กรุงเทพฯ--18 ส.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด [“Erawan”
] ประกาศความคืบหน้าโครงการสร้างโรงแรม Ibis หลังเข้าซื้อที่ดินสองผืนและทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินอีกผืนหนึ่ง เพื่อเดินหน้าสร้างโรงแรม Ibis 3 แห่งแรกในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยา รวมเป็นจำนวนห้องพักกว่า 710 ห้อง พร้อมทั้งเซ็นสัญญาจ้างกลุ่ม Accor บริหาร อัดฉีดงบลงทุนการก่อสร้างและค่าที่ดินกว่า 1,250 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ ภายในต้นปี 2551 บมจ. พร้อมวางเป้าสร้างเครือข่ายโรงแรม Ibis ครบ 10 แห่งภายในปี 2553 ตามแผนขยายธุรกิจโรงแรมไปสู่กลุ่มธุรกิจโรงแรมราคาประหยัด
โรงแรม Ibis สาธร กรุงเทพฯ จำนวน 210 ห้อง ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 1.5 ไร่ในซอยสาทร 1 โดยทำสัญญาเช่าที่ดินระยะเวลา 30 ปี เน้นจุดขายด้านทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯและใกล้รถไฟฟ้าใต้ดินสถานีลุมพินี
โรงแรม Ibis ป่าตอง ภูเก็ต จำนวน 250 ห้อง ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 4 ไร่ในซอยที่เชื่อมระหว่างถนนป่าตอง สาย 1 และสาย 2 เน้นให้บริการกลุ่มลูกค้าที่มาท่องเที่ยวพักผ่อนซึ่งจะสามารถเดินไปยังหาดป่าตองได้เพียงไม่ถึง 5 นาที
โรงแรม Ibis พัทยา จำนวน 250 ห้อง ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่บนถนนพัทยาสาย 2 เหมาะสำหรับลูกค้ากลุ่มที่มาประชุมสัมมนาและกลุ่มนักท่องเที่ยวเนื่องจากโรงแรมตั้งอยู่ใจกลางเมืองพัทยา และสำหรับที่ดินผืนนี้บริษัทคาดว่าจะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินได้ภายใน 45 วัน
นายกษมา บุณยคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) แสดงความเชื่อมั่นว่าโครงการโรงแรม Ibis ทั้ง 3 แห่งนี้จะเป็นที่ยอมรับและประสบความสำเร็จ โดยกล่าวว่า “ขณะนี้ประเทศไทยมีแบรนด์ระดับอินเตอร์ในกลุ่มธุรกิจโรงแรมชั้นประหยัดอยู่น้อยมาก ซึ่งทางบริษัทมองว่าจะมีความต้องการของโรงแรมชั้นประหยัดเพิ่มสูงขึ้นมากหลังจากการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิในช่วงปลายปีประกอบกับการขยายตัวอย่างมากของสายการบินราคาประหยัดในแถบเอเชียแปซิฟิกซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยว
เดินทางเข้ามาเมืองไทยมากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่มีงบประมาณจำกัด ซึ่งมองหาห้องพักในระดับราคา 1,000-1,500 บาท บริษัทเชื่อว่าโรงแรม Ibis จะเป็นที่ยอมรับจากลูกค้าเนื่องจาก Ibis มีชื่อเสียงด้านความสะอาด ความปลอดภัยและความคุ้มค่า รวมถึงเครือข่ายทางการตลาดที่ดีของกลุ่ม Accor”
ในเรื่องของแหล่งเงินทุนสำหรับแผนการขยายงานนี้ นายกษมากล่าวว่า “บริษัทจะใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินงานและเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนที่ประกาศไปแล้ว รวมถึงเงินกู้ยืมซึ่งได้ตกลงกันแล้วกับสถาบันการเงินสำหรับโครงการขยายธุรกิจของบริษัทใน2-3 ปีนี้” นายกษมายังกล่าวต่อไปอีกว่า “ภายในช่วงกลางปี 2550 เรามั่นใจว่าเราจะสามารถหาที่ดินได้อีกอย่างน้อย 3 แห่งซึ่งตรงกับเป้าของทางบริษัทที่จะเปิดโรงแรม Ibis ให้ได้ 6 แห่งก่อนสิ้นปี 2551”
เกี่ยวกับบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทเป็นเจ้าของโรงแรม 5 ดาวชั้นนำของกรุงเทพฯ 2 แห่งได้แก่ Grand Hyatt Erawan Bangkok และ JW Marriott Bangkok และ โรงแรม 5 ดาวบนเกาะสมุย ภายใต้ชื่อ Renaissance Koh Samui Resort & Spa นอกจากนี้ยังมี อาคารสำนักงานและศูนย์การค้าให้เช่าอีก 3 แห่งคือ อาคารอัมรินทร์ พลาซ่า อาคารเพลินจิต เซ็นเตอร์ และศูนย์การค้าเอราวัณ
แบงค็อก
โครงการในอนาคตสองโครงการดังต่อไปนี้
การพัฒนาสร้างโรงแรมนักธุรกิจ Courtyard by Marriott Bangkok ซึ่งจะเปิดให้บริการในช่วงปี 2550
การพัฒนารีสอร์ทประเภท deluxe pool villa ในจังหวัดภูเก็ต ภายใต้การบริหารโดยกลุ่ม Six Senses ซึ่งจะเปิดให้บริการในช่วงปี 2550
รายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:
ปฐวี ชัยพัฒน์ หรือ สาธิดา ศรีธัญญาธรณ์
อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
โทร: 0 2252 9871
อีเมล์ c_patawee@th.bm.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net