สหมงคลฟิล์ม ภูมิใจเสนอภาพยนตร์เรื่อง "The Passion อำมหิต พิศวาส"

ข่าวทั่วไป Friday September 29, 2006 11:48 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 ก.ย.--สหมงคล ฟิล์ม
กำหนดเข้าฉาย 19 ตุลาคม 2549
แนวภาพยนตร์ ระทึกขวัญ
บริษัทผู้สร้างและจัดจำหน่าย สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล
ดำเนินงานสร้าง นับหนึ่ง นีโอฟิล์ม
อำนวยการสร้าง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ
ควบคุมงานสร้าง ฉัตริษา ศรีสานติวงศ์
กำกับภาพยนตร์ ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
บทภาพยนตร์ ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
เรื่อง ฉัตริษา ศรีสานติวงศ์
ผู้กำกับภาพ สุทศ เรืองจุ้ย
ออกแบบงานสร้าง สายัญ สมควร, อนุสรณ์ ภิญโญพจนีย์
ออกแบบเครื่องแต่งกาย วิสาข์ คงคา
แต่งหน้า อัญชลี อัญภักดี,ถาวร แก้วสะอาด
ทำผม ทิพวัลย์ อินทร์ภูเมศร์
นำแสดงโดย บงกช คงมาลัย, ตะวัน จารุจินดา, เบญจพล เชยอรุณ, ปรางทอง ชั่งธรรมและศรัณยู วงษ์กระจ่าง
เว็บไซด์ www.thepassion-movie.com
“หลังหนังรอบสุดท้าย ... ความตายเพิ่งจะเริ่มต้น”
...ถ้าคุณเป็นผู้หญิงหรือมีหญิงอันเป็นที่รักของคุณอยู่...
คุณเตรียมตัวหรือยังที่จะรับมือกับภัยอันตรายบางประเภท
ที่เกิดจากอารมณ์ของใครบางคนที่เน่าเฟะ
ภัยบางอย่าง...ที่คุณเคยได้ยินและเห็นจากหลายข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์หรือสื่ออื่นๆ
เหตุการณ์ที่คุณไม่เคยคาดคิดว่าจะมาถึงตัว
หรือไม่มีวันจะเกิดขึ้นกับคนที่คุณรักได้
..ใครล่ะจะรู้...
เพียงแค่...เพราะเป็นผู้หญิง
ส่วนเว้าส่วนโค้ง รอยยิ้มและแววตาอันชวนมองของคุณ จะกลายเป็นสิ่งล่อลวงใจให้ตัณหาราคะที่อยู่ก้นบึ้งของจิตใจให้ตื่นขึ้น
และหิวกระหายเกินมนุษย์ธรรมดา
เรื่องย่อ
สหมงคลฟิล์ม ร่วมกับ นับหนึ่งฟิล์ม สะท้อนภาพของความรุนแรงในสังคมที่เต็มไปด้วยผู้คนที่เห็นแก่ตัวฉกฉวยโอกาสจากคนเดินถนนทั่วไป มาสนอง
ตัณหาอารมณ์ของตัวเอง โดยไม่รู้ว่าตนได้กลายเป็นเหยื่ออันโอชะที่แสนจะง่ายดาย ... ไม่รู้แม้กระทั่งโฉมหน้าหรือร่างกาย ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่งหรือ
ทั้งหมดของตัวเอง จะถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะชนผ่านกล้องวงจรปิด ผ่านแผ่นซีดีเถื่อน ผ่านสื่อต่างๆ ที่ถูกลักลอบบันทึกตอนที่คุณไม่รู้ตัว จากภายใน
แหล่งบันเทิงของคนทุกเพศทุกวัย สถานที่ที่เราอาจคิดว่าปลอดภัยจากการโจรกรรมในรูปแบบอื่นๆ แต่กลับถูกโจรกรรมวิญญาณและความรู้สึกของลูกผู้หญิงไปได้
ง่ายดาย โดยไม่มีวันจะลืมเลือนหรือได้กลับคืนมา
ภาพยนตร์เรื่อง THE PASSION อำมหิต...พิศวาส เป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าถึงมุมโสมมที่มีให้เห็นอยู่ดาษดื่นในสังคม ด้วยมุมมองของผู้กำกับที่ฝากผลงานมา
มากมายในฐานะนักแสดงระดับแนวหน้าของเมืองไทยอย่าง “ศรัณยู วงษ์กระจ่าง” ที่ครั้งนี้มารับหน้าที่เป็นทั้งผู้กำกับทางด้านภาพยนตร์อย่างเต็มตัวและ
หนึ่งนักแสดง ในมาดของ ชัย หัวหน้าฝ่ายอาคารของโรงภาพยนตร์ “มัลติเพล็กซ์ เวิล์ด” สถานที่เพียงแห่งเดียวในเรื่อง ที่เป็นทั้งจุดเริ่มต้นและจุดจบ
ของการไล่ล่าอันแสนสาหัส เพียงคืนเดียวเท่านั้นหลังหนังรอบสุดท้ายของที่นี่จบลง ทุกอย่างจะถูกเปิดเผยและถูกปิดตาย..!!!
