กรุงเทพฯ--13 ต.ค.--สปส.
ประกันสังคมเผยยอดเงินสั่งจ่ายบำเหน็จชราภาพในรอบ 8 ปีมากกว่า 2 พันล้านบาท ผู้ขอรับสิทธิกว่า 2 แสนราย
นายไพโรจน์ สุขสัมฤทธิ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า นับแต่เริ่มเก็บเงินชราภาพตั้งแต่ ธ.ค.’41-ปัจจุบัน (ม.ค.-ส.ค.) รวม 8 ปี สปส.ได้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพให้กับผู้ประกันตนไปแล้ว จำนวน 250,050 คน ยอดเงินรวม 2,826.46 ล้านบาท ในปี ’49 ตั้งแต่เดือนม.ค.-ส.ค. มีผู้รับเงินบำเหน็จชราภาพแล้ว 46,387 ราย เป็นเงิน 798.33 ล้านบาท
เงื่อนไขการขอรับเงินบำเหน็จชราภาพ (เงินก้อน) คือ เป็นผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบน้อยกว่า180 เดือน (15 ปี) มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์และสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนแล้ว โดยผู้ที่ส่งเงินสมทบน้อยกว่า 12 เดือน จะได้รับเงินบำเหน็จเฉพาะส่วนที่ตัวเองส่งเท่านั้น แต่ถ้าส่งเงินสมทบเกิน 12 เดือนขึ้นไปแต่ไม่ถึง 180 เดือน (15 ปี) จะได้รับเงินบำเหน็จในส่วนที่ตัวเองและนายจ้างจ่ายสมทบเข้ากองทุน ฯ พร้อมดอกผลตามที่ สปส.ประกาศในแต่ละปี
และหากส่งเงินสมทบครบ 180 เดือน (15 ปี) จะได้รับเงินบำนาญชราภาพ (รายเดือนตลอดชีวิต) ในขณะนี้ยังไม่มีผู้ใดได้รับเงินบำนาญดังกล่าว เพราะอายุของกองทุนประกันสังคมกรณีชราภาพยังไม่ถึง 15 ปี และในปี 2557 สปส.จะเริ่มจ่ายบำนาญชราภาพเป็นปีแรก มีผู้ประกันตนที่มีสิทธิประมาณ 6,300 คน และจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในปีต่อไป
ผู้ประกันตนยื่นเรื่องขอรับสิทธิได้ภายใน 1 ปีนับแต่วันที่สิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตน โดยผู้ประกันตนที่มีสิทธิติดต่อขอรับเงินได้ที่ สปส.เขตพื้นที่/จังหวัดทั่วประเทศ แต่หากเสียชีวิตให้ทายาท คือ บิดามารดา สามี ภรรยา บุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย ยื่นเรื่องขอรับสิทธิได้ทันทีนับจากวันที่เสียชีวิต ที่ผ่านมา สปส.พบปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยคือ ผู้ประกันตนเปลี่ยนแปลงที่อยู่และไม่แจ้งให้ทราบทำให้ผู้ประกันตนไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์แก่ตนเอง จึงขอให้ผู้ประกันตนติดต่อ สปส.เพื่อแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริง หากมีข้อสงสัยหรือต้องการตรวจสอบจำนวนเงินสะสมกรณีชราภาพของตนเองสามารถทำได้ โดยสอบถามที่สายด่วน 1506
ศูนย์สารนิเทศ สายด่วน 1506 /www.sso.go.th