กรุงเทพฯ--26 ก.ย.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บอร์ด บ.ศูนย์รับฝากฯ เผยวิสัยทัศน์ใหม่ มุ่งตอบสนองพัฒนาการในตลาดทุนและความต้องการลูกค้า ด้วยบริการที่ถูกต้อง รวดเร็ว แม่นยำ พร้อมปรับภาพลักษณ์ ยกระดับงานบริการและเพิ่มประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุด เพิ่มกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ เร่งพัฒนาศักยภาพบุคลากรโดยเพิ่มขีดความสามารถ พร้อมประชาสัมพันธ์สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้เกี่ยวข้องต่อเนื่อง
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าคณะกรรมการบริษัทฯ ในการประชุมวันที่ 25 กันยายน 2549 ได้มีมติอนุมัติแผนกลยุทธ์ 3 ปี ระหว่างปี 2550 — 2552 เพื่อให้ สอดคล้องกับพัฒนาการใหม่ในตลาดทุนไทย พร้อมเร่งเพิ่มประสิทธิภาพงานบริการ ยกระดับการทำงานให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้า เพื่อสนับสนุนให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจได้อย่างทันท่วงที โดยกำหนดวิสัยทัศน์ใหม่ที่มุ่ง “เป็นพันธมิตรในธุรกิจตลาดทุน ด้วยบริการที่เป็นเลิศ” (To be a valued partner in capital market offering excellent services)
“เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทใหม่ที่บริษัทฯ ต้องการตอบสนองความต้องการของลูกค้า และเพื่อให้เกิดการรับรู้ถึงบทบาทที่ชัดเจนที่เน้นความมีประสิทธิภาพและความรวดเร็วในบริการทุกประเภทของศูนย์รับฝากฯ และที่สำคัญคือเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดทุนที่มีพัฒนาการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง อันจะทำให้ตลาดทุนไทยเติบโตขึ้นได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน” นางสาวโสภาวดีกล่าว
ศูนย์รับฝากฯ ได้กำหนดแผนกลยุทธ์ 3 ปี และเป้าหมายที่ชัดเจน โดยเน้นกลยุทธ์ 3 ด้าน ได้แก่ 1. การพัฒนาระบบ โครงสร้างพื้นฐานและระบบงานหลักให้มีความน่าเชื่อถือ มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยสูง สามารถรองรับธุรกรรมที่หลากหลาย ตรงตามความต้องการ 2. การสร้างสรรค์งานบริการใหม่ รองรับผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจได้ พร้อมเพิ่มคุณค่างานบริการ และ 3. การสื่อสารเอกลักษณ์ของศูนย์รับฝากฯ ต่อผู้ที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจนถึงบทบาทของศูนย์รับฝากฯ รวมถึงการพัฒนาศักยภาพของพนักงานให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่ตั้งไว้ เพื่อให้เกิดการรับรู้อย่างกว้างขวาง
ทั้งนี้ ในปี 2550 ศูนย์รับฝากฯ ได้กำหนดแผนธุรกิจรวม 9 แผนงาน ซึ่งจะสอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ 3 ปี โดยจะมุ่งเน้นการพัฒนาระบบ เพื่อรองรับการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์สำหรับ Index Options และ ETF การพัฒนาระบบงานสนับสนุนการซื้อขายหลักทรัพย์แบบครบวงจรหรือ Post Trade Integration การปรับปรุงระบบงานบริการปฏิบัติการบริษัทหลักทรัพย์ (Back Office Service Bureau : BSB) สำหรับตราสารทุน การปรับปรุงระบบงานทะเบียนกองทุนรวมหรือ Fund Administration System @ TSD (FAST) เป็นต้น นอกจากนี้ จะยังคงผลักดันเรื่อง e-Dividend และระบบไร้ใบหุ้นให้ทั้งผู้ออกหลักทรัพย์ และผู้ถือหลักทรัพย์ใช้บริการมากขึ้นด้วย
สำหรับการกำหนดแผนกลยุทธ์ 3 ปี ระหว่างปี 2550 — 2552 บริษัท ศูนย์รับฝากฯ จะนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาปรับปรุงระบบงานที่เกี่ยวข้อง โดยกลยุทธ์แรกคือ การพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานและระบบงานหลัก ประกอบด้วย 6 งานย่อย ได้แก่ 1. การพัฒนาระบบงานบริการหลัก อาทิ งานด้านนายทะเบียนหลักทรัพย์ งานรับฝากหลักทรัพย์ งานชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ งานปฏิบัติการบริการบริษัทหลักทรัพย์ และงานบริการงานนายทะเบียนกองทุนรวม