แพรว (“ตั๊ก” บงกช คงมาลัย) สาวสวยที่ถูกครอบงำจากความเก็บกดที่มีอยู่ภายในจิตใจ เธอหลงเข้ามาอยู่ในเงื้อมมือของธุรกิจอุบาทว์ที่มีโรง
ภาพยนตร์ “มัลติเพล็กซ์ เวิล์ด” โรงหนังครบวงจรขนาดใหญ่บังหน้า ชัย (“ตั๊ว” ศรัณยู วงษ์กระจ่าง) หัวหน้าฝ่ายอาคารบีบบังคับให้ ขาว (“เติ้ล” ตะวัน
จารุจินดา) พนักงานเดินตั๋วภายในโรงหนัง ติดตั้งกล้องวงจรปิดทั่วทุกมุมเพื่อเก็บภาพอนาจารของบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ตามที่ต่างๆ ของบริเวณโรงหนัง ไม่
ว่าจะเป็นห้องน้ำ ตู้สติกเกอร์ หรือ ห้องลองเสื้อผ้า เพื่ออัดขายให้บรรดาพวกโรคจิตทั้งหลายได้ชื่นชมผ่านสื่อทุกรูปแบบ
คืนนั้นขณะที่แพรวกำลังดูหนังรอบสุดท้ายอยู่ในโรง ชัยก็กำลังมองหาผู้หญิงเป้าหมายบนหน้าจอมอนิเตอร์ที่เชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิดที่ถูก
ติดไว้ทั่วห้าง ชัยสะดุดในความน่าหลงใหลอวบอั๋นของแพรว ความหื่นกระหายและตัณหาจึงพลุกพล่าน.... ในขณะที่หญิงสาวชื่อ น้อย (ปรางทอง ชั่งธรรม)
พนักงานทำความสะอาดบริเวณตัวห้าง กำลังจะวางแผนที่จะปลุกปล้ำขาว ชายที่ตนเองแอบหลงรักอย่างสุดหัวใจโดยไม่สนว่า บุญเกิด (“กอล์ฟ” เบญจพล เชยอรุณ)
ที่เฝ้าบอกรักน้อยทุกวี่ทุกวันจะรู้สึกยังไง
และในคืนอันวิปริตคืนนี้ เมื่อหนังรอบสุดท้ายกำลังจะจบลง ชัยก็เข้าจู่โจมแพรวหวังขืนใจให้สมอยากกลางห้องน้ำ แพรวขัดขืนตามสัญชาตญานจน
สามารถหลุดพ้นจากเงื้อมมือชัยไปได้ด้วยการให้ความช่วยเหลือของน้อย... แล้วการสั่งปิดโรงหนังกลางดึกคืนนั้นเพื่อไล่ล่าแพรวและน้อยหญิงสาวตัวเล็กๆ
เพียงสองคน จากผู้ชายทั้งหมดของหน่วยรปภ.ในโรงหนังจึงเริ่มต้นขึ้น...ทว่าจุดจบของเรื่องนั้นจะเป็นเช่นไร... ใครจะกล้าคาดเดา ! เตรียมลุ้นระทึกกับ
การหนีตายของผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อ กับช่วงเวลาอันเลวร้ายในคืนหฤโหดนี้ได้ 19 ตุลาคมนี้ทุกโรงภาพยนตร์
ด้วยทุนสร้างไม่สูงนัก แต่โดดเด่นด้วยบทนำและลักษณะของฉากการเอาตัวรอดที่ดุเดือดเผ็ดร้อนของตัวละคร ทำให้ อำมหิต...พิศวาส ถูกกล่าวถึง
ว่าเป็นหนังที่รุนแรงทั้งในแง่ของภาพและเนื้อหา “ต้องยอมรับว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ว่าด้วยความรุนแรง ค่อนข้างที่จะเป็นด้านมืดของมวลมนุษย์ใน
สังคมนึง สังคมทุนนิยม สังคมการบริโภคที่ผู้คนแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นแล้วเต็มไปด้วยอบายมุข ต้องยอมรับว่าในสังคมมันมีเรื่องพวกนี้ให้เห็นกันเต็มไป
หมด หนังเรื่องนี้หยิบเอาด้านมืดของสังคมมาเป็นตัวชู มาเป็นตัวเล่าเรื่อง พอผมเริ่มมีแนวความคิดของเรื่อง มีหน้าหนัง มันก็จะเกิดวิธีการเล่า
เรื่อง แล้ววิธีการเล่าเรื่องนี่เองที่เสี่ยเห็นว่า ถ้าเล่าแบบนี้แล้วน่าจะสนุก แบบนี้ขายได้ ก็เลยเกิดไอเดียในการสร้างในการทำหนังแนวนี้ขึ้นมา
ที่มองว่าภาพหนังเรื่องนี้มันรุนแรงก็เพราะสถานการณ์ของเรื่อง เป็นเรื่องของโจทย์การทำหนัง
