กรุงเทพฯ--11 ก.ย.--แสนสิริ
แสนสิริ เพิ่มดีกรีอสังหาฯ เปิดตัวบ้านแบรนด์ใหม่ “บุราสิริ สนามบินน้ำ” รวมมนต์เสน่ห์ความงามของสถาปัตยกรรมตะวันออก ส่งพร้อมพัฒนา เปิด“The Village” Shop House สุดฮ็อต ขายหมดใน 2 วัน
แสนสิริ เพิ่มดีกรีความร้อนแรงให้ตลาดที่อยู่อาศัย เตรียมเปิดแบรนด์บ้านใหม่ล่าสุด “บุราสิริ สนามบินน้ำ” บ้านเดี่ยว 52 ตารางวาขึ้นไป ที่เนรมิตความงามในแบบ The Discovery of the east ลงสนามตลาดความต้องการระดับ 5 ล้านต้น ๆ กลางเดือนกันยายนนี้ พร้อมส่งบริษัทพร้อมพัฒนาฯ เปิดตัวโปรดักใหม่ล่าสุด “The Village” โครงการนำร่องสุดฮ็อต ในลักษณะ Shop House ราคาเพียง 1.95 ล้านบาท ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดด้วยการขายหมดภายใน 2 วัน
นายสมัชชา พรหมศิริ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะเปิดตัวโครงการบุราสิริ สนามบินน้ำ บ้านจัดสรรแบรนด์ใหม่ล่าสุดของกลุ่มแสนสิริที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยในระดับราคาประมาณ 5-7 ล้านบาท ในแบบ The Discovery of the east ที่สร้างความตื่นตากับความอลังการของคลับเฮาส์สไตล์บาหลี ส่วนขนาดตัวบ้านตั้งอยู่บนแปลงที่ดินตั้งแต่ 52—100 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 150-272 ตร.ม. มีจำนวนทั้งสิ้น 308 ยูนิต มูลค่าโครงการขายรวม 1,758 ล้านบาท ทั้งนี้จะเปิดตัวการขาย (Pre-Sale) ในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป ซึ่งเชื่อมั่นว่าแบรนด์ “บุราสิริ” จะเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์บ้านเดี่ยวที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
“หากเปรียบเทียบแบรนด์ของบุราสิริ สนามบินน้ำ จะเป็นแบรนด์สำหรับโครงการบ้านระดับกลาง ที่อยู่ระหว่าง แบรนด์เศรษฐสิริ ที่มีระดับราคา 6-9 ล้านบาท และสราญสิริ ที่มีระดับราคา 3-5 ล้านบาท เพื่อขยายฐานตลาดรองรับความต้องการของลูกค้าในช่วงระดับราคาดังกล่าว ส่วนที่เปิดตัวแบรนด์ใหม่ที่ย่านสนามบินน้ำ เนื่องจากก่อนหน้านี้แสนสิริได้เปิดตัวโครงการเศรษฐสิริ สนามบินน้ำ ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีและยังคงมีความต้องการของลูกค้าอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงได้นำแบรนด์ใหม่มารองรับความต้องการในระดับราคา 5-7 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มที่สามารถทำตลาดได้ดีมากอีกกลุ่มหนึ่งของแสนสิริด้วย” นายสมัชชา กล่าว
โครงการบุราสิริ สนามบินน้ำ เป็นบ้านจัดสรรที่นำเสนอรูปแบบสถาปัตยกรรมและการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางในแบบ The Discovery of the east ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 74 ไร่ บนถนนสนามบินน้ำ ใกล้แยกเลี่ยงเมืองนนทบุรี เดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกสบายด้วยทางด่วนงามวงศ์วาน-แจ้งวัฒนะ รวมถึงถนนใหม่ที่เชื่อมโยงกับสะพานพระราม 5 นอกจากนี้อยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน อาทิ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์งามวงศ์วาน, เซ็นทรัลทาวน์ รัตนาธิเบศร์, คาร์ฟูร์, เทสโก้โลตัส เป็นต้น
สำหรับบ้านในโครงการ ได้รับการออกแบบให้เป็นที่อยู่อาศัยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยการนำรูปแบบสถาปัตยกรรมร่วมสมัย (Contemporary) ผสมผสานให้กลมกลืนกับธรรมชาติและสภาพแวดล้อม การใช้สีสันของอาคารเป็นแบบ Two Tone ใน Style Earth Tone สามารถสัมผัสเสน่ห์ของความเป็นตะวันออกที่สวยงาม ขณะที่พื้นที่ส่วนกลางได้รับการออกแบบสไตล์ Modern Tropical สามารถสัมผัสเสน่ห์ของตะวันออกตั้งแต่ทางเข้าโครงการตลอดจนพื้นที่ส่วนกลางและตัวอาคารสโมสรได้อย่างเต็มอิ่ม