กรุงเทพฯ--3 พ.ย.--ปภ.
ปภ.เตือนประชาชนเพิ่มระมัดระวังในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ช่วงเทศกาลลอยกระทง หากใช้รถควรปฏิบัติตามกฏหมายจราจร อย่างเคร่งครัด ระวังพลัดตกน้ำ งดเว้นเล่นพลุ ดอกไม้ไฟ
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่าในระหว่างวันที่ 4 - 6 พฤศจิกายน 2549 นี้ เป็นช่วงเทศกาลลอยกระทง ซึ่งในช่วงดังกล่าวมักจะเกิดอุบัติภัยต่างๆได้ง่าย เช่น อุบัติเหตุจากการจราจร อุบัติเหตุทางน้ำ การจมน้ำ เรือล่ม โป๊ะล่ม อุบัติเหตุจากการเล่น พลุ ตะไลและดอกไม้ไฟต่างๆ รวมทั้งอัคคีภัย เป็นต้น ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันอุบัติภัยที่อาจจะเกิดขึ้น จึงขอเตือนประชาชนให้ใช้ความระมัดระวังในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ เช่น หากต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ควรตรวจดูสภาพความเรียบร้อยของบ้านเรือนก่อนออกจากบ้านได้แก่ สายไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้า ให้ปิดสวิตซ์ให้เรียบร้อย ปิดเตาแก๊สให้สนิท หากใช้รถในการเดินทาง ควรตรวจเช็คสภาพรถยนต์ก่อนเดินทางทุกครั้ง ในระหว่างการเดินทาง ควรขับขี่ด้วยความระมัคระวัง ไม่ประมาท ปฏิบัติตามกฏหมายจราจรอย่างเคร่งครัดและไม่ควรดื่มสุรา เพราะจะเพิ่มความเสี่ยง ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ส่วนผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ควรสวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง หากจะไปลอยกระทงหรือลงเรือบริเวณโป๊ะริมน้ำ ให้สังเกตคนบนโป๊ะ หากมีคนจำนวนมากให้รอก่อน เพราะโป๊ะอาจรับน้ำหนักไม่ไหว กรณีที่ผู้ปกครองนำบุตรหลานไปเที่ยวงานลอยกระทง ควรดูแลอย่างใกล้ชิด อย่าปล่อยให้เด็กๆ ลอยกระทงตามลำพัง หรือเล่นริมน้ำ เพราะอาจพลัดตกน้ำและเสียชีวิตได้ สำหรับการลอยกระทงในพื้นที่ภาคเหนือที่นิยมปล่อยโคมลอย ควรระมัดระวังในการเล่นไม่ควรปล่อยบริเวณใกล้สนามบินหรือพื้นที่ที่เป็นเส้นทางการบิน โดยเฉพาะพื้นที่เป็นชุมชน เพราะอาจหล่นตกติดบ้านเรือน ทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้
นายอนุชา กล่าวต่อไปถึงการป้องกันอุบัติเหตุจากพลุและดอกไม้ไฟที่ดีที่สุด ว่า ขอให้ประชาชน งดเล่นประทัด ดอกไม้ไฟ พลุ เพราะอาจเกิดอันตรายแก่ผู้เล่น และผู้ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก บางรายถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิต และผู้ปกครองที่มีเด็กเล็ก ควรจะดูแลบุตร หลานอย่างใกล้ชิด ไม่ควรให้ปล่อยให้เด็กเล่นพลุ ดอกไม้ไฟตามลำพัง สำหรับร้านจำหน่ายดอกไม้เพลิง ให้ตรวจสอบสถานที่ผลิต โกดังเก็บสินค้า และร้านค้า พลุ ปะทัด ดอกไม้ไฟ ให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย ทั้งนี้หากประชาชนพื้นที่ใดได้รับความเดือดร้อนสามารถติดต่อได้ที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยหรือโทรสายด่วนสาธารณภัย 1784 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานและให้การช่วยเหลือต่อไป