ด้วยความที่มันเป็นหนังล่อแหลมมันเป็นเรื่องของผู้หญิงผู้ชาย สัดส่วนของความเป็นภาพมันต้องพิถีพิถัน เราไม่ได้อยากจับผู้หญิงมาแก้ผ้า
ถ่ายหนัง เราอยากให้ความเซ็กซี่ที่มันเกิดขึ้นเกิดมาจากธรรมชาติของตัวละคร เช่นฉากแอ๊คชั่นที่มันเกิดขึ้นมันเกิดจากความรุนแรงข้างใน ซึ่งเรา
ตั้งใจทำหนังให้เป็นเรียลลิสติก เวลาวิ่งกระโดด ต่อยเตะชก ให้มันดูจริงๆ ไม่ใช่กระโปรงเปิดก็มานั่งปิด สถานการณ์ตอนนั้นความเป็นจริงใครจะมาสนใจ
เราไม่ได้ขายคิวบู๊ไม่ใช่เมีคิวบู๊สวยงาม ไม่ใช่ราชินีบู๊กับราชานักบู๊มาเจอกัน เราขายสันดานดิบของตัวละครในการเอาตัวรอดมากกว่า ทุกอย่างเลยอยู่
บนพื้นฐานความเป็นจริงในทางแยกของชีวิตถ้าเราเลือกระหว่างเดินไปให้รถชนหรือจะเลี้ยวไปนั่งริมน้ำหงอยๆ ทอดอาลัยสองอย่างนี้มันความเศร้าเหมือนกัน
ก็ถ้าเลือกให้รถชนมันคือความรุนแรงก็จะได้เห็นเป็นหนังแอ๊คชั่น ถ้าเราเลือกไปนั่งซึมๆ ก็เป็นหนังดรามาติกเศร้าๆ พอเรื่องนี้อิงความเป็นจริงของ
ชีวิตโดยอิงความรุนแรง การตัดสินใจของตัวละครก็จะตัดสินใจเพื่อนำไปสู่สภาวะรุนแรงในเชิงแอ๊คชั่นนั่นคือสิ่งที่เราตั้งไว้เป็นหลัก หนังมันก็จะเดิน
ตามเส้นนี้ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมหนังเรื่องนี้ต้องเป็นแบบนี้แนวนี้”
เปลืองตัว รุนแรง และเหนื่อยที่สุดในชีวิตการแสดงของ “ตั๊ก บงกช คงมาลัย”
ตั๊ก บงกช คงมาลัย เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนกระจกสะท้อนอีกมุมนึงของ “เพศผู้ถูกกระทำ” เพศที่เสียงร้องของเธอเบาเกิน
กว่าที่จะสามารถเรียกร้องอะไรกลับคืนมาได้ และไม่มีใครได้ยินพอที่เธอจะได้รับความช่วยเหลือ บทบาทของแพรวหญิงสาวที่สับสนและเก็บกดที่ต้องมาตกอยู่
ภายใต้ความกดดันในโรงหนังที่ทั้งมืด ดึก เปลี่ยว และแวดล้อมไปด้วยคนโฉดชั่ว ทำให้ตั๊กบงกชต้องยอมรับว่าบทของแพรวคือบทที่หนักที่สุด เหนื่อย และ
ยากที่สุดที่เธอเคยสวมบทบาททางด้านภาพยนตร์มา เพราะ แพรว คือผู้หญิงที่จะนำผู้ชมไปพบกับจุดต่ำสุดของจิตใจมนุษย์ แพรวจะทำให้เหตุการณ์บางส่วนที่
ไม่เคยถูกเปิดเผยกลายเป็นภาพที่ชัดเจนก่อนที่คนดูจะเดาจากภาพสุดท้ายของเหยื่อที่ถูกตีพิมพ์บนหน้าหนังสือพิมพ์
บททั้งหมดที่เธอเคยเล่นไม่ว่าจะเป็นหญิงบ้าแสนสวยในเรื่องไอ้ฟัก ที่ทำเอาทั้งวงการฮือฮาหรือบทของ “กุหลาบ” นักฆ่าสุดเซ็กซี่ใน “ไฉไล”
แต่ตั๊กบงกช เธอไม่ได้มีแต่ความเซ็กซี่เพียงอย่างเดียว ฝีมือในด้านการแสดงไม่ได้น้อยหน้าความสวยของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว
“ตั๊กเคยเล่นบทหนักๆ มาแล้วหลายเรื่องนะคะ ตั้งแต่ตั๊กอ่านบทเรื่องนี้ตั๊กก็รู้ทันทีเลยว่าถ้าตั๊กเล่นเรื่องนี้ตั๊กต้องเหนื่อยมากแน่ๆ
แต่ถ้าไม่เล่นตั๊กคงเสียดายมาก เพราะพอมาเล่นจริงๆ แล้วมันที่สุดของการแสดงที่ตั๊กเคยผ่านมาเลย มันเหนื่อย เจ็บ และสนุกมาก ตั๊กยอมอดหลับอดนอนทุก
คืนเพื่อมาเล่นหนังเรื่องนี้ เราต้องตระเวนไปตามโรงหนังตอนดึกๆ ทุกคืนเพราะในเรื่องมันเป็นเหตุการณ์คืนเดียวจบ ตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้ายของการ