นอกจากนี้ทางเข้าโครงการและอาคารคลับเฮ้าส์สไตล์บาหลีตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่าหนึ่งไร่ ตกแต่งด้วยวัสดุธรรมชาติทั้งภายนอกและภายใน ข้างในประกอบด้วยโถง Open air เปิดโล่ง พื้นที่ด้านในเล่นระดับ ชั้นล่างมี Service Locker ชั้นบนมีห้องออกกำลังกาย Fitness ขนาด 5x6.5 ม. อีกทั้งยังมีสระว่ายน้ำขนาด Semi-Olympic 12x25ม. พร้อมด้วย Pool Pavilion ศาลาริมสระ ที่รายล้อมด้วยบรรยากาศธรรมชาติของพื้นที่ส่วนกลางกว่า 3 ไร่ ในแบบ Green Terrace ที่ทอดยาวเชื่อมตั้งแต่ส่วนกลางด้านหน้าโครงการไปจรดท้ายโครงการ โดยแต่ละโซนถูกสร้างสรรค์ให้มีบรรยากาศที่แตกต่างกัน อาทิ Wooden terrace, Lawn Terrace, Zen terrace เป็นต้น
ส่งบริษัทพร้อมพัฒนา พร็อพเพอร์ตี้ เปิดตัว The Village : Shop House สุดฮ็อต นายสมัชชา กล่าวต่อไปว่า นอกจากแสนสิริจะเปิดแบรนด์บ้านใหม่แล้ว ยังได้ให้บริษัทพร้อมพัฒนา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ เปิดตัวการขาย (Pre-Sale) โครงการ “The Villege” ซึ่งเป็นโครงการที่พักอาศัยในเชิงพาณิชย์แบบ Shop House สไตล์โมเดิร์น บริเวณถนนรามอินทรา เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยในลักษณะประกอบกิจการพาณิชย์ได้ เป็นอาคารสามชั้นครึ่ง พื้นที่ใช้สอย 170 ตร.ม. บนขนาดที่ดินขนาด 18-27 ตร.ว. ราคาขายเริ่มต้นตั้งแต่ 1.95 ล้านบาท มีจำนวนยูนิตทั้งสิ้น 57 ยูนิต โดยเริ่มเปิดตัวการขายตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพียง 2 วันก็สามารถปิดการขายโครงการดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ The Village นับเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาโดยบริษัทในกลุ่มแสนสิริ ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีมากๆ เนื่องจากทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่ในย่านชุมชน เหมาะสมกับการทำธุรกิจการค้า ตัวโครงการตั้งอยู่บนเส้นทางคมนาคมที่สะดวก สามารถเดินทางเข้า-ออกได้หลายทาง อาทิ ทางเข้าหลักบนถนนปัญญารามอินทรา และทางซอยหทัยราษฎร์ นอกจากนี้ตัวอาคารยังได้รับการออกแบบให้มีพื้นที่เหมาะสมกับการทำธุรกิจการค้า ภายในมีระดับความสูงที่ให้ความรู้สึกโล่งโปร่ง แบ่งเป็น 3 ชั้นครึ่ง 3 ห้องน้ำ ไม่มีการกั้นห้อง แต่ละชั้นเป็นลักษณะปล่อยโล่งเพื่อออกแบบตามความต้องการของลูกค้า ถนนภายในโครงการที่มีความกว้างถึง 9 เมตร สามารถจอดรถซ้อนคันได้ มีพื้นที่สวนส่วนกลางภายในโครงการ และมีที่จอดรถแยกเป็นสัดส่วน เป็นต้น” นายสมัชชา กล่าว
“ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา กลุ่มแสนสิริและบริษัทในเครือ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการขยายตลาดที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร โดยช่วงสองไตรมาสที่ผ่านมา สามารถสร้างยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยรวมทุกประเภทได้กว่า 12,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าอยู่ในอันดับต้นๆ ของผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย ดังนั้นเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการขยายตลาดที่อยู่อาศัยให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น ทางบริษัทฯ จะใช้กลยุทธ์การแตกไลน์ผลิตภัณฑ์เกี่วกับซึ่งเป็นเซกเมนต์ที่มีดีมานต์ค่อนข้างสูง และมีโอกาสขยายฐานได้ดี จึงเป็นที่มาของการสร้างแบรนด์ที่อยู่อาศัยใหม่ โดยค่อนข้างเชื่อมั่นว่า ทั้ง 2 โครงการดังกล่าวจะเป็นโครงการนำร่อง ที่จะขยายสู่ตลาดระดับเดียวกันนี้ในทำเลอื่น ๆ ในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย” นายสมัชชา กล่าว
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
โทร 0 2201 3535-6
ศุภอัชฌ์ (เอ็ม)
วรนุช (นุช)