กรุงเทพฯ--4 ธ.ค.--สปส.
เครือข่ายผู้ติดเชื้อ HIV จำนวน 932 กลุ่ม จาก 7ภาคทั่วประเทศ เดินทางมายังสปส.ในวันที่ 29 พ.ย. 49 เพื่อยื่นข้อเรียกร้อง ให้ยกเลิกระบบการร่วมจ่ายค่ายาต้านไวรัสของผู้ประกันตนที่ติดเชื้อ HIV และผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์ในระบบประกันสังคม ให้สามารถเข้ารักษาในระบบประกันสังคมได้โดยไม่ต้องรับผิดชอบค่ายาส่วนเกิน
นายสุรินทร์ จิรวิศิษฎ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า สำหรับการเรียกร้องในกรณีดังกล่าวนี้ สปส.ได้ดำเนินการศึกษาและพิจารณาเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีการจ่ายยาต้านไวรัสเอดส์และได้นำเสนอคณะกรรมการการแพทย์แล้วเมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้ข้อสรุปว่า ผู้ประกันตนที่ติดเชื้อ HIV และผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์ มีสิทธิได้รับยากรณีดื้อยา จากโรงพยาบาลตามบัตรฯ โดยผู้ประกันตนจะไม่ต้องรับผิดชอบจ่ายค่ายาส่วนที่เกินจากวงเงินที่กำหนดไว้จากเดิมคือ 5,000 บาท /ราย/เดือน
ปัจจุบันสปส.ได้ให้ความคุ้มครองผู้ประกันตนที่ติดเชื้อ HIV และผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์ให้ได้รับยาต้านไวรัสเอดส์จำนวนประมาณ 23,000 ราย โดยผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับยาต้านไวรัสเอดส์สูตรพื้นฐานและสูตรแพ้ยา รวมทั้งการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องจากโรงพยาบาลตามบัตรฯ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในจำนวนนี้มีผู้ประกันตนที่อยู่ในข่ายดื้อยากว่า 2,000 ราย ซึ่งจะต้องได้รับยาสูตรอื่นจากโรงพยาบาลตามบัตรฯ โดยสปส.สนับสนุนค่ายาให้ รายละ 5,000 บาท/เดือน ส่วนค่าใช้จ่ายที่เกินผู้ประกันตนจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเอง ในกรณีดังกล่าว คณะกรรมการการแพทย์ได้พิจารณาและ มีมติเห็นชอบในหลักการให้ผู้ประกันตนสามารถไปรับยาที่โรงพยาบาลตามบัตรฯ ได้โดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายส่วนเกินอีกต่อไป
อย่างไรก็ตามข้อสรุปดังกล่าวจะต้องนำเสนอต่อคณะกรรมการประกันสังคมเพื่อให้ความเห็นชอบในสัปดาห์หน้า รวมทั้งจะผลักดันให้ประกาศคณะกรรมการการแพทย์มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.49 เป็นต้นไป
นายสุรินทร์ กล่าวปิดท้ายกับผู้ประกันตนที่มาเรียกร้องยังสปส.ว่า ขอให้ดูแลสุขภาพให้ดีและขอให้มั่นใจได้ว่าจะมีการนำข้อเรียกร้องไปปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยที่ผู้ประกันตนจะได้รับบริการที่ดีที่สุดจากสปส.
ศูนย์สารนิเทศ สายด่วน 1506 www.sso.go.th