ถ่ายทำ ตั๊กบอกได้เลยว่าไม่มีวันไหนที่ไม่เหนื่อย ไม่มีฉากไหนที่ง่าย ตั๊กว่าหนังเรื่องนี้ไม่เหมือนหนังเรื่องอื่นที่ตั๊กเคยเล่น ถ้าคนคิดว่าตั๊ก
มาเล่นหนังแนวแบบนี้อีกแล้ว ตั๊กก็บอกได้เลยว่าไม่เหมือนแน่นอน ถึงมันจะมีโป๊แบบวับๆ แวบๆ บ้าง แต่ที่มันต้องเป็นอย่างงั้นเพราะบทมันทำให้เป็น
ไม่ใช่อยู่ๆ จะมาฉีกเสื้อผ้า หรือมาใส่ชุดโป๊ๆ ยั่วยวน ตั๊กเป็นตัวแทนผู้หญิงธรรมดาทั่วไปที่อยู่ในสังคม ในเรื่องตั๊กไม่ได้แต่งตัวโป๊เลย ไม่ได้
มีคาแรกเตอร์ที่เซ็กซี่ สวยอะไรเลย แต่ตั๊กถูกทำร้ายเพราะความเสี่ยงของตัวเราเอง ไปดูหนังกลางคืน ไปอยู่ในที่เปลี่ยวๆ ไปเจอกับคนที่มันคิดไม่ดี
อยู่แล้ว เหตุการณ์มันทำให้เราต้องหนีตายต้องเอาตัวรอด มันมีเหตุผลว่าทำไมตั๊กต้องเล่นแบบนั้น
อีกอย่างที่ตั๊กบอกว่าหนังเรื่องนี้มันยากมากมันที่สุดแล้วเพราะมันเป็นเรื่องของการคงอารมณ์ของคนดูเอาไว้ให้ได้ บางคืนเราถ่ายฉากที่1
คืนต่อมาเราถ่ายอีกคัทนึงของฉากที่1 เราก็ต้องมาเปิดเทปดูกันใหม่ว่าแววตา อารมณ์เมื่อวานเราเป็นแบบไหน มันก็เลยทำให้ยากแล้วก็เหนื่อยด้วย เพราะ
บางทีเราต้องจดจำอารมณ์ จำบท จำท่าทางทุกอย่างพร้อมๆ กัน สมาธิต้องดีค่ะ เลยทำให้การถ่ายทำเรื่องนี้ยากมาก ”
นักแสดงหญิงระดับแถวหน้าของประเทศเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่พร้อมกับบทบาทที่ “เปลืองตัว” รับมือกับการไล่ล่าของรปภ.ที่มีทั้งหมดของโรงหนัง ตั๊ก
เป็นนักแสดงในอันดับต้นๆ ที่ถูกเอ่ยชื่อขึ้น ด้วยความสามารถจากผลงานที่ผ่านมาของตั๊ก แต่อะไรที่ทำให้ผู้กำกับอย่างศรัณยู วงษ์กระจ่าง มองเห็นแวว
และฝีมือด้านการแสดงที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวตั๊ก
“ผมต้องยอมรับก่อนเลยว่า ตอนที่บทเรื่องนี้เสร็จสมบูรณ์ เราเริ่มหนักใจว่าจะมีนักแสดงคนไหนกล้ามาเล่นบทที่มัน “เปลืองตัวขนาดนี้” ที่
ว่าเปลืองตัวเพราะผู้หญิงคนที่จะมารับบท แพรว ต้องพร้อมทุกอย่าง เพราะเนื้อหาของเรื่องนี้มันว่าด้วยด้านมืดของจิตใจมนุษย์ มันจะมีการฉุดกระชาก
วิ่งหนี เฉียดตาย ถูกปล้ำ เกือบถูกข่มขืน ถูกตบ ถูกจับกลิ้ง ผู้ชายกระโดดคร่อมทับ เพราะฉะนั้นการเคลื่อนไหวการเอาตัวรอด การระมัดระวังกิริยา
มารยาทก็จะไม่มี ใส่กระโปรงวิ่งมันก็ต้องมีเปิดมันต้องเห็นขาโคนขา มีเสื้อขาดเห็นผิวเนื้อ เห็นอะไรเหล่านี้ จะเห็นว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่
ผู้หญิงต้องทำงานเยอะมาก นี่เป็นโจทย์ข้อแรกที่ผู้หญิงที่จะมารับบทนี้ต้องเล่นได้ ทุ่มเทได้โดยไม่อายเพราะมันต้องเปลืองตัว ถ้าเราได้ผู้หญิงที่
สวย มีมุมสวยๆ ดูแล้วออกมาน่ารัก เรายังไม่อยากได้เป็นเป้าหมายแรก อันนั้นเป็นเป้าหมายรอง
เอ่ยชื่อนักแสดงหญิงที่สามารถเล่นได้ทุ่มเทขนาดนี้ ในสิบชื่อจะต้องมีตั๊กอยู่ด้วยแน่ๆ แต่ด้วยบทมันเป็นแบบนี้ก็ต้องมีการปรึกษาหารือกับ
ทางผู้ใหญ่กันก่อนว่าเห็นชอบด้วยหรือไม่ ช่วงที่หาคนเล่นหลายๆ คนก็ห่วงภาพพจน์ อันนี้เป็นเรื่องไม่ผิดเพราะหนังมันไม่ใช่เล่นกันง่ายๆ ถ้ามี
