กรุงเทพฯ--2 พ.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) หุ้นกู้มีประกันของบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ SSI มาที่ระดับ BBB-(tha) (BBBลบ(tha)) จากอันดับ BBB(tha) พร้อมทั้งได้นำอันดับเครดิตของ SSI ออกจากเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ (Rating Watch Negative) ในขณะเดียวกัน ฟิทช์ประกาศเพิกถอนอันดับเครดิตหุ้นกู้มีประกันของ SSI เนื่องจากได้รับการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่เพียงพอต่อการจัดอันดับเครดิตให้แก่บริษัทดังกล่าวต่อไปในอนาคต
การปรับลดอันดับเครดิตของ SSI เป็นผลมาจากการที่ SSI มีสถานะทางการเงินที่อ่อนแอลงอย่างมาก ณ สิ้นปี 2548 ซึ่งเป็นผลมาจากผลกำไรที่ตํ่ากว่าที่คาดการณ์ไว้และความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียนที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งส่งผลให้บริษัทมีความยืดหยุ่นทางการเงินที่ลดลง โดยการปรับลดอันดับเครดิตดังกล่าวยังมิได้คำนึงถึงความเป็นไปได้ที่ SSI จะเข้าร่วมลงทุนในโครงการโรงถลุงเหล็กของบริษัทแม่ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่ออันดับเครดิตของ SSI
ในปี 2548 SSI มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ลดลง 57% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ระดับ 2.8 พันล้านบาท อันเป็นผลมาจากการลดลงของปริมาณการขายเหล็กแผ่นรีดร้อนและการลดลงของส่วนต่างของราคาเหล็กแผ่นรีดร้อนและวัตถุดิบเหล็กแท่งแบน การเพิ่มขึ้นของวัตถุดิบคงคลังเพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตช่วงต้นปี 2548 และการลดลงของปริมาณการขายของเหล็กแผ่นรีดร้อนอันมีผลกระทบจากราคาเหล็กในตลาดโลกที่ลดลงอย่างมากในช่วงครึ่งหลังของปี 2548 มีผลทำให้ระยะเวลาการหมุนเวียนของสินค้าคงคลังของ SSI เพิ่มขึ้นอย่างมาก ณ สิ้นปี 2548 ซึ่งจากการที่ SSI ใช้แหล่งเงินกู้ระยะสั้นโดยส่วนใหญ่เพื่อรองรับความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียนที่สูงขึ้น ทำให้ระดับหนี้สินสุทธิของ SSI เพิ่มขึ้นอย่างมากมาอยู่ที่ระดับ 30.4 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 2548 จากระดับ 11.7 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 2547 อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA (Net Debt/EBITDA)ของ SSI ณ สิ้นปี 2548 ได้ลดความแข็งแกร่งลงอย่างมากมาอยู่ที่ระดับ 11.0 เท่า จากระดับ 1.8 เท่า ณ สิ้นปี 2547 อย่างไรก็ตาม สภาพคล่องทางการเงินบางส่วนของ SSI ยังคงได้รับการสนับสนุนจากเงินสดในมือที่ระดับ 234 ล้านบาทและวงเงินสินเชื่อระยะสั้นเพื่อการค้าที่สามารถเบิกจ่ายได้จากธนาคาร (Undrawn Committed Trade Finance Facilities) ที่เหลืออยู่ประมาณ 5.9 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 2548
อันดับเครดิตของ SSI ยังสะท้อนถึงความเสี่ยงที่เกิดจากลักษณะความผันผวนที่สูงของอุตสาหกรรมเหล็กโลก นอกจากนี้ SSI ยังมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดจากการนำเข้าวัตถุดิบเหล็กแท่งแบนทั้งหมด ถึงแม้ว่าความเสี่ยงดังกล่าวจะถูกลดทอนลงจากรายได้บางส่วนที่เป็นเงินเหรียญสหรัฐ และการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า
SSI เป็นผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนรายแรกและรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย โดยเหล็กแผ่นรีดร้อนนี้ใช้เป็นวัตถุดิบหลักในอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เหล็กแผ่นรีดเย็น การก่อสร้าง ถังแก๊สและท่อเหล็กเป็นต้น กำลังการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนของ SSI เพิ่มขึ้นเป็น 4.0 ล้านตันต่อปีในปี 2548 จากระดับ 2.4 ล้านตันต่อปีในปี 2547 SSI มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ เครือสหวิริยา ซึ่งปัจจุบันถือหุ้นอยู่ในสัดส่วนประมาณ 47%
ติดต่อ: วสันต์ ผลเจริญ, อรวรรณ การุณกรสกุล, Vincent Milton, + 662 655 4755
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตระดับเพื่อการลงทุน หรือมีอันดับเครดิตอยู่ในระดับต่ำแม้จะอยู่ในระดับเพื่อการลงทุน อันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศจะอยู่ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นถูกออกแบบมาเพื่อนักลงทุนภายในประเทศในแต่ละประเทศนั้นๆ และมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับแต่ละประเทศ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นไม่สามารถนำไปใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฏข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) ไม่ได้ให้ความร่วมมือในกระบวนการจัดอันดับเครดิตนอกเหนือไปจากการให้ข้อมูลที่เป็นที่เปิดเผยโดยทั่วไป