กบข. แถลงผลตอบแทนปี 2548 สำหรับจัดสรรให้สมาชิกได้ร้อยละ 6.76

ข่าวทั่วไป Monday February 6, 2006 16:08 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ก.พ.--กบข.
กบข. แถลงผลประกอบการเบื้องต้นของปี 2548 มีผลตอบแทนจากการลงทุน 15,550 ล้านบาท คิดเป็นผลตอบแทนกระจายให้สมาชิกสูงถึงร้อยละ 6.76 อันเป็นผลมาจากการปรับพอร์ตการลงทุนที่ทันต่อสภาวะการเปลี่ยนแปลงของตลาดเงินตลาดทุน
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการ กบข. แถลงผลประกอบการและผลประโยชน์สุทธิเบื้องต้นของ กบข. ปี 2548 ว่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2548 กบข.มีสินทรัพย์สุทธิจำนวนทั้งสิ้น 286,823 ล้านบาท และมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนทั้งปี (สะสม 12 เดือนตั้งแต่มกราคม — ธันวาคม 2548) เท่ากับร้อยละ 6.76 หรือคิดเป็นเงิน 15,550 ล้านบาท ซึ่งผลประกอบการดังกล่าวถือได้ว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับตัวเทียบวัดการลงทุนที่ กบข. กำหนดไว้ กล่าวคือสูงกว่าผลตอบแทนจากเงินฝากธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 5 ธนาคารซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 1.29 ในขณะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 4.5
สำหรับอัตราผลตอบแทนสะสมย้อนหลัง 3 ปี ( 2546 — 2548 ) เท่ากับร้อยละ 6.80 และย้อนหลัง 5 ปี ( 2544- 2548 ) เท่ากับร้อยละ 7.16 โดยที่อัตราผลตอบแทนร้อยละ 6.76 ตามที่ได้แถลงไปนั้นนายวิสิฐกล่าวว่า กบข. ได้กระจายเข้าสู่บัญชีสมาชิกรายบุคคลซึ่งสมาชิกสามารถติดตามข้อมูลได้จากใบแจ้งยอดเงินประจำปี 2548 ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการและจะจัดส่งถึงสมาชิก
สำหรับสัดส่วนการลงทุน ณ สิ้นปี 2548 ที่ผ่านมานั้น นายวิสิฐเปิดเผยว่า ในปี 2548 ที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกหลายประการ ทั้งการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยและราคาน้ำมันดิบ โดยเฉพาะการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่สูงถึงร้อยละ 50 และการปล่อยลอยตัวราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศซึ่งเป็นต้นทุนที่สำคัญของอุตสาหกรรมขนส่งทุกประเภทส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 4.5 ดังนั้น กบข. จึงต้องมีการปรับพอร์ตการลงทุนให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยที่มีทีผลกระทบต่อผลตอบแทนการลงทุนในตราสารประเภทต่างๆ ที่แตกต่างกันไปโดยเฉพาะตราสารหนี้
สำหรับปี 2548 มีการจัดสรรการลงทุนโดยมีการลงทุนในเงินฝากธนาคารและ ตราสารหนี้ทั้งของรัฐและเอกชนมากที่สุดร้อยละ 67.86 รองลงมาเป็นการลงทุนในตราสารทุนร้อยละ 13.68 อสังหาริมทรัพย์ร้อยละ 3.09 การลงทุนทางเลือกร้อยละ 5.93 ตราสารหนี้ต่างประเทศร้อยละ 8.49 และตราสารทุนต่างประเทศร้อยละ 0.95
อย่างไรก็ตามแผนงานในปี 2549 นี้ นายวิสิฐกล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้ กบข.บรรลุวิสัยทัศน์การเป็นสถาบันบริหารเงินออมชั้นนำในระดับสากล จึงกำหนดเป็นแผนแม่บทปี 2549 - 2552 ขึ้น เพื่อเป็นถ้อยแถลงข้อผูกพันขององค์กรเกี่ยวกับทิศทางในอนาคต และเป็นกลไกการสื่อสารให้ผู้มีส่วนร่วมยึดถือเป็นแนวปฏิบัติโดยมีพันธกิจคือมุ่งสู่องค์กรที่มีความเป็นเลิศ (High Performance Organization) และยกระดับมาตรฐานนักลงทุนสถาบันของประเทศ โดยได้นำพันธกิจดังกล่าวนี้แปลงไปสู่การปฏิบัติให้ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยการกำหนดเป็นยุทธศาสตร์การดำเนินงานทั้ง 4 ด้านให้เข้มข้นยิ่งขึ้น สำหรับยุทธศาสตร์ทั้ง 4 ด้านได้แก่ ยุทธศาสตร์ด้านนวัตกรรม เพื่อให้ กบข. มี ความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในทุกด้าน ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างผลตอบแทนด้านการลงทุน เพื่อให้การบริหารการลงทุนเป็นไปอย่างเหมาะสม พร้อมกับเสริมสร้างระบบการลงทุนที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นกองทุนที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม สำหรับยุทธศาสตร์ด้านสมาชิกนั้น เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับสมาชิกจากการได้รับบริการที่ดี ถูกต้อง ครบถ้วน รวดเร็ว และการให้ความรู้เรื่องการออมการลงทุน ตลอดจนสามารถเลือกแผนการลงทุนได้ด้วยตนเอง รวมถึงการจัดสวัสดิการที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง และสุดท้ายยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาองค์กรและการจัดการ เพื่อให้ กบข. มีกระบวนการทำงานและมีโครงสร้างองค์กรที่สนับสนุนสู่องค์กรที่มีความเป็นเลิศในทุกด้าน ซึ่งยุทธศาสตร์ทั้ง 4 ด้านนี้ ได้มอบหมายให้ทุกฝ่ายใน กบข. นำไปจัดทำเป็นโครงการ แผนงาน พร้อมกำหนดตัวชี้วัดอย่างชัดเจนทุกระดับเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการทำงานทุกระดับจะสอดคล้องกันไปทั้ง กบข. และสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตที่มั่นคงหลังเกษียณอายุของสมาชิก กบข.ทุกคน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ยุวพร นนท์ภาษโสภณ
กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ( กบข.)
Government Pension Fund
Tel. 02-636-1000 Ext.263 , 01-612-2322
Fax. 02-636-1649--จบ--

แท็ก ตลาดทุน   กบข.  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