ประสบการณ์ด้วยน่าจะทำงานกันง่ายกว่า พอเสี่ยเปิดไฟเขียวให้คุยกับตั๊ก ก็เล่าให้เค้าฟังเค้าก็ยิ้มเลย แล้วก็บอกอย่างมั่นใจว่าตั๊กทำเต็มที่ พอมา
ทำงานจริงๆ เราพบว่าตั๊กมีความเป็นนักแสดงสูงมาก เค้ารู้ว่าเค้าต้องทำอะไรเมื่อไหร่ เค้าทำการบ้านมา มาถึงกองสภาพเค้าคือพร้อมมาก บางฉากมันรุนแรง
เหนื่อยมากเค้าก็พร้อมและเต็มที่กับมัน
อีกบทหนึ่งที่เปลืองตัวและเหนื่อยไม่น้อยไปกว่ากันเลยคือบทของปรางที่มารับบทเป็นน้อย ผู้หญิงที่จะเป็นคนช่วยเหลือและหนีการไล่ล่าจาก
กลุ่มคนเลวไปพร้อมๆ กันกับตั๊ก ตอนที่คัดนักแสดงมารับบทของแพรว เราก็มองหาคนที่จะมารับบทน้อยไปด้วย แล้วปรางก็จัดอยู่อันดับต้นๆ ที่อยู่ในรายชื่อ
ของเราเหมือนกัน แล้วปรางก็สามารถสวมบทบาทของน้อยได้เกินร้อยจริงๆ ทั้งตั๊กและปรางทำให้พวกเราทีมงานทั้งหมดค้นพบว่า นักแสดงบ้านเรามันเยอะจนยาก
ที่จะรู้จักว่าใครเป็นยังไง สองคนนี้ทำให้เรารู้ว่า การที่เราไม่รู้จักเค้าไม่ใช่เพราะว่าเค้าไม่มีความสามารถ พวกเค้ามีวิญญาณของความเป็นนักแสดง
ที่ทุ่มเทให้เต็มร้อยจริงๆ เชี่อว่าหลายคนที่มีภาพลักษณ์กับตั๊กและปรางยังไง จะได้เห็นเค้าสองคนอีกมิติหนึ่ง ของชีวิตการเป็นนักแสดงของเค้า”
คาแรคเตอร์
บงกช คงมาลัย รับบทเป็น แพรว
แพรว เป็นผู้หญิงออฟฟิศที่มีอาการสับสนทางจิต สับสนในความนึกคิดของตัวเอง เหมือนพวกเก็บกด เพราะในวัยเด็กแพรวเจอะเจอกับเรื่องเลวร้ายมา
โดยตลอด เลยทำให้เค้ากลายเป็นคนที่ระแวง ไม่ไว้ใจใคร ระแวงกับสิ่งรอบตัวทุกอย่าง กระทั่งวันข้างหน้าของตัวเอง
“บทของตั๊กในเรื่องนี้ หนักมากค่ะ ตั้งแต่ตั๊กเล่นหนังมาเรื่องนี้ถือว่าหนักและเหนื่อยที่สุดในชีวิตแล้ว ก่อนหน้านี้ตั๊กเคยรับบทหนัก
เป็นคนบ้าอย่างในเรื่องไอ้ฟักมาแล้ว แต่นั่นคือบ้าแบบไม่รับรู้แล้วว่าโลกของความจริงคืออะไร แต่เรื่องนี้ตั๊กต้องเล่นเป็นคนที่อยู่ร่วมกับคนใน
สังคมได้ แต่อยู่ร่วมกับตัวเองไม่ได้ มันสับสน ขัดแย้งในจิตใจตลอดเวลา กึ่งบ้า กึ่งผิดปรกติ
ก่อนที่ตั๊กจะมารับบทนี้ตั๊กอ่านบทที่พี่ตั๊วให้มาแล้วชอบมาก เป็นบทที่มีเรื่องราวที่น่าติดตามอ่านแล้วต้องอ่านให้จบ วันนั้นตั๊กจำได้
ว่าตั๊กติดถ่ายหนังไม่ได้นอนมาทั้งวัน แต่ก็ต้องเอาเวลาว่างมานั่งอ่าน เพราะเราอยากรู้ว่าตอนจบจะเป็นยังไง มันวางไม่ลงเลยค่ะ พออ่านจบตั๊กก็
ตัดสินใจเล่นเลย ทั้งๆ ที่รู้ว่าถ้าตั๊กเล่นเรื่องนี้ตั๊กต้องเหนื่อยมากแน่ๆ แล้วก็เป็นอย่างที่ตั๊กคิดไว้ เล่นเรื่องนี้ตั๊กเล่นเกินร้อย เต็มที่
เลย เหนื่อย ทรมานสุดๆ ตั้งแต่ตั๊กเคยเล่นหนังมาเลยค่ะ”
ประวัติ : “ตั๊ก” บงกช คงมาลัย เกิดปี 2528 นักแสดงหญิงมากฝีมือแจ้งเกิดด้วยวัยเพียง 15 ปีจากบทบาทนางเอกหนังย้อนยุคเรื่อง “บางระจัน”
ตั๊กกลายเป็นนักแสดงหญิงที่น่าจับตามองตั้งแต่นั้นมา จนกระทั่งมารับบทหนังย้อนยุคอีกเรื่องในเรื่อง “ขุนแผน” ด้วยทรวดทรงองค์เอว และบทที่หวือหวา
