Bangkok--28 Sep--สวอทซ์ กรุ้ป
OMEGA เป็นบริษัทแห่งแรกในโลกที่ได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่จับเวลาการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก นับตั้งแต่การแข่งขันเมื่อครั้งที่จัดที่ลอสแองเจลิสในปี 1932 เป็นต้นมาจนเกิดเป็นความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่าง OMEGA และคณะกรรมการโอลิมปิกสากลหรือ IOC
เดิมทีในปี 1932 นั้นมีการใช้นาฬิกาโครโนกราฟ 30 เรือนเพื่อใช้จับเวลาการแข่งขันต่างๆ จนเมื่อมาเวลาล่วงเลยมาถึงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ปักกิ่งในปี 2008 ความทุ่มเทที่ OMEGA มีให้ต่อภารกิจสำคัญนี้ก็สะท้อนให้เห็นได้ชัดอีกขีดขั้นหนึ่งในรูปของอุปกรณ์ต่างๆน้ำหนักรวมราว 420 ตันที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการจับเวลาและการบริหารข้อมูล 450 คนตลอดจนอาสาสมัครในพื้นที่ซึ่งผ่านการฝึกอบรมเป็นอย่างดีแล้วอีกกว่า 1,000 รายใช้เพื่อจับเวลา
สานสัมพันธ์ต่อเนื่อง
ตำนานการจับเวลาโอลิมปิกของ OMEGA ยังคงดำเนินต่อเนื่อง
OMEGA และ Swatch Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ได้ลงนามในสัญญากับ IOC เพื่อรับหน้าที่การจับเวลาการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกต่อไปจนถึงการแข่งขันในปี 2020 โดยนอกจากการจับเวลาทุกรายการแข่งขันแล้ว OMEGA จะต้องรับผิดชอบเรื่องการบริหารข้อมูล การแสดงผลการแข่งขันที่สนามแข่งและการส่งผลการแข่งขันต่างๆนี้ไปยังสื่อมวลชนทั่วโลกด้วย
การแต่งตั้ง OMEGA ให้เป็นผู้จับเวลาการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกอย่างเป็นทางการต่อเนื่องถึงปี 2020 นี้ได้รับการเปิดเผยในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2009 ที่ Olympic Museum ในกรุงโลซานโดย Jacques Rogge ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล, Nicolas Hayek ประธานบริษัท Swatch Group, Nick Hayek Jr. ซีอีโอบริษัท Swatch Group และ Stephen Urquhart ประธานบริษัท OMEGA
Nicolas Hayek กล่าวชื่นชมการสานต่อความสัมพันธ์ในฐานะพาร์ทเนอร์ในครั้งนี้ว่า “ที่ผ่านมาเราทุกคนที่ Swatch Group มีความยินดีอย่างล้นเหลือที่ได้ร่วมงานกับทีมงานที่มีความสามารถของคณะกรรมการโอลิมปิกสากลตามสนามแข่งต่างๆทั่วโลก ดังนั้นเราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ร่วมงานกับทาง IOC อีกที่แวนคูเวอร์ ลอนดอนและเมืองอื่นๆอีกในอนาคต”
ทางด้าน Nick Hayek Jr. ก็กล่าวถึงศักยภาพของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในการสร้างความตื่นเต้นและความหลงใหลในใจคนว่า “คงไม่มีการแข่งขันกีฬาใดที่ทำให้คนรู้สึกมีความหวังได้เท่ากับโอลิมปิกอีกแล้ว คนทั้งโลกทุกวัยทั้งยากดีมีจนต่างก็มีความประทับใจไปกับประสบการณ์โอลิมปิกด้วยกันทั้งสิ้น”
และ Jacques Rogge ก็กล่าวด้วยว่า “คณะกรรมการโอลิมปิกสากลและผู้จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกมีความมั่นใจใน OMEGA เพราะความทุ่มเทที่ทางบริษัทมีให้กับการจับเวลาการแข่งขันกีฬา การส่งเสริมนักกีฬาและจิตวิญญาณแห่งกีฬาโอลิมปิก”
ในการนี้ Stephen Urquhart ประธานบริษัท OMEGA กล่าวถึงตำนานการจับเวลาการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกของทางบริษัทว่า “OMEGA มีความภาคภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับ IOC และเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันกีฬาที่มีความสำคัญที่สุดของโลกนี้มาเป็นเวลายาวนานตั้งแต่ปี 1932 โดยกีฬาโอลิมปิกนี้เองเป็นเวทีอันทรงเกียรติและควรค่าที่เปิดโอกาสให้เราได้สื่อถึงปรัชญาแห่งความเที่ยงตรง คุณภาพและนวัตกรรมของเรา”
นาฬิกาเรือนประวัติศาสตร์
นาฬิกาโครโนกราฟที่ใช้จับเวลาในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ลอสแองเจลิสในปี 1932 นั้นมีเก็บรักษาไว้ที่ OMEGA Museum กรุงเบียน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์จำนวนสี่เรือน ในโอกาสที่ OMEGA ได้รับการต่อสัญญากับ IOC ในครั้งนี้ Stephen Urquhart จึงได้มอบนาฬิกาประวัติศาสตร์เรือนหนึ่งในจำนวนนี้ให้แก่ Jacques Rogge ด้วย
ทั้งนี้ OMEGA จะทำหน้าที่เป็นผู้จับเวลาการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกอย่างเป็นทางการเป็นครั้งที่ 24 ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่แวนคูเวอร์ในปี 2010 ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2010
ภาพการแถลงข่าวในรูปแบบไฟล์ความละเอียดสูงจาก Photopress ที่
www.photopress.ch/image/OMEGA/News/IOC+OMEGA+Agreement
และจากเว็บไซท์ของ OMEGA ที่
www.omegawatches.com/events (คำสำคัญสำหรับการค้นหาภาพเพื่อดาวน์โหลด: 20090925_IOC_OMEGA)