กรุงเทพฯ--11 ก.ย.--กบข.
กบข.เผยเตรียมเพิ่มน้ำหนักในอสังหาริมทรัพย์เพื่อกระจายความเสี่ยงการลงทุน ชี้ผลตอบแทนสูงเฉลี่ยประมาณ 8 เปอร์เซ็นต์ แถมยังสามารถขยับตามเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันนอกจาก กบข จะบริหารพอร์ตการลงทุนในส่วนของตราสารหนี้ และตราสารทุนแล้ว กบข. ยังมีความสนใจในการลงทุนประเภทอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย ซึ่งความคืบหน้าล่าสุดมีนโยบายที่จะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็น 8 เปอร์เซ็นต์ จากปัจจุบัน 5 เปอร์เซ็นต์ซึ่งได้ลงทุนไปแล้วประมาณ 4.1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น โดย กบข. จะได้ขยายการลงทุนในสินทรัพย์ใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยประเภทสินทรัพย์ที่สนใจตอนนี้คือ อาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน และอาคารที่พักอาศัยให้เช่า
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา กบข .เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อาคาร 3 แห่ง ได้แก่ อาคารบางกอก ซิตี้ ทาวเวอร์ ถนนสาทร อาคารอับดุลราฮิม ถนนพระราม4 และอพาร์ตเมนต์อีก 1 แห่ง คือ ซัมเมอร์เซท เลคพอยท์ ถนนสุขุมวิท ซึ่งให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 8 เปอร์เซ็นต์ต่อปี และล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา กบข.ได้ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพิ่ม โดยใช้เงินลงทุน 2,998 ล้านบาท ซื้อกรรมสิทธิ์ในที่ดินและอาคาร ดีทแฮล์ม ทาวเวอร์ บนถนนวิทยุ
“ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว นอกจากจะเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนแล้ว ยังเป็นช่องทางการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ ในภาวะที่ดอกเบี้ยมีความผันผวนสูงอีกด้วย” นายวิสิฐกล่าว
ทั้งนี้ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นับเป็นการลงทุนหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่สม่ำเสมอในระยะยาว เนื่องจากก่อให้เกิดรายได้ประจำจากค่าเช่า และอาจเกิดกำไรจากการเพิ่มค่าของทรัพย์สินในระยะยาวด้วย จึงถือได้ว่าเป็นการลงทุนที่มีความมั่นคงสูง ดังนั้น จึงเป็นการกระจายการลงทุนที่ดีและถูกต้อง ตามนโยบายคณะกรรมการลงทุนของ กบข. ที่ให้ความสำคัญกับการจัดประเภทสินทรัพย์การลงทุน
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ยุวพร นนท์ภาษโสภณ
กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ( กบข.)
Government Pension Fund
Tel. 02-636-1000 Ext.263 , 01-612-2322
Fax. 02-636-1649