ที่เธอได้รับ และความสามารถในการแสดงที่มีอยู่เต็มเปี่ยม จึงทำให้ตั๊กเป็นที่รู้จักได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่ตั๊กก็ย้ำให้เราได้รู้ว่าความสามารถของ
เธอไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านี้ หลังจากที่ตั๊กพลิกบทบาทในภาพยนตร์ที่ถูกกล่าวถึงมากอีกเรื่องนึงอย่าง “ไอ้ฟัก” ตั๊กกลายเป็นนักแสดงที่ได้รับ
การันตีว่ามีฝีมือมากไม่แพ้หน้าตาที่เฉี่ยวคมเต็มไปด้วเสน่ห์ของเธอ และต่อจากนี้บทของแพรวในภาพยนตร์เรื่อง THE PASSION “อำมหิต...พิศวาส” จะ
เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ถึงความสามารถของเธอในฐานะนักแสดงได้อย่างเต็มตัวอีกครั้ง
ผลงานภาพยนตร์ : บางระจัน (2544), ขุนแผน (2545), ไอ้ฟัก (2547), เอ็กซ์แมน แฟนพันธุ์เอ็กซ์ (2547), ซุ้มมือปืน (2548), คนเห็นผี 10
(2548), ต้มยำกุ้ง (2548), ไฉไล (2549), เดอะแพชชั่น อำมหิต..พิศวาส (2549)
ปรางทอง ชั่งธรรม รับบทเป็น น้อย
น้อย พนักงานทำความสะอาดประจำมัลติเพล็กซ์ เวิล์ด หลงรักขาวสุดหัวใจ แต่ด้วยชะตากรรมบางอย่างในอดีต ทำให้ชีวิตรักของเธอไม่มีวันสมหวัง
น้อยเป็นคนที่เกลียดสังคมอันเน่าเฟะของโรงหนังแห่งนี้ แต่ที่ยอมทำงานที่นี่เพราะขาว และความอยู่รอด น้อยเป็นคนแกร่ง ไม่ค่อยกลัวใคร เป็นคนมีความ
มั่นใจ กล้าคิดกล้าทำทุกอย่าง จนบางทีดูเหมือนน้อยจะกลายเป็นผู้หญิงที่เกลียดชังสังคมบ้างบางครั้ง จนวันนึงน้อยคิดได้ว่าการที่จะหลุดพ้นจากสังคม
อันอุบาทว์ที่โรงหนังแห่งนี้ได้ ก็คือการเอาความจริงของที่นี่ ออกไปป่าวประกาศให้สาธารณชนได้รับรู้
“ก่อนที่ปรางจะมาเล่นเรื่องนี้ ปรางรู้ถึงความรู้สึกกดดันทันทีเลยหลังจากที่ได้อ่านบทแล้ว เรารู้สึกว่าเราจะเข้าใจตัวน้อยได้ขนาดไหน
ปรางก็คอยถามพี่ตั๊วตลอดเวลา ทำการบ้านกับบทเยอะมาก และนักแสดงแต่ละคนก็มีฝีมือกันหมด บทแต่ละคนแรงหมดเลย ปรางจะมาเล่นเหมือนไม่มีอะไรอยู่คนเดียว
ไม่ได้ เล่นเรื่องนี้ปรางเลยเต็มที่ มีเท่าไหร่ก็ให้ไปทั้งหมด ในเรื่องปรางกับตั๊กจะหนีตายด้วยกัน หนีด้วยกันสู้ด้วยกันแบบยิบตา เหนื่อยก็เหนื่อย
ด้วยกันทั้งคู่ แต่สนุกมาก โหดแต่สะใจพอเราได้เล่นเต็มที่กับบทนั้นแล้วมันเหมือนได้ปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สำหรับปราง ปรางรู้สึกว่าน้อยเป็นคนที่
น่าสงสาร ถึงเค้าจะเป็นคนแกร่ง สู้ทุกอย่าง แต่ด้วยสิ่งที่เค้าเจอมันโหดร้าย ปรางดูแล้วไม่อยากให้ใครต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เลยค่ะ”
ประวัติ : “ปราง” ปรางทอง ชั่งธรรม อายุ 23 ปี จบด้านออกแบบตกแต่งภายใน จากพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ความสามารถพิเศษ วาดภาพ ถ่ายภาพ ตี
แบด บาสเก๊ตบอล ปรางก้าวเข้าสู่การเป็นนักแสดงจากบทบาทของเสือสาวในเรื่อง “สาบเสือ” และเริ่มได้รับความสนใจจนกระทั้งมารับบทผีในภาพยนตร์เรื่อง
“เฮี้ยน” ที่ทำรายได้ไปกว่า 70 ล้านบาท แต่ปรางยังไม่หยุดฝีมือในการแสดงของเธอไว้เพียงเท่านี้ ประสบการณ์ในการแสดงที่สะสมมาทำให้เธอได้แจ้งเกิดใน
