กรุงเทพฯ--6 ม.ค.--ปตท.
นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเกือบ 6 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่ง ปตท. ได้ทำหน้าที่ของบริษัทพลังงานแห่งชาติ โดยชะลอการปรับราคาน้ำมันเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระผู้บริโภคในระดับหนึ่งนั้น ล่าสุดในวันนี้ (6 ม.ค.49) ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงปรับตัวอยู่ในระดับสูงเช่นกัน กล่าวคือ น้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ ระดับ 56.83 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เพิ่มขึ้น 4.23 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) ส่วนน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดสิงคโปร์ น้ำมันเบนซิน 95 อยู่ที่ระดับ 67.34 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เพิ่มขึ้น 5.99 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) และ น้ำมันดีเซล อยู่ที่ระดับ 69.84 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เพิ่มขึ้น 2.94 เหรียญสหรัฐบาร์เรล) ทำให้ต้นทุนราคาน้ำมันในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน และส่งผลให้ค่าการตลาดเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์อยู่ในระดับที่ติดลบประมาณ 57 สตางค์/ลิตร ปตท. จึงมีความจำเป็นต้องปรับราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและดีเซลทุกชนิดขึ้น 40 สตางค์/ลิตร ทั้งนี้ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (7 ม.ค.49) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในเขต กทม.และปริมณฑลเป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ลิตร
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 95 26.44
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ 95 พลัส 24.94
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91 25.64
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที เดลต้า เอ็กซ์ ยูโร ทรี 23.89
น้ำมันดีเซล-ปาล์ม (บริสุทธิ์) 23.39
ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวสูงขึ้นจากข่าวของ นาย Ariel Sharon นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ที่มีอาการเส้นโลหิตในสมองแตก ส่งผลให้ตลาดมีความกังวลต่อสภาพทางการเมืองในตะวันออกกลาง ประกอบกับโรงกลั่น Pernis ของ Shell ที่มีกำลังการผลิต 420,000 บาร์เรล/วัน ต้องหยุดดำเนินการจากปัญหาทางด้านเทคนิค
สำหรับน้ำมันสำเร็จรูปเบนซินและดีเซลนั้นปรับตัวสูงขึ้นจากจากความต้องการนำเข้าน้ำมันของ Vietnam’s Petrolimex เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน (เบนซิน 2.95 ล้านตัน และดีเซล 5.85 ล้านตัน) ประกอบกับสภาวะน้ำมันดีเซลในภูมิภาคนี้ยังคงตึงตัวจากสาเหตุที่โรงกลั่น Formosa ของไต้หวัน ประสบปัญหาทางเทคนิคทำให้ต้องลดอัตราการกลั่น นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่สำคัญคือสภาพอากาศของญี่ปุ่นมีอุณหภูมิลดลงต่ำสุดในรอบ 20 ปี (ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ใช้ Heating Oil รายใหญ่ที่สุดในภูมิภาค) ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันดีเซลเพิ่มสูงขึ้น และจากการรายงานของ International Enterprise Singapore (IES) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันสำเร็จรูปประจำสัปดาห์ (สิ้นสุด 4 ม.ค.49) ลดลง 0.684 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ระดับ 7.581 ล้านบาร์เรล นับว่าต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ส่วนประชาสัมพันธ์ กลุ่มธุรกิจน้ำมัน ปตท.
โทรศัพท์ 0 2537 2537, 2568
โทรสาร 0 2537 2517--จบ--