กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--ซีพีเอฟ
กำไรซีพีเอฟปี 2548 เพิ่มกว่า 400% จากปีก่อน เชื่อผู้บริโภคใส่ใจคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้ามากขึ้น เน้นสร้างแบรนด์ต่อเนื่อง พร้อมรุกตลาดอาหารปรุงสุกและอาหารไทยพร้อมรับประทาน
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปี 2548 ว่ามียอดขายตามเป้าหมาย 113,374 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 24 และกำไรสุทธิจำนวน 6,747 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 446 จากปี 2547 และคณะกรรมการบริษัทเสนอขอผู้ถือหุ้นอนุม้ติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2548 จากผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 4 นี้ ในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท โดยจะทำการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นในวันที่ 10 เมษายน 2549 โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 4 เมษายน และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 25 พฤษภาคม ซึ่งการจ่ายครั้งนี้เมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่ได้จ่ายไปแล้ว 3 ครั้งในปี2548 รวมเป็นการจ่ายเงินปันผลทั้งสิ้น 0.50 บาทต่อหุ้น
นอกจากนั้น บริษัทได้ประกาศการจำหน่ายไปซึ่งเงินลงทุนในธุรกิจซุปเปอร์สโตร์ในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ซีพีเอฟถือหุ้นทางอ้อมผ่านบริษัท ซี.พี.เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด บริษัทย่อยที่ซีพีเอฟถือหุ้นร้อยละ 99.99 ในมูลค่า 31 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ซึ่งจะเสนอให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติในวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2549 กำหนดให้มีขึ้นในวันที่ 28 เมษายน 2549 นี้
นายอดิเรก กล่าวถึงผลการดำเนินงานของบริษัทที่มีการเติบโตอย่างมาก เนื่องจากว่า ซีพีเอฟมีกระบวนการผลิตที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ มีระบบการตรวจสอบย้อนกลับของกระบวนการผลิตทุกขั้นตอน ทำให้ลูกค้าและผู้บริโภคมั่นใจในสินค้าของบริษัท จึงเป็นผลทำให้ยอดขายในเกือบทุกส่วนงานของธุรกิจมีการเติบโตจากปีที่ผ่านมา
โดยธุรกิจที่ซีพีเอฟเชื่อว่า จะมีการขยายตัวอย่างมากทั้งในประเทศและส่งออก คือ สินค้าอาหารปรุงสุก (Cooked Food) และโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารไทยพร้อมรับประทานภายใต้ตราสินค้าของบริษัท (Thai Ready-to-Eat Meal) โดยได้ส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย ซึ่งได้รับการตอบรับค่อนข้างดี
นอกจากนี้ ธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารจากสัตว์น้ำ ทั้งกุ้ง และปลา เป็นอีกธุรกิจหนึ่ง ที่ ซีพีเอฟให้ความสำคัญในการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนงานในการผลิตเป็นสินค้าอาหารปรุงสุกและอาหารพร้อมรับประทาน เพื่อจำหน่ายทั่วประเทศไทยและทั่วโลกภายใต้ตราสินค้าของบริษัทเอง
สำหรับความกังวลจากวิกฤตการณ์ไข้หวัดนกทั่วโลก ทำให้มีการคาดการณ์ว่าอัตราการบริโภคเนื้อไก่สดทั่วโลกลดลงนั้น นายอดิเรก ได้กล่าวว่า สิ่งนี้ในทางกลับกันจะทำให้ความต้องการสินค้าไก่ปรุงสุกเพิ่มขึ้นมาทดแทน อีกประการหนึ่งคือจะมีการหันไปบริโภคเนื้อสัตว์ประเภทอื่นทดแทน เช่น สุกร หรือกุ้ง หรือปลา ซึ่ง ณ วันนี้ซีพีเอฟ พร้อมที่จะสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยความสามารถและศักยภาพในการผลิตสินค้าไก่ปรุงสุกคุณภาพเป็นที่ยอมรับของลูกค้าทั่วโลก และการมีธุรกิจหลากหลายและศักยภาพในการขยายตัวเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น ซีพีเอฟ หรือ ครัวของโลก ยังคงมั่นใจในความสามารถของบริษัทที่จะเติบโตไปอย่างมั่นคง สร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง และยังคงมั่นใจอีก 5 ปีข้างหน้ายอดขายทะลุ 2 แสนล้านแน่นอน
สำนักสารนิเทศ ซีพีเอฟ
โทร 0-2625-7343-5 , 0-2631-0641--จบ--