ภาพยนตร์เรื่อง “อาถรรพ์แก้บนผี” ได้อย่างเต็มตัว
ผลงานที่ผ่านมา : สาบเสือ, เฮี้ยน, อาถรรพ์แก้บนผี, ครูแก, THE PASSION อำมหิต...พิศวาส
ศรัณยู วงษ์กระจ่าง รับบทเป็น ชัย
ชัย หัวหน้าหน่วยฝ่ายอาคารโรงภาพยนตร์ มัลติเพล็กซ์ เวิล์ด มนุษย์ผู้วนเวียนอยู่ในวัฎจักรของความเลวร้ายทุกรูปแบบ จึงไม่มีอะไรซับซ้อน
หรือบดบังความซาดิสต์ โรคจิตของมันได้ ชัยสามารถใช้อำนาจขู่เข็ญและข่มเหงใครก็ได้ตามอย่างที่ใจมันต้องการ และการที่มันได้เสพร่างของหญิงสาว ด้วย
ความยินยอมหรือไม่ก็ตามจากอีกฝ่าย มันก็ทำไปด้วยความสะใจส่วนตัวสนุกไปวันๆ แค่นั้นเอง
“ ชัยเป็นตัวแทนด้านมืดของความเลวร้ายทั้งปวง เป็นตัวละครที่สร้างขึ้นมาจากอีกด้านที่อยู่สุดขั้วเลย อะไรที่คนพึงจะเลวได้ ชัยเลวได้
ยิ่งกว่า ทำทุกอย่างที่ผิดกฎหมายผิดความเป็นมนุษย์ผู้ชาย เราสร้างตัวละครตัวนี้ขึ้นมาให้เป็นผู้กระทำผู้หญิงเอารัดเอาเปรียบผู้หญิงทุกด้าน แต่
อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง ชัยเลวครบทุกด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องยา เรื่องซาดิส เรื่องที่กระทำผู้หญิง มันจะอยู่ในตัวละครตัวนี้ทั้งหมด
จริงๆ บทนี้มีคนอยากเล่นหลายคนตอนที่เราเริ่มค้นหานักแสดงมารับบทของชัย แต่ด้วยความที่ตัวละครตัวนี้เป็นตัวที่เข้าใจยาก ต้องเป็นคนที่
เข้าใจตัวนี้จริงๆ วันนึงก็ไปปรึกษาเสี่ย (“เสี่ยเจียง” สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ) ว่าจะเอาใครเล่นบทนี้ดี เสี่ยเลยบอกมาว่าให้ผมเล่นเองเลยละกัน
เพราะเป็นคนที่เข้าใจถึงตัวนี้ดีที่สุดแล้ว ผมก็เลยกลับมาตกลงกับทางทีมงานว่าเราจะทำงานกันได้ไหม จะทำกันยังไงดี ถ้าทีมงานบอกว่าไม่เหมาะไม่น่า
ให้ผมเล่น เล่นแล้วจะทำให้การทำงานยากขึ้น ผมก็จะไม่เล่น แต่ทางทีมงานก็โอเคเราทำงานกันได้ช่วยกันหาทางออกในการทำงาน ผมก็เลยตกลงมารับบทนี้”
ประวัติ : “ตั๊ว” ศรัณยู วงษ์กระจ่าง นักแสดง พิธีกร ผู้กำกับละคร ผู้กำกับภาพยนตร์ ที่แสดงผลงานให้คนไทยได้รู้จักมามากกว่า30ปี จาก
นักแสดงมากฝีมือก้าวเข้ามาสู่หน้าที่กำกับจากการเป็นผู้กำกับละครทางทีวีเรื่อง “เทพนิยายนายเสนาะ” (2541), ละครพีเรียดเรื่อง “น้ำพุ” (2544),
ละครสั้นสองตอนจบเรื่อง “ลูกบ้าเที่ยวล่าสุด” (2545), ละครเรื่อง “สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย”(2546), ละครเรื่อง “หลังคาแดง” (2546) และการกำกับ
ภาพยนตร์เรื่องแรก “THE PASSION อำมหิต..พิศวาส”
ตะวัน จารุจินดา รับบทเป็น ขาว
ขาว พนักงานเดินตั๋วภายในโรงหนังมัลติเพล็กซ์ เวิล์ด เป็นคนที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ขาวถูกชัยข่มขู่ให้เป็นคนติดตั้งกล้องวงจรปิดตามที่
ต่างๆ ในโรงหนัง...ด้วยเงื่อนไขการติดยาของขาว เขาต้องมาพัวพันกับเรื่องราวในค่ำคืนนี้เพราะภารกิจบางอย่าง และเพราะน้อยที่เข้ามาขัดขวาง
“ผมเคยร่วมงานกับพี่ตั๊วมาหลายเรื่องแล้ว ผมกับพี่ตั๊วเราเริ่มรู้ทางกัน พี่ตั๊วรู้ว่าแนวทางการแสดงของผมเป็นแบบไหน เค้าจับจุดผมมาใช้
