TTA เผยปี 49 รุกธุรกิจเกี่ยวข้องกับพลังงาน บริการเรือขุดเจาะน้ำมันกว่า3พันล้านบาท

ข่าวทั่วไป Wednesday January 25, 2006 14:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ม.ค.--โทรีเซนไทย เอเยนซีส์
โทรีเซนไทยโชว์แผนปี 49 รุกธุรกิจพาณิชย์นาวีนอกชายฝั่งลงทุนเพิ่ม ”ในบริษัท เมอร์เมดมาริไทม์” กว่า3พันล้านบาท ให้บริการเรือขุดเจาะน้ำมัน-ก๊าซธรรมชาติกลางทะเล จับมือกับบริษัทน้ำมันข้ามชาติ มั่นใจสร้างรายได้ ให้ TTA อย่างมั่นคง เพราะธุรกิจพลังงานอยู่ในช่วงขาขึ้น พร้อมชูจุดแข็งประสบการณ์เดินเรือมายาวนาน มุ่งรักษาจุดแข็งเดิมเพิ่มรายได้ธุรกิจใหม่ส่งผลให้งบดุล-กระแสเงินสดมั่นคง
ม.ล.จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนซีส์ จำกัด (มหาชน) (TTA) เปิดเผยถึงแผนงานประจำปี 49 ว่า ขณะนี้บริษัทได้รุกธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานโดยเพิ่มเม็ดเงินลงทุนจำนวน 1,174 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (MML) เป็น 63.14 % บริษัทนี้ดำเนินงานด้านธุรกิจพาณิชย์นาวีนอกชายฝั่งและให้บริการเฉพาะทางมาร่วม 23 ปี โดยเริ่มจากธุรกิจบริการซ่อมแซมแพชูชีพและบำรุงรักษาอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยบนเรือ และเมื่อไม่นานมานี้ บริษัท MML ได้ขยายส่วนงานที่เกี่ยวกับงานเทคนิคติดตั้งโครงสร้างใต้ทะเล และให้บริการเรือขุดเจาะปิโตรเลียมนอกชายฝั่ง โดยได้กู้เงินเพิ่มจากสถาบันการเงินในประเทศอีกจำนวน 2,214 ล้าน เพื่อนำเงินมาซื้อเรือยนต์เพื่อการปฏิบัติงานเทคนิคใต้น้ำ 2 ลำ และเรือขุดเจาะปิโตรเลียมกลางทะเลอีก 2 ลำ ได้แก่เรือ MTR-1 และ MTR-2 ในเดือนเมษายน และกรกฎาคม 2548 ตามลำดับ ทำให้สามารถขยายงานการให้บริการแก่กิจการอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่งแถบเอเซียได้ครบวงจรยิ่งขึ้น
“เรือขุดเจาะปิโตรเลียมกลางทะเลจำนวน 2 ลำ ของ MML ได้ทำสัญญากับบริษัทผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ เช่าใช้บริการเรือไปจนถึงปี 2550 และ ปี 2552 ตามลำดับ ซึ่งจะทำให้มีความมั่นคงของรายได้ระยะยาว คาดว่าผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้จะปรากฏให้เห็นในปี 2549 สาเหตุที่ทำให้บริษัทฯเดินหน้าในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน เนื่องจากเห็นว่าราคาน้ำมันที่สูงขึ้นเป็นปัจจัยกระตุ้นการลงทุนในการผลิตน้ำมันนอกชายฝั่งทะเล เชื่อว่าธุรกิจด้านพลังงานยังคงแข็งแกร่งและจะเติบโตยิ่งขึ้นในอนาคต การรุกธุรกิจนี้ก็เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจน้ำมัน-ก๊าซธรรมชาติ-ปิโตรเคมี ในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้” ม.ล.จันทรจุฑา กล่าว
งานบริการพาณิชย์นาวีนอกชายฝั่งถือเป็นการต่อยอดธุรกิจหลักของ TTA อย่างต่อเนื่องและสอดคล้องกับทิศทางอุตสาหกรรมพลังงานของโลก และเชื่อมั่นว่าสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องให้กับบริษัทฯ เป็นอย่างดี
แม้ว่าที่ผ่านมาผลประกอบการยังถือว่าเป็นไปในทางที่ดี แต่ทางบริษัทฯไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังคงยึดแนวทางปฏิบัติเพื่อบริหารกองเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองให้มีประสิทธิภาพสูงสุด รักษาฐานลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่ให้มีความหลากหลายกระจายอยู่ทุกเส้นทางเดินเรือทั่วโลก รวมถึงความหลากหลายของประเภทสินค้าที่ขนส่ง ได้แก่ ถ่านหิน ปูนซิเมนต์ เหล็กกล้า ปุ๋ย ข้าว และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร
จากงานบริการที่หลากหลายและมีคุณภาพของกลุ่มโทรีเซนไทยฯ มาร่วม 101 ปี จึงทำให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าที่กระจายอยู่ทุกภาคส่วนธุรกิจทั่วโลก กว่า 800 บริษัท จึงเป็นความภาคภูมิใจ ที่โทรีเซนไทย เป็นกองเรือที่ชักธงไทยใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ถึง 48 ลำ
สำหรับผลประกอบการในปี 2548 บริษัทฯมีผลการดำเนินงานจากธุรกิจเรือเดินทะเลดีมาก จากรอบบัญชี 30 กันยายน 2548 มีปริมาณสินค้าขนส่งทางเรือ 13.11 ล้านตัน เพิ่มจากปี 2547 ถึง 69% มีรายได้จากค่าระวางรวม 14,518 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% มีกระแสเงินสดจากกิจการดำเนินงาน 7,022 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% กำไรสุทธิจากธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือ 166 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% และกำไรสุทธิของกลุ่มบริษัท จำนวน 5,948 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37%
เนื่องมาจากตลาดเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองมีอัตราการเติบโตสูงมาก ในปีที่แล้วบริษัทสามารถทำสัญญารับขนส่งสินค้าแบบไม่ประจำเส้นทางชนิดให้เช่าเหมาลำเป็นระยะเวลา Time charter เกือบ 50% ของกำลังบรรทุกสินค้าทั้งหมด 39% ในรอบบัญชีปี 2549 และ 21% ในรอบบัญชีปี 2550 จึงมีรายได้คงที่และกระแสเงินสดจากสัญญาดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้บริษัทฯมีเงินสำรองเพียงพอในการปรับปรุงกองเรือและลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้
บริษัทฯยึดหลักการดำเนินงานเพื่อรักษาจุดแข็งของธุรกิจหลักเพิ่มรายได้ธุรกิจใหม่ ส่งผลให้งบดุลและกระแสเงินสดบริษัทแข็งแกร่งและมั่นคงยิ่งขึ้น สังเกตได้ว่าบริษัทมีสถานะงบดุลที่แข็งแกร่ง ณ วันที่ 30 กันยายน 2548 มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนที่ 0.95 เท่าและตลอด 4 ปีข้างหน้า บริษัทฯมีกำหนดจ่ายหนี้คืนมากกว่าร้อยละ 60 ของยอดหนี้ปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้งบดุลของบริษัทฯมีความแข็งแกร่งมากกว่าเดิม และทำให้มีปริมาณเงินมากขึ้นสำหรับการซื้อเรือใหม่
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
คุณบังอร แก้วบวร โทร 02 663 3226-9 ต่อ 68
มือถือ 01 904 7907--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