ณัฐวุฒิ หัวใจแก้ว กูรูคนพันธุ์อึด อดีตแชมป์ปี 2547 ทุบสถิติดูหนังมาราธอนตัวเอง และสร้างสถิติประเทศไทยใหม่ 168 ชม. 7 วัน 7 คืน คว้ารางวัลรวมมูลค่ากว่า 8 แสนบาท

ข่าวบันเทิง Monday September 21, 2009 10:10 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ก.ย.--เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป กูรูคนพันธุ์อึด นายณัฐวุฒิ หัวใจแก้ว อดีตแชมป์ดูหนังมาราธอน ปี 2547 ยังคงรักษาแชมป์ทุบสถิติดูหนังมาราธอนตัวเองที่เคยทำไว้ 80 ชั่วโมง 40 นาที ซึ่งการแข่งขันครั้งนั้น เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ได้ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดขึ้น และครั้งนี้ได้สร้างสถิติดูหนังมาราธอนยาวนานที่สุดของประเทศไทยที่เวลา 168 ชั่วโมง หรือ 7 วัน 7 คืน ในการแข่งขัน “ซัมซุง พลาสม่า มูฟวี่ กูรู มาราธอน 2009 แอท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ (Samsung Plasma Movie Guru Marathon 2009 @ Major Cineplex)” ซึ่ง เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ร่วมกับ ซัมซุง พลาสม่า ทีวี จัดขึ้น ณ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน เพื่อค้นหากูรูผู้รอบรู้ด้านภาพยนตร์ ที่มีทั้งความอึด ความอดทน และชาญฉลาด เกี่ยวกับภาพยนตร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 8 แสนบาท ทั้ง ถ้วยรางวัล, เงินสด 200,000 บาท, ซัมซุง พลาสม่า ทีวี ซีรี่ส์ 6 ขนาด 63 นิ้ว พร้อมชุดโฮมเธียเตอร์, บัตรชมภาพยนตร์ฟรีตลอดชีพ จาก เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป และได้รับการจดบันทึกชื่อเป็นผู้ชมภาพยนตร์แบบมาราธอนที่ใช้เวลายาวนานที่สุดในประเทศไทย โดยสถาบัน Ripley’s Believe it or not!!! เจ้าตัวเผย ดีใจที่ชนะการแข่งขัน ส่วนเงินรางวัลจะมอบให้ภรรยาไว้เป็นทุนการศึกษาให้กับลูกสาวคนเดียว ส่วนเคล็ดลับการเตรียมตัว ก่อนแข่งพยายามออกกำลังกายทุกวัน หาความรู้เรื่องหนัง และในระหว่างวันแข่งขัน จะใช้น้ำเย็นล้างหน้า จิบน้ำเย็นบ่อยๆ การรับประทานอาหารเน้นทานแต่ผัก ผลไม้ และใช้วิธีพักสายตาแต่ไม่นอน เพราะเกรงว่าร่างกายจะจดจำการนอน มาถึงจุดสิ้นสุดเรียบร้อยแล้ว สำหรับการแข่งขันดูหนังมาราธอน 168 ชั่วโมง “ซัมซุง พลาสม่า มูฟวี่ กูรู มาราธอน 2009 แอท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” ถือเป็นการกลับมาอีกครั้งของกิจกรรมชมภาพยนตร์มาราธอน ซึ่งในปีนี้ถือเป็นครั้งทิ่ 3 ที่ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) จัดขึ้น และเป็นปีพิเศษอีกปีหนึ่งที่ได้รับเกียรติจากพันธมิตรอย่าง ซัมซุง พลาสม่า ทีวี ทีวีที่ดีที่สุดสำหรับชมภาพยนตร์ในบ้าน เป็นผู้สนับสนุนจัดกิจกรรมดังกล่าว ทั้งนี้ได้มีผู้ให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมแข่งขันถึง 1,500 คน ระหว่างวันที่ 1-31 กรกฎาคม 2552 และได้ทำการคัดเลือกผู้สมัครเข้าแข่งขันรอบแรกไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ณ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน