กรุงเทพฯ--17 ก.พ.--บางกอก พับบลิค รีเลชั่นส์
- การเปลี่ยนชื่อแบรนด์ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธหลักของปี 2548 เพื่อสร้างความแข็งแกร่งแก่บริษัทในฐานะหนึ่งในผู้นำในธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคของไทย
- ลงทุน 200 ล้านบาทในการเปลี่ยนชื่อแบรนด์
จีอีประกาศเปลี่ยนชื่อธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในไทยเป็น ‘จีอี มันนี่’ การเปลี่ยนชื่อธุรกิจดังกล่าวสอดคล้องกับการเปลี่ยนชื่อธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคของจีอีในประเทศต่างๆ ทั่วโลกเป็นจีอี มันนี่ โดยการเปลี่ยนชื่อดังกล่าวถือเป็นกลยุทธหลักในปี 2548 เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคของไทย โดยคาดว่าการเปลี่ยนชื่อแบรนด์จะช่วยให้ธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคของบริษัทในไทยเติบโตขึ้นประมาณ 15-20 เปอร์เซ็นต์ในปี 2548นี้
นายพิริยะ วิเศษจินดา ประธาน จีอี มันนี่ ประเทศไทย กล่าวว่า “ปี 2548 นี้ถือเป็นปีที่ท้าทายสำหรับผู้ให้บริการสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในไทย เนื่องจากการแข่งขันที่สูงขึ้นและและจำนวนผู้ให้บริการรายใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้น การเปลี่ยนชื่อจึงถือเป็นหนึ่งในกลยุทธหลักที่ช่วยให้เราคงความได้เปรียบในการแข่งขัน และเราจะลงทุนกว่า 200 ล้านบาทสำหรับการดำเนินการเปลี่ยนชื่อแบรนด์ในครั้งนี้ ผู้บริโภคจะสามารถเชื่อมโยงประสบการณ์ดีๆ ที่ได้จากธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคของจีอีเข้ากับชื่อแบรนด์เพียงชื่อเดียวที่แสดงถึงความรวดเร็ว ความสะดวกสบายและหลักความคิดที่ว่า “เราทำได้”
นายพิริยะกล่าวต่อไปอีกว่า แบรนด์จีอี มันนี่ นี้จะใช้กับสำหรับธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อส่วนบุคคล และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของบริษัทที่จะเปิดตัวในอนาคตอันใกล้นี้ โดยธุรกิจธนาคารเพื่อรายย่อยแห่งใหม่ก็จะใช้แบรนด์เดียวกันนี้ โดยใช้ชื่อว่า “ธนาคารจีอี มันนี่ เพื่อรายย่อย”
ในปี 2547 ที่ผ่านมาธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคของจีอีในไทยมีอัตราเติบโต 35% เมื่อเทียบกับปี 2546 โดยมียอดสินเชื่อ ณ ปิดงวดวันที่ 31 ธันวาคม 2547 เป็นจำนวน 125,000 ล้านบาท และมีจำนวนลูกค้าประมาณ 3 ล้านราย โดยธุรกิจสินเชื่อรถยนต์นับเป็นธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคของจีอีในไทย โดยคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 70% ของยอดสินเชื่อ ณ ปิดงวดทั้งหมด
อัตราผิดนัดชำระหนี้โดยเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์ด้านสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคต่างๆ ของจีอีอยู่ที่ประมาณ 1.5% ซึ่งนายพิริยะประมาณไว้ว่าเป็นอัตราที่น้อยกว่าครึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราผิดนัดชำระหนี้โดยรวมของธุรกิจนี้ซึ่งโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2-3% เขากล่าวอีกว่าอัตราผิดนัดชำระหนี้โดยเฉลี่ยที่ต่ำนี้เป็นผลมาจากการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพและการปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ ซึ่งทำให้บริษัทรักษาการเติบโตที่มีคุณภาพไว้ได้
“ธนาคารเพื่อรายย่อยของเรามีกำหนดเปิดตัวในเดือนธันวาคม 2548 และจะใช้ชื่อว่า ‘ธนาคารจีอี มันนี่ เพื่อรายย่อย’ การขยายธุรกิจสู่ธนาคารนั้นจะช่วยให้เราสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายและเต็มรูปแบบมากยิ่งขึ้น ธนาคารจีอี มันนี่ เพื่อรายย่อยจะนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการสินเชื่อแก่ลูกค้าด้วยความรวดเร็ว ยืดหยุ่นและเข้าถึงได้ง่าย ขณะเดียวกันจะมอบคุณค่าและความน่าเชื่อถือแก่ลูกค้า สมกับที่เราเป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทในโลกที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือให้อยู่ในระดับ AAA” นายพิริยะกล่าว
จีอีดำเนินธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคใน 40 ประเทศทั่วโลก และได้เริ่มเปลี่ยนชื่อแบรนด์ของธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคเป็นจีอี มันนี่ ตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2547 ที่ผ่านมา
จีอี มันนี่ ประเทศไทย เป็นกลุ่มบริษัทในเครือของ จีอี มันนี่ ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือของบริษัท เจเนอรัล อิเลคทริค หนึ่งในผู้นำในการให้บริการสินเชื่อแก่ผู้บริโภค ธุรกิจค้าปลีก และตัวแทนจำหน่ายรถยนต์
ใน 40 ประเทศทั่วโลก จีอี มันนี่ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่สแตมฟอร์ด คอนเนคติกัต สหรัฐอเมริกา นำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย เช่น บัตรเครดิตสินเชื่อแบบผ่อนชำระ สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ บัตรเครดิตองค์กรเพื่อการจัดซื้อและเดินทาง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท บางกอก พับบลิค รีเลชั่นส์ จำกัด
อนัญญา โศภิษฐกมล (ต่อ 110) หรือ ไพโรจน์ ภาชนะปรีดา (ต่อ 115)
โทรศัพท์ 0 2664 9500 โทรสาร 0 2664 9515
สามารถคลิกดูภาพได้ที่ www.thaipr.net--จบ--