กรุงเทพฯ--17 ส.ค.--ตลาดหลักทรัพย์ฯ
บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) 37 บริษัทประกาศผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก ประจำปี 2549 มียอดขายรวมกัน 12,878 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิรวมกัน 649 ล้านบาท “ชนิตร” เผยมี 8 บริษัทกำไรสุทธิโตเกินร้อยละ 100 นำโดย IRCP, TRC และ BROOK
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) จำนวน 37 บริษัท ประกาศผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2549 ปรากฏว่ามีกำไรสุทธิรวม 649 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทที่สามารถทำกำไรสุทธิได้มีถึง 32 บริษัท และที่ ขาดทุนสุทธิ มีจำนวน 5 บริษัท ด้านยอดขายเติบโตร้อยละ 11 คิดเป็น 12,878 ล้านบาทเทียบกับ 11,611 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปี 2548 ทั้งนี้มี บริษัท 8 แห่งที่มีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิสูงกว่าร้อยละ 100
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 3 เดือนประจำไตรมาส 2 ปี 2549 บริษัทใน mai มียอดขายรวมทั้งสิ้น 6,759 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 6,116 ล้านบาทในงวดเดียวกันปี 2548 ร้อยละ 11 โดยมีกำไรสุทธิ 338 ล้านบาท
ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ กล่าวว่า บริษัทที่มีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิประจำครึ่งปีแรกปี 2549 สูงสุด 3 บริษัท ได้แก่ บมจ. อินเตอร์เนชั่นแนลรีเสริช คอร์ปอเรชั่น (IRCP) มีกำไรสุทธิ 64 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตของกำไรสุทธิร้อยละ 598 โดยทำยอดขายได้ 778 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 310 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 151 ทั้งนี้ เนื่องจากมีหลายโครงการจากปี 2548 ที่ทยอยส่งมอบงานในครึ่งปีแรกนี้ รวมทั้งยังมีรายได้จากลูกค้ากลุ่มพลังงานซึ่งเป็นโครงการใหม่และสามารถรับรู้รายได้ภายในไตรมาสนี้
รองลงมาคือ บมจ.ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น (TRC) มีกำไรสุทธิ 25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของ ปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 4 ล้านบาท ถึงร้อยละ 565 โดยมียอดขาย 319 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวด 6 เดือนของปีก่อน ซึ่งมียอดขาย 160 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตร้อยละ 99 เนื่องจากการรับรู้รายได้จากหน่วยธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานวางระบบท่อ และจากหน่วยธุรกิจรับเหมาติดตั้งระบบวิศวกรรมและก่อสร้างโรงงานในอุตสาห-กรรมปิโตรเคมี รวมถึงเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการสำคัญใหม่ 2 โครงการ คือ โครงการท่อก๊าซเอ็นจีวีที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี และโครงการก่อสร้างสถานีก๊าซและติดตั้ง In-Line Block Valve
ถัดมาคือ บมจ. บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป (BROOK) พลิกจากขาดทุนสุทธิ 13 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิ 35 ล้านบาทในครึ่งแรกปี 2549 โดยมีรายได้จากการขายและการบริการเพิ่มขึ้น 53 ล้านบาท เนื่องมาจากงานใหญ่โครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของฝ่ายวาณิชธนกิจได้เสร็จสมบูรณ์บางส่วนในไตรมาสสองของปีนี้
นายชนิตรตั้งข้อสังเกตว่า จากบริษัทที่มีกำไรสุทธิ 32 บริษัท มีบริษัทที่มีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิ 16 บริษัท โดยมีอัตราเติบโตเฉลี่ยประมาณร้อยละ 184 ทั้งนี้มีบริษัทจดทะเบียนถึง 8 บริษัทที่มีอัตราเติบโตของกำไรสุทธิเกิน 100 เปอร์เซนต์ ซึ่งได้แก่ บมจ. อินเตอร์เนชั่นแนลรีเสริชคอร์ปอเรชั่น (IRCP) ร้อยละ 598, บมจ. ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น (TRC) ร้อยละ 566, บมจ. บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป (BROOK) ร้อยละ 374, บมจ. ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ (CMO) ร้อยละ 370, บมจ. พรพรหมเม็ททอล (PPM) ร้อยละ 318, บมจ. บิซิเนส ออนไลน์ (BOL) ร้อยละ 231, บมจ. โรงพยาบาลไทยนครินทร์ (TNH) ร้อยละ 170 และ บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น (ILINK) ร้อยละ 103
“ต้องยอมรับว่าถึงแม้บริษัทจดทะเบียนจะทำยอดขายโดยรวมในครึ่งปีแรกได้เพิ่มขึ้น แต่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในภาคการผลิตนั้นมีกำไรสุทธิลดลง เนื่องมาจากต้นทุนขายเพิ่มขึ้น เป็นผลจากความ ผันผวนของราคาวัตถุดิบในการผลิต อาทิ ต้นทุนทองแดง ตะกั่ว พลาสติกและเม็ดพลาสติก เป็นต้น สืบเนื่อง มาจากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก” นายชนิตรกล่าวในที่สุด
สำหรับภาพรวมการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาด mai นั้น ปัจจุบันมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่ 15,400 ล้านบาท ผู้ลงทุนที่สนใจข้อมูลผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนสามารถศึกษาข้อมูลได้ที่ www.mai.or.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ S-E-T Call center โทร. 0-2229 —2222
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036 / กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037/
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049 / วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797