โดยการแข่งขันในรอบแรกผู้สมัครทุกคนจะต้องทำข้อสอบตอบคำถามจำนวน 100 ข้อ ในเวลา 1 ชั่วโมง เกี่ยวกับภาพยนตร์เพื่อวัดประสบการณ์ความเป็นคนรอบรู้เกี่ยวกับหนังของแต่ละคนว่ามีมากน้อยขนาดไหน และต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพเพื่อเตรียมความพร้อมฟรีที่ โรงพยาบาลพญาไท 3 เมื่อวันที่ 1-6 กันยายน 2552 โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ตรวจเช็คสภาพร่างกายและจิตใจ เพื่อรับรองสิทธิ์ว่าสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้ ซึ่งมีผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมแข่งขันเพียง 300 คน อายุน้อยสุด 16 ปี และอายุมากสุด 47 ปี สำหรับวันนี้ถือเป็นวันสิ้นสุดการแข่งขัน บรรยากาศของการแข่งขันขันยังเป็นไปอย่างคึกคัก เหมือนเช่นการแข่งขันในวันแรก ๆ เรียกได้ว่าลุ้นนาทีต่อนาทีก็ว่าได้ เพราะมีผู้ถูกออกจากการแข่งขันอยู่ตลอดเวลา และในที่สุดก็เหลือเพียงอดีตแชมป์ดูหนังมาราธอนซึ่งเป็นเจ้าของสถิติเมื่อปี 2547 ทำไว้ 80 ชั่วโมง 40 นาที คือ นายณัฐวุฒิ หัวใจแก้ว ที่สามารถทำลายสถิติดูหนังมาราธอนของตัวเองที่เคยทำไว้และได้สร้างสถิติใหม่ของการดูหนังมาราธอนของประเทศไทยขึ้นด้วยสถิติ 168 ชั่วโมง หรือ 7 วัน 7 คืน โดยไร้เงาคู่ต่อสู้คนอื่น ๆ ส่วนรองอันดับ 1-4 นั้น เรียงอันดับ ดังนี้ รองอันดับ 1 นางสาว พัชราภรณ์ เสนีวงษ์ ทำสถิติ 163 ชั่วโมง 29 นาที รองอันดับ 2 นายชาญยุทธ บรรเทาวงษ์ ทำสถิติ 161 ชั่วโมง 37 นาที รองอันดับ 3 นายสาธิต จันทร์จวนสุข ทำสถิติ 149 ชั่วโมง 31 นาที และ รองอันดับ 4 นายปัญญา ชำนาญ ทำสถิติ 144 ชั่วโมง 13 นาที นอกจากนี้ ยังมี อดีตแชมป์ดูหนังมาราธอน ปี 2549 นายพิสุทธิ์ ทองสวัสดิ์ ทำสถิติได้ 97 ชั่วโมง ส่วน นายสุรพงษ์ วิริยะวาณิชยกุล ผู้เข้าแข่งขันมากที่สุดอายุ 47 ปี ทำสถิติได้ 129 ชั่วโมง ด้าน นายสุภาชัย นิธิวงศ์ ผู้เข้าแข่งขันที่อายุน้อยที่สุด อายุ 16 ปี สามารถทำสถิติได้ 17 ชั่วโมง นายณัฐวุฒิ หัวใจแก้ว แชมป์ดูหนังมาราธอนคนล่าสุด และอดีตแชมป์ปี 2547 เผยถึงความรู้สึกว่า ดีใจ เพราะที่ผ่านมามีความใฝ่ฝันในชีวิตอยู่ 2 อย่าง คือ ประการแรก ต้องการมีชื่อจดบันทึกว่าเป็นผู้หนังมาราธอนได้ยาวนานที่สุดในประเทศไทย ประการที่ 2 คือ อยากดูหนังคนเดียวในโรงภาพยนตร์ ซึ่งทั้ง 2 อย่าง ตนก็สามารถทำสำเร็จแล้ว และคิดว่าคงจะไม่ลงแข่งขันอีกแน่นอน เนื่องจากสถิติล่าสุดที่ตัวเองทำได้ คือ 168 ชั่วโมงตนคิดว่าคงไม่ง่ายที่จะถูกลบสถิติลงได้อย่างแน่นอน “เงินรางวัลที่ได้ 2 แสนบาท ผมจะมอบให้ภรรยา นางศิริพร หัวใจแก้ว เก็บไว้เพื่อใช้เป็นทุนการศึกษาให้กับลูกสาวคนเดียวของเขา คือ น้องมินิ-ด.ญ.