ได้ พี่ตั๊วเป็นทั้งพี่ทั้งอาจารย์ในเรื่องการแสดงและมุมมองการกำกับของผม เรียกว่าเรารู้ใจกันก็ได้การทำงานเลยไม่มีอะไรที่หนักใจเลย
บทของขาวเป็นอะไรที่ไม่ซับซ้อนมากนัก เป็นผู้ชายธรรมดาคนนึงที่ช่วงหนึ่งของชีวิตไปอยู่ในจุดหักเห อะไรๆ ที่เค้าคิดไว้ที่เค้าอยากทำต้อง
ยุติลง แล้วเค้าถูกชัยบีบบังคับให้ติดยา เพื่อเอาไว้ใช้งานภายใต้คำสั่งของมัน บทติดยาผมเคยเล่นมาแล้วตอนเล่นเป็นน้ำพุละครที่พี่ตั๊วกำกับ ก็เลย
ไม่มีอะไรยาก”
ประวัติ : “เติ้ล” ตะวัน จารุจินดา ลูกชายคนที่สองของแม่ดาว ดวงดาว จารุจินดา
เติ้ลเป็นทั้งนักแสดง พิธีกร นักร้องขวัญใจวัยรุ่น เข้าสู่วงการครั้งแรกจากการเป็นนักร้องภายใต้ชื่อวง BKK ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็น
อย่างดีจากแฟนเพลง จากนั้นเติ้ลก็เริ่มพัฒนาตัวเองเข้าสู่วงการด้วยการหันมาเล่นละครทางทีวี เป็นพิธีกรรายการ เป็นนักแสดงนำในภาพยนตร์ นามสกุล จา
รุจินดาไม่ได้เป็นแค่ใบเบิกทางให้กับเติ้ลเท่านั้น และเป็นทั้งเครื่องหมายที่การันตีฝีมือทางด้านการแสดงที่เรียกว่า “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น” เลย
ทีเดียว
ผลงานที่ผ่านมา : นักร้องวง bkk, ละครทีวีเรื่อง น้ำพุ, ลูกบ้าเที่ยวล่าสุด, สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย, พิธีกรรายการดาดฟ้าท้าประลอง,
จั๊มคัท
เบญจพล เชยอรุณ รับบทเป็น บุญเกิด
บุญเกิด พนักงานฝ่ายอาคาร หนึ่งในลูกน้องชัยที่แอบหลงรักน้อยพนักงานทำความสะอาด ชีวิตของบุญเกิดดำรงอยู่ด้วยความจงรักภักดีต่อผู้เป็น
นาย และเพื่อถวายหัวใจให้หญิงชื่อน้อยเพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่ได้เป็นคนที่เลวร้ายอะไรจากก้นลึกของนิสัย แค่เป็นคนที่ยอมทำทุกอย่าง จงรักภักดี
ต่อผู้เป็นนายเท่านั้น
“ เคยคุยกับพี่ตั๊วไว้หลายทีแล้ว ว่าอยากให้พี่ตั๊วทำหนัง พี่ตั๊วเป็นคนเก่งหลายๆ ด้าน ภาพสวย บทดี แล้วก็เคยบอกว่าอยากทำงานร่วมกันกับ
พี่ตั๊ว ให้เล่นเป็นอะไรก็เล่น ส่วนคาแรกเตอร์ของบุญเกิดก็ยากเหมือนกันบางฉาก ถ้าฉากที่ไม่ซีเรียสบางทีก็เป็นเหมือนตัวเรา พี่ตั๊วบอกว่าให้เล่น
เป็นธรรมชาติ เล่นเป็นตัวเราเลยก็ได้ แต่บางฉากผมก็ต้องไปปรึกษาพี่ตั๊วเค้าว่ามันอารมณ์ประมาณไหนถึงจะดี ด้วยตัวของบุญเกิดไม่มีอะไรซับซ้อนมาก
เป็นผู้ชายธรรมดาที่มีความจงรักภักดี กับผู้เป็นนายกับสาวอันเป็นที่รักเท่านั้น ด้วยบทแล้วพี่ตั๊วบอกว่าบุญเกิดมันเหมือนเป็นสิ่งเดียวในเรื่องที่
พอจะมีสีสัน มีด้านสว่างที่อยู่ในมุมมืดบ้าง”
ประวัติ : กอล์ฟ เบญจพล เชยอรุณ เข้าสู่วงการด้วยการเป็นนักแสดงในหนังโฆษณา แล้วก็หันมาสู่วงการละครเรื่องแรกใน “หมาดำ” ของกันตนา จาก
นั้นก็มีผลงานละคร นอกจากนี้เคยเป็นนักร้อง และพิธีกรในรายการ small talk, รายการขอบอก,เจ้าของค่ายเพลงอินดี้ตาล้าลา จำกัด,นักร้องในโปรเจ็กพิเศษ
ภายใต้บริษัทตาล้าลาในอัลบั๊ม be my guest ที่กำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