กรุงเทพฯ--3 พ.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ปรับแนวโน้มเครดิตของบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH เป็นลบจากเดิมที่ระดับมีเสถียรภาพ ในขณะเดียวกัน ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ของ LH ระยะยาวที่ระดับ ‘A- (tha)’ (A ลบ (tha)) และระยะสั้นที่ระดับ ‘F2 (tha)’
การปรับแนวโน้มเครดิตเป็นลบของ LH สะท้อนถึงการดำเนินนโยบายการเงินที่มีความเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งเห็นได้จากการที่บริษัทยังคงจ่ายเงินปันผลของผลประกอบการระหว่างกาลปี 2549 ในระดับที่สูงมาก ในขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทอ่อนตัวลงและบริษัทมีความต้องการใช้เงินเพื่อลงทุนในธุรกิจอื่นที่สูงขึ้น ซึ่งทำให้หนี้สินสุทธิและอัตราส่วนหนี้สินของ LH สูงเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้
ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2549 LH มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่า (EBITDAR) ลดลง 35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.8 พันล้านบาท อันเป็นผลมาจากการชะลอตัวของตลาดที่อยู่อาศัยโดยรวม ในขณะเดียวกัน LH มีการจ่ายเงินปันผลเป็นจำนวนเงิน 2.1 พันล้านบาทสำหรับผลประกอบการช่วงครึ่งหลังของปี 2548 ประกอบกับความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียนที่สูงขึ้น การลงทุนเพิ่มในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าและการซื้อหุ้นเพิ่มในบริษัทลูกโดยเฉพาะในธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์เพื่อรายย่อย จำกัด ทำให้ยอดหนี้สินสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 1.34 หมื่นล้านบาท ณ ครึ่งปีแรกของปี 2549 จากระดับ 1.07 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปี 2548 ขณะที่ LH มีผลการดำเนินงานที่ลดลง บริษัทกลับดำเนินนโยบายการเงินที่มีความเสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของการจ่ายเงินปันผล LH ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลในอัตรา 100% สำหรับผลประกอบการระหว่างกาลปี 2549 เป็นจำนวนเงิน 1.4 พันล้านบาท ซึ่งได้จ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นไปแล้วในเดือนกันยายน 2549 ที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้ระดับหนี้สินสุทธิคาดว่าจะยังคงสูงต่อไปอีกในช่วงครึ่งหลังของปี 2549 แม้ว่าบริษัทจะมีกระแสเงินสดรับจากการขายทรัพย์สินบางส่วนให้แก่กองทุนพร็อพเพอร์ตี้ ฟันด์ LH ยังชี้แจงถึงความเป็นไปได้ที่จะคงอัตราการจ่ายเงินปันผลที่สูงต่อไปในระดับไม่น้อยกว่า 70% ในช่วงปี 2550 ถึง 2551
อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่า (Net Debt/ EBITDAR) ของบริษัทคาดว่าจะอยู่ในระดับที่สูงที่ 3.0-3.5 เท่าภายในสิ้นปี 2549 เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.7 เท่า ณ ครึ่งปีแรกของปี 2549 และจากระดับที่ต่ำกว่า 2.0 เท่า ในปี 2547/48 โดยอัตราส่วนหนี้สินที่คาดว่าจะสูงกว่า 3.0 เท่าดังกล่าวเป็นระดับที่สูงกว่าเกณฑ์ของอันดับเครดิต ณ ปัจจุบันของบริษัท แต่อย่างไรก็ตามอัตราส่วนหนี้สินนี้ยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับบริษัทในกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้วยกัน ในส่วนของสภาพคล่องทางการเงินของ LH ถึงแม้จะลดลงบ้างแต่ก็ยังอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้ โดย LH มีเงินสดคงเหลือที่ 965 ล้านบาทและวงเงินที่สามารถเบิกจ่ายได้จากธนาคาร (Committed Undrawn Credit Facilities) ที่ระดับ 1.4 พันล้านบาท ณ สิ้นครึ่งปีแรกของปี 2549 อันมีส่วนช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับบริษัทในระยะสั้นได้ นอกจากนี้บริษัทยังสามารถระดมทุนผ่านตลาดทุนในประเทศและมีเงินลงทุนในหลักทรัพย์เผื่อขายเป็นจำนวนมากซึ่งช่วยสนับสนุนสภาพคล่องอีกทางหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ระดับของหนี้สินสุทธิที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหรืออัตราส่วน Net Debt/ EBITDAR ที่ยังคงสูงกว่า 3.0 เท่าในปี 2550 อาจมีผลกระทบในทางลบต่ออันดับเครดิตของบริษัทได้ ในทางตรงกันข้ามหาก LH สามารถสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง และ/หรือ มีการขายสินทรัพย์ออกมาซึ่งสามารถช่วยลดอัตราส่วนหนี้สินสุทธิให้อยู่ในระดับที่ไม่สูงเกินกว่าที่ฟิทช์คาดการณ์ไว้ อันดับเครดิตของ LH อาจคงอยู่ที่ระดับเดิมได้
LH ก่อตั้งขึ้นในปี 2526 และได้พัฒนาเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดและมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยในประเทศไทย โดยมีผลมาจากการที่ LH มีการถือครองที่ดินเปล่าจำนวนมากและความสามารถในการประหยัดเชิงต้นทุนจากขนาดการผลิตของโครงการขนาดใหญ่ของบ้านประเภทสร้างเสร็จก่อนขาย โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนในตลาดบ้านเดี่ยวระดับกลางถึงระดับบนในกรุงเทพมหานครและปริมลฑล กลุ่มของคุณอนันต์ อัศวโภคิน ผู้ก่อตั้งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ซึ่งถือหุ้นรวมประมาณ 30.6% ตามด้วย The Government of Singapore Investment Corporation หรือ GIC ซึ่งมีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ 13.27%
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) เป็นการวัดระดับความน่าเชื่อถือในเชิงเปรียบเทียบกันระหว่างองค์กรในประเทศนั้นๆ โดยจะใช้ในประเทศที่อันดับเครดิตแบบสากลของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ อันดับเครดิตขององค์กรที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับองค์กรที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในตลาดในประเทศเป็นหลักและจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
ติดต่อ: วสันต์ ผลเจริญ, เลิศชัย กอเจริญรัตนกุล, Vincent Milton, + 662 655 4755
คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลาหลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฏข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน