กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ประกาศคงอันดับเครดิตสนับสนุนของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (“GHB”) ซึ่งเป็นธนาคารซึ่งดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ที่ ‘2’ เมื่อพิจารณาถึงการที่ GHB เป็นธนาคารที่รัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด และมีบทบาทการดำเนินธุรกิจโดยสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการจัดหาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยราคาต่ำ ฟิทช์เชื่อว่ามีความเป็นไปได้อย่างสูงที่ธนาคารจะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐหากต้องการความช่วยเหลือ การเปลี่ยนแปลงใดๆในระดับสัดส่วนการถือหุ้นหรือการสนับสนุนจากภาครัฐอาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของธนาคาร
GHB มีส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุด โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 3 ของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในประเทศไทย แม้ว่าสินเชื่อของธนาคารจะกระจุกตัวอยู่แต่เฉพาะลูกค้าที่มีรายได้ต่ำถึงปานกลาง
ในขณะที่สินเชื่อมากกว่าครึ่งหนึ่งของ GHB เป็นการปล่อยสินเชื่อให้แก่ภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยซึ่งโดยทั่วไปแล้วมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่า มูลค่าอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยที่ตกต่ำลงมากและการถดถอยทางเศรษฐกิจได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลประกอบการของธนาคารระหว่างปี 2540 ถึง 2542 ตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา ผลประกอบการของธนาคารได้ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องอันสืบเนื่องมาจากการตั้งสำรองหนี้สูญและต้นทุนการปล่อยสินเชื่อที่ลดลง รวมทั้งการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยของประเทศด้วย
อย่างไรก็ตาม ผลกำไรสุทธิของ GHB ลดลงเป็น 4.3 พันล้านบาทในปี 2548 เนื่องจากต้นทุนการปล่อยสินเชื่อและการตั้งสำรองหนี้สูญที่สูงขึ้น แม้ว่าจะมีการเติบโตของสินเชื่อถึง 19% อัตรากำไรส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิลดลงเป็น 1.5% เนื่องจากต้นทุนการปล่อยสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นเร็วกว่ารายได้ดอกเบี้ย อัตรากำไรส่วนต่างดอกเบี้ยของ GHB อยู่ในระดับต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับธนาคารพาณิชย์อื่นๆในประเทศ โดยมีสาเหตุหลักจากผลตอบแทนจากการให้กู้ยืมที่ต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับธนาคารอื่นและต้นทุนการปล่อยสินเชื่อที่สูงขึ้น นโยบายของ GHB ไม่ได้มุ่งเพิ่มการทำกำไรให้สูงที่สุด แต่มุ่งจัดหาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในอัตราดอกเบี้ยที่สมเหตุสมผล อัตรากำไรส่วนต่างดอกเบี้ยของธนาคารมีแนวโน้มว่าจะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันในสภาวการณ์ที่อัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น อัตราต้นทุนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ของธนาคารที่อยู่ในระดับต่ำประมาณ 30% ได้สะท้อนถึงเครือข่ายสาขาที่มีขนาดเล็กของธนาคาร
หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ระดับ 50.5 พันล้านบาท หรือ 10.3% ของสินเชื่อทั้งหมด ณ สิ้นปี 2548 ลดลงจากระดับ 63 พันล้านบาท หรือ 15.3% ณ สิ้นปี 2547 เนื่องมาจากการขายหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้มูลค่า 8.7 พันล้านบาท และการปรับโครงสร้างหนี้ ระดับสำรองหนี้สูญที่ 27.1 พันล้านบาท หรือ 53.6% ของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของภาคธุรกิจธนาคาร แม้ว่าจะเป็นผลมาจากการที่ GHB มีมูลค่าหลักประกันในระดับที่สูงกว่า
อัตราส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์ ของ GHB อยู่ที่ 4.4% ณ สิ้นปี 2548 ในขณะที่อัตราเงินกองทุนขั้นที่ 1 ของธนาคาร อยู่ที่ 10% ของสินทรัพย์เสี่ยง (RWA) ซึ่งจัดอยู่ในระดับที่เพียงพอ
GHB ได้ก่อตั้งขึ้นในปี 2496 ภายใต้พระราชบัญญัติธนาคารอาคารสงเคราะห์ เพื่อบริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแก่ครัวเรือนและข้าราชการที่มีรายได้ระดับต่ำถึงปานกลาง พระราชบัญญัติธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้ให้อำนาจแก่กระทรวงการคลังในการกำกับดูแลการบริหารงานของธนาคารโดยรวม คณะรัฐมนตรีมีอำนาจในการแต่งตั้งและถอดถอนคณะกรรมการธนาคาร ซึ่งมีอำนาจในการกำกับและดำเนินธุรกิจของธนาคาร GHB มีสาขาทั้งสิ้น 122 สาขา รัฐบาลได้ขยายขอบเขตการดำเนินงานของธนาคารในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าบทบาทหลักของ GHB ยังคงเป็นการบริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแก่ประชาชนที่มีรายได้ต่ำถึงปานกลาง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ชัยพัฒน์ ไพฑูรย์, Vincent Milton, กรุงเทพฯ +662 655 4762/4759
David Marshall, ฮ่องกง +852 2263 9963