ปรายฟ้า หัวใจแก้ว ส่วน ซัมซุง พลาสม่า ทีวี และบัตรชมภาพยนตร์ฟรีตลอดชีพของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป คงเป็นของพ่อ คือ ตัวผมเองล่ะครับ” แชมป์ดูหนัง 168 ชั่วโมง กล่าวต่อว่า สำหรับเคล็ดลับในการเข้าแข่งขันดูหนังมาราธอนนั้น สำหรับตนมีง่าย ๆ คือ พอตัวเองรู้ว่าทางเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป รับสมัครแข่งดูหนังมาราธอน ตนก็พยายามฟิตร่างกายตั้งแต่ไปเล่นฟิตเนสที่แคลิฟอร์เนียว้าว ชั้น 2 ของ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน มาวิ่งออกกำลังวันละ 1 ชั่วโมงทุกวัน เป็นเวลา 1 เดือนเต็ม นอกจากนี้ก่อนเข้าแข่งขันรอบแรกตนพยายามเปิดอินเตอร์เนต และอ่านหนังสือหาข้อมูลเกี่ยวกับหนังทุกเรื่อง และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ เพราะตนใช้เวลาทำข้อสอบเพียง 5 นาที และเมื่อมาถึงการแข่งขันรอบสุดท้าย ตนก็มีเคล็ดลับอีกว่า หากรู้สึกอ่อนเพลียก็จะใช้น้ำเย็นล้างหน้า จิบน้ำเย็นบ่อยๆ ไม่ทานมาก เพราะจะปวดท้องเข้าห้องน้ำบ่อย และที่สำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ จะไม่ทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเด็ดขาด เน้นทานแต่ผัก ผลไม้ และใช้วิธีพักสายตาแต่ไม่นอน เพราะเกรงว่าร่างกายจะจดจำการนอน แต่ถ้าทนได้ เราก็จะผ่านจุดนั้นมาได้สบาย ๆ ประวัติของ ณัฐวุฒิ แชมป์ดูหนังมาราธอน “ซัมซุง พลาสม่า มูฟวี่ กูรู มาราธอน 2009 แอท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์”ในปีนี้ มีอายุ 30 ปี จบการศึกษาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ ภาคอินเตอร์ ที่มหาวิทยาธรรมศาสตร์ ปัจจุบันเป็นพนักงานบริษัทเอกชน ในตำแหน่งวิศวกร เคยผ่านการแข่งขันดูหนังมาราธอนมาแล้ว ครั้งแรกลงแข่งขัน เมื่อปี 2547 ซึ่ง เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดขึ้น และได้แชมป์ด้วยการทำสถิติ 80 ชั่วโมง 40 นาที จากนั้นในปี 2549 จัดโดย เมเจอร์ ซีนีเพล็กซื กรุ้ป ร่วมกับ อีซูซุ ลงชิงชัย เพื่อรักษาตำแหน่งแชมป์ แต่ก็พลาดตกรอบในช่วง ของการตอบคำถาม โดย พิสุทธิ์ ทองสวัสดิ์ ได้แชมป์ดูหนังมาราธอนปี 2549 ด้วยสถิติ 58 ชั่วโมง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่ลงแข่งขัน และสามารถทวงตำแหน่งแชมป์คืนมาได้ พร้อมสร้างสถิติดูหนังมาราธอนของประเทศไทยขึ้นมาใหม่ ด้วยเวลา 168 ชั่วโมง หรือ 7 วัน 7 คืน เงินรางวัลที่นายณัฐวุฒิ ได้รับมีมูลค่ารวมกว่า 800,000 บาท ประกอบด้วย ซัมซุง พลาสม่า ทีวี ซีรี่ส์ 6 ขนาด 63 นิ้ว พร้อมชุดโฮมเธียเตอร์, เงินสด 200,000 บาท และ บัตรชมภาพยนตร์ฟรีตลอดชีพ จาก เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป รวมทั้งได้รับการจดบันทึกชื่อเป็นผู้ชมภาพยนตร์แบบมาราธอนที่ใช้เวลายาวนานที่สุดในประเทศไทย พร้อมรับประกาศนียบัตรรับรอง โดยสถาบัน Ripley’s Believe it or not!!! ส่วนรองอันดับ 1- 4 ได้รับบัตรชมภาพยนตร์ฟรี 1 ปีจากเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ : คุณภัสสรภพ ชินตระกูล, คุณดวงใจ ยงยิ่งเชาว์, คุณนัยน์ปพร สัจจวรกุล โทร. 02-511-5427-36 ต่อ 532, 533, 534 โทรสาร 02-511-5821

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