรการส่งเสริมการลงทุนครั้งใหญ่ ด้วยการปรับเพิ่มประเภทกิจการ เพิ่มสิทธิประโยชน์การลงทุน รวมถึงการปรับปรุงเงื่อนไขที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุนจำนวนมาก ซึ่งบอร์ดบีโอไอที่มีนายกฯ เป็นประธาน ได้อนุมัติเมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา เพื่อให้การส่งเสริมการลงทุนของไทยมีความเหมาะสม และตรงกับความต้องการของกลุ่มนักลงทุนในสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้น
“การที่นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงและให้ข้อมูลกับนักลงทุนอเมริกันด้วยตัวเอง จะแสดงให้เห็นว่าเราให้ความสำคัญต่อการลงทุนของอเมริกาในไทย รวมทั้งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่น และมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยด้วย” นายชาญชัย กล่าว
เปิดสำนักงานบีโอไอแห่งที่ 13 ในสตอกโฮล์ม
นายชาญชัย กล่าวต่อไปว่า ระหว่างวันที่ 23-26 กันยายน 2552 กระทรวงอุตสาหกรรม และบีโอไอ จะเดินทางไปกรุงสตอกโฮล์ม เพื่อเปิดสำนักงานส่งเสริมการลงทุนแห่งที่ 13 ณ กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เพื่อทำหน้าที่ในการชักจูงการลงทุนจากประเทศในแถบแสกนดิเนเวียโดยจะมีการจัดกิจกรรมเชิงรุก ช่วยอำนวยความสะดวกและให้ข้อมูลที่สำคัญแก่นักลงทุนใช้ในการประกอบการพิจารณาตัดสินใจเข้ามาดูลู่ทางการลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น
ด้านนางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า สำนักงาน ณ กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน จะเป็นสำนักงานแห่งสุดท้ายตามเป้าหมายของบีโอไอ ที่จะเปิดสำนักงานส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศให้ครบ 6 แห่งภายในปี 2552 หลังจากที่บีโอไอได้เปิดสำนักงานในต่างประเทศมาตั้งแต่ปลายปี 2551 จนถึงปัจจุบันสำนักงานที่ได้ดำเนินการเปิดใหม่แล้วทั้ง 5 แห่ง
“สำนักงานในต่างประเทศของบีโอไอที่ได้เปิดขึ้นใหม่นั้น มีส่วนสำคัญที่ทำให้การลงทุนจากประเทศเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเทศจีนและเกาหลีใต้ มีการขอรับส่งเสริมการลงทุน เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าตัวจากจีน และเพิ่มร้อยละ 60 จากเกาหลีใต้ และคาดว่าสำนักงานสตอกโฮล์มนี้ก็จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุนจากกลุ่มสแกนดินีเวียในประเทศไทยได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งที่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย เช่น เหล็ก ยานยนต์ ไอซีที สิ่งแวดล้อม และป่าไม้” เลขาธิการบีโอไอกล่าว
สำหรับสวีเดน เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศสแกนดินีเวีย และอันดับ 20 ของโลก เป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าและคมนาคมขนส่งของยุโรปเหนือ รวมถึงเป็นประตูสู่กลุ่มประเทศนอร์ดิก บอลติก และ CIS โดยสำนักงานสตอกโฮล์มจะเป็นศูนย์กลางที่สำคัญในการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนจากกลุ่มสแกนดิเนีย ให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย เช่น นอร์เวย์ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ เป็นต้น
ทั้งนี้ จากสถิติการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ พบว่า ตั้งแต่ปี 1970 — 2009 มีโครงการลงทุนของสวีเดนในไทยจำนวน 47 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 14,623.6 ล้านบาท