กรุงเทพฯ--20 มิ.ย.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ กองทุนรวมเพื่อร่วมลงทุนในวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)และ นสพ.กรุงเทพธุรกิจ โดยความร่วมมือของ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดโครงการ “Be Smart…Be Star” อบรมการเขียนแผนธุรกิจให้ผู้ประกอบการ 100 ท่าน และพร้อมสนับสนุนด้านเงินทุนในโครงการที่มีศักยภาพ
โครงการ Be Smart ...Be Star “เขียนแผนธุรกิจ พิชิตแหล่งเงินทุน” บนความร่วมมือของพันธมิตรทั้ง 5 เป็นโครงการอบรมการเขียนแผนธุรกิจในลักษณะเวิร์กชอปให้กับผู้ประกอบการ 100 ท่านที่มีแนวคิดทางธุรกิจที่โดดเด่น และมีศักยภาพ แต่ขาดแหล่งเงินทุนในการเริ่มกิจการ หรือ ขยายกิจการไปในทิศทางที่วางไว้
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้สังคมธุรกิจไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก คนรุ่นใหม่มีทัศนคติ และความใฝ่ฝันที่ต่างจากเดิม จากที่เคยมุ่งสู่การเติบโตในองค์กรธุรกิจ คนรุ่นใหม่ในวันนี้มุ่งมั่นที่จะก้าวเป็นผู้ประกอบการด้วยแนวคิดทางธุรกิจที่แปลกใหม่
“ถ้ารัฐบาลตั้งเป้าหมายจะขับเคลื่อนธุรกิจไทยด้วย Value Creation คนรุ่นก็คือกำลังสำคัญ พวกเขาส่วนใหญ่มีแนวคิดโดดเด่น และ กล้าพอที่จะริเริ่ม แต่ยังติดปัญหาทางด้านเงินทุน ซึ่งโครงการนี้จะตอบโจทย์ให้เขาได้ และ Be Smart…Be Star จะเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างพลังใหม่ให้เศรษฐกิจไทย” นายกิตติรัตน์กล่าว
กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์กล่าวว่า “บนความร่วมมือของพันธมิตรทั้ง 5 จะทำให้ผู้เข้าอบรมทั้ง 100 ท่านจะได้ประโยชน์อย่างแท้จริง เพราะนอกจากจะได้รับการอบรมการเขียนแผนธุรกิจอย่างถูกต้อง ทำให้ธุรกิจก้าวเดินอย่างมีทิศทาง ยังมีโอกาสนำเสนอแผนธุรกิจของตัวเองต่อกองทุนร่วมทุนต่างๆ”
ด้านนายวิเชฐ ตันติวานิช ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) กล่าวเสริมว่า ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ พร้อมสนับสนุนคนรุ่นใหม่ให้ก้าวสู่ถนนธุรกิจด้วยความพร้อม ไม่ใช่เพียงแค่มีไอเดียที่แตกต่าง สดใหม่เท่านั้น แต่ต้องมีความรู้ด้านบริหารจัดการ การตลาด ทั้งยังต้องมีความพร้อมด้านเงินทุน ซึ่งทั้งหมดนี้ “แผนธุรกิจ” จะทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมคนรุ่นใหม่ให้สามารถเดินตาม“ความฝัน” ของตัวเองได้
“แผนธุรกิจเป็นเรื่องสำคัญ จะช่วยทะลายกำแพงทุนที่ขวางโอกาสของผู้ประกอบการ และยังทำให้สามารถประเมินโอกาส และความเสี่ยงของธุรกิจได้อย่างรอบคอบ” นายวิเชฐ กล่าว
ความร่วมมือของ 5 พันธมิตรครั้งนี้ นายวิเชฐ กล่าวว่า ทุกองค์กรมีเป้าหมายร่วมกัน คือ ต้องการเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่อยู่ในธุรกิจที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มเป็นดาวรุ่งในอนาคต เช่น ธุรกิจในกลุ่มดิจิทัล-ไอที ธุรกิจบริการ ธุรกิจท่องเที่ยว ฯลฯ
นายมงคล เกษมสันต์ ณ อยุธยา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.วรรณ ในฐานะผู้บริหารกองทุนรวมเพื่อร่วมลงทุนในวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เปิดเผยว่าขณะนี้กองทุนได้ร่วมลงทุนในธุรกิจต่างๆ ไปมากถึง 63 กิจการในช่วงเวลา 5 ปี และธุรกิจที่กองทุนเข้าไปร่วมทุนต่างเติบโต และประสบความสำเร็จด้วยดี หลายธุรกิจในจำนวนนั้นมีจุดเริ่มต้นที่โครงการ เวิร์กชอปการเขียนแผนธุรกิจ เช่นกัน
“เราพร้อมให้การสนับสนุนด้านการเงิน และเป็นพี่เลี้ยงให้กับธุรกิจ หากเห็นว่าธุรกิจมีศักยภาพ และทำได้จริง ซึ่งกองทุนร่วมทุนฯ ลงทุนโดยการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนทั้งในธุรกิจด้านความรู้ (Knowledge Based) หรือธุรกิจบริการสำหรับในกรณีของอ่าวปะการังรีสอร์ท ที่เกาะเสม็ด หรือวังยางรีสอร์ท ก็ได้รับการร่วมทุนจากโครงการเวิร์กชอปแผนธุรกิจเช่นกัน โดยทางกองทุนได้วิเคราะห์และลงทุนอย่างรอบคอบ” นายมงคล กล่าว
“โครงการนี้มีประโยชน์มาก เรียกได้ว่าเป็นสะพานทุนอย่างแท้จริง และกองทุนรวมเพื่อการร่วมลงทุน และ กองทุนเอสเอ็มอีของสสว. จะรอผู้เข้าอบรมอยู่ปลายทางที่งาน BusinessFair 2005 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ วันที่ 12-14 สิงหาคม 2548 ” นายมงคล กล่าว
ทางด้าน รศ.เกศินี วิฑูรชาติ คณบดีคณะพาณิชศาสตร์ และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การอบรมครั้งนี้ ทางคลินิกธุรกิจขนาดย่อม ภายใต้โครงการเอ็มบีเอ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้จัดเตรียมวิทยากรที่มีคุณภาพ พร้อมด้วยพี่เลี้ยง (Technical Assistant — TA) ที่จะช่วยให้ผู้เข้าอบรมสามารถเขียนแผนธุรกิจของตัวเองได้จริง
การอบรมจะครอบคลุมทั้งทางด้านการเงิน การจัดการการตลาด และกระบวนการภายใน นอกจากนั้นยังถ่ายทอดให้เห็นถึงทักษะ และวิธีการนำเสนอแผนธุรกิจต่อแหล่งเงินทุน โดยตลอดการอบรมภายใต้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือนเศษ จะเน้นการฝึกเชิงปฏิบัติการเพื่อให้ผู้ประกอบการได้แผนธุรกิจ และพร้อมนำเสนอต่อสถาบันการเงิน
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049
วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797--จบ--