กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
คลังจับมือมหาดไทย เชื่อมข้อมูลตรวจสอบการมีชีวิตผู้รับบำนาญเอง ยกเลิกการแสดงตน ตั้งแต่ 1 ตุลาคมนี้
นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้แถลงข่าวในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการขอใช้ประโยชน์ข้อมูลทะเบียนประวัติราษฎรในวันนี้ ว่า ปัจจุบันมีผู้รับบำนาญทั้งประเทศ จำนวนประมาณ 323,000 ราย จำแนกเป็นผู้รับบำนาญในส่วนกลางจำนวน 94,000 ราย ส่วนภูมิภาคจำนวน 229,000 ราย รวมเป็นเงินบำนาญที่รัฐต้องจ่ายประมาณเดือนละ 5,800 ล้านบาท หรือประมาณปีละ 69,600 ล้านบาท ในการตรวจสอบ การมีชีวิตของผู้รับบำนาญเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการจ่ายเงินบำนาญ ตามพระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน พ.ศ. 2535 ได้บัญญัติให้ผู้รับบำนาญต้องไปแสดงตน เพื่อแสดงว่ายังมีชีวิตอยู่ต่อส่วนราชการผู้เบิกบำนาญด้วยตนเองในเดือนแรกของปีงบประมาณ คือ เดือนตุลาคมของทุกปี หากผู้รับบำนาญรายใดมิได้ไปแสดงตนเพื่อยืนยันว่ายังมีชีวิต ส่วนราชการผู้เบิกบำนาญก็จะไม่เบิกจ่าย เงินบำนาญให้จนกว่าผู้รับบำนาญ จะไปแสดงการมีชีวิตเสียก่อน ซึ่งวิธีการดังกล่าวได้สร้างภาระและสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้รับบำนาญเป็นอย่างยิ่ง เพราะผู้รับบำนาญส่วนใหญ่ จะเป็นผู้สูงอายุ บางรายมีปัญหาทางสุขภาพ ไม่แข็งแรง บางรายต้องเดินทางจากอำเภอที่ห่างไกลเพื่อไปแสดงตนต่อส่วนราชการผู้เบิกบำนาญที่จังหวัด ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายและไม่สะดวกในการเดินทาง อีกทั้งยังอาจเป็นภาระแก่บุตรหลานที่จะต้องดูแลและพาผู้รับบำนาญเดินทางไปแสดงตนอีกด้วย กระทรวงการคลังจึงได้แก้ไขกฎหมายดังกล่าว โดยยกเลิกการตรวจสอบการมีชีวิตของผู้รับบำนาญวิธีเดิมทั้งหมด และกำหนดใหม่ให้ผู้รับบำนาญไม่ต้องเดินทางไปแสดงการมีชีวิตต่อส่วนราชการผู้เบิกบำนาญ โดยให้กรมบัญชีกลางเป็นผู้ตรวจสอบการมีชีวิตของผู้รับบำนาญแทน
นายวราเทพ กล่าวต่อไปว่า การตรวจสอบของกรมบัญชีกลางจะใช้วิธีเชื่อมโยงข้อมูลบุคคล จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะเป็นข้อมูลของประชาชนที่เสียชีวิต
ในแต่ละเดือน ซึ่งประกอบด้วย เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด ชื่อบิดา-มารดา ที่อยู่ วันเดือนปีที่เสียชีวิต เป็นต้น หากข้อมูลที่ได้รับจากกรมการปกครอง ปรากฎข้อมูลว่าประชาชนที่เสียชีวิตรายใดเป็นบุคคลคนเดียวกันกับผู้รับบำนาญในฐานข้อมูลบุคลากรภาครัฐของกรมบัญชีกลาง กรมบัญชีกลางก็จะทราบว่าผู้รับบำนาญรายนั้นได้เสียชีวิตแล้วและจะงดจ่ายบำนาญแก่ผู้รับบำนาญรายนั้น ในกรณีที่กรมบัญชีกลางตรวจสอบรายชื่อผู้เสียชีวิตที่ได้รับจากกรมการปกครองแล้ว ไม่ปรากฎว่ารายชื่อผู้เสียชีวิตเป็นบุคคลคนเดียวกันกับรายชื่อผู้รับบำนาญ กรมบัญชีกลางก็จะดำเนินการจ่ายบำนาญให้ต่อไป
นายวราเทพ กล่าวเพิ่มเติมว่า วิธีตรวจสอบการมีชีวิตของผู้รับบำนาญวิธีใหม่นี้ จะเริ่มใช้ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 คือตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2549 เป็นต้นไป โดยใช้กับผู้รับบำนาญปกติและผู้รับบำนาญพิเศษในปัจจุบัน ผู้รับบำนาญปกติ
ซึ่งจะเกษียณอายุในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ รวมทั้งผู้รับบำนาญปกติและผู้รับบำนาญพิเศษที่จะมีในอนาคตด้วย ซึ่งจะทำให้ผู้รับบำนาญเหล่านี้ ไม่ต้องเดินทางไปแสดงการมีชีวิตต่อส่วนราชการผู้เบิกบำนาญอีกต่อไป