2. การพัฒนาระบบงานเพื่อรองรับระบบบัญชีเดียว หรือ Integrated Investor Account เพื่อให้นักลงทุนสามารถจัดพอร์ตการลงทุนได้สะดวกยิ่งขึ้น 3.การพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศให้มีข้อมูลครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน เพื่อให้เป็นแหล่ง ข้อมูลสำคัญในการตัดสินใจของผู้บริหาร 4.การพัฒนาระบบงานเพื่อให้พร้อมรองรับการลดระยะเวลาการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์เป็น T+2 ภายในปี 2551 5.พัฒนาเครื่องมือเพื่อจัดการธุรกรรมการเงินที่เกี่ยวข้องกับบริการต่าง ๆ รวมถึง 6.การพัฒนาระบบบัญชีผู้ฝากรายย่อย
สำหรับกลยุทธ์การสร้างสรรค์งานบริการใหม่นั้น ประกอบด้วย 6 งานย่อย ได้แก่ 1.การพัฒนาระบบงานเพื่อรองรับตราสารใหม่ ได้แก่ อินเด็กซ์ออปชั่น (Index Options) ฟิวเจอร์บนอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Futures) การยืมและให้ยืมหุ้น (Securities Borrowing and Lending) และ การซื้อคืนพันธบัตรภาคเอกชน (Private Repo) และอีทีเอฟ (Exchange Traded Fund)
2.การพัฒนาระบบงานให้รองรับการบริหารหลักประกันข้ามตลาด เพื่อรองรับธุรกรรมการซื้อขายหลักทรัพย์ที่อาจมีการเชื่อมโยงกับตลาดตราสารต่าง ๆ ในอนาคต 3.การพัฒนาระบบให้บริการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพื่อรองรับ Employee’s Choices ซึ่งเปิดโอกาสให้สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีทางเลือกลงทุนในนโยบายการลงทุนที่หลากหลายได้ตามที่ กรรมการกองทุนกำหนด 4.การพัฒนาระบบงานให้รองรับผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกตลาดอนุพันธ์ (Sub-Brokers) ให้สามารถเป็นสมาชิกสำนักหักบัญชีได้ภายในปี 2550 ด้วย รวมทั้ง 5.การให้บริการผู้ถือหุ้นในการใช้สิทธิออกเสียงผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และ 6.ศูนย์รับฝากฯ จะพัฒนาระบบการสื่อสาร เพื่อเพิ่มช่องทางให้ลูกค้าทุกกลุ่มเข้าถึงข้อมูลผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (TSD Portal) ได้สะดวกมากขึ้น โดยระบบเหล่านี้จะพร้อมรองรับผู้ออกหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทจัดการลงทุน และผู้ถือหลักทรัพย์ภายในปี 2551
“ศูนย์รับฝากฯ ยังคงมุ่งเน้นให้บริการงานบริการปฎิบัติการบริษัทหลักทรัพย์แก่บริษัทหลักทรัพย์ และงานนายทะเบียน กองทุนแก่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เพื่อช่วยลดต้นทุนด้านการพัฒนาระบบและการดำเนินงาน” นางสาวโสภาวดีกล่าว
ในขณะเดียวกัน ศูนย์รับฝากฯ จะมุ่งเสริมสร้างและสื่อสารเอกลักษณ์ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบ พร้อมกันนี้ จะเพิ่มประสิทธิภาพของบุคลากรให้พร้อมรับกับพัฒนาการใหม่ ๆ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการต่อการพัฒนาตลาดทุนไทย รวมถึงการให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างเต็มที่
“แผนกลยุทธ์ดังกล่าวจะทำให้บทบาทของศูนย์รับฝากฯชัดเจนขึ้นในฐานะองค์กรที่มีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของผู้ที่ เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยเน้นการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ ถูกต้อง รวดเร็ว และตรงกับความต้องการด้วยพนักงานที่มีความรู้ ความสามารถ และความเข้าใจในบริการของลูกค้าอย่างแท้จริง” นางสาวโสภาวดีกล่าวสรุป
บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทในเครือของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ให้บริการงานต่อเนื่องจากการซื้อขายหลักทรัพย์ ได้แก่ งานรับฝากหลักทรัพย์ งานชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ งานนายทะเบียนหลักทรัพย์ งานนายทะเบียนกองทุน และงานปฏิบัติการบริการบริษัทหลักทรัพย์
ติดต่อส่วนธุรกิจสัมพันธ์ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและแผนงาน
บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 0-2229-2892 ถึง 5e-mail address: contact.tsd@set.or.th
http://www.tsd.co.th