กรุงเทพฯ--17 ส.ค.--อีริคสัน (ประเทศไทย)
อีริคสันครบรอบ 100 ปีดำเนินธุรกิจในประเทศไทย พร้อมสร้างโมเมนตัมทางธุรกิจโทรคมนาคม ต่อยอดกลุ่มลูกค้าสนองความต้องการผู้บริโภคยุคข้อมูลความเร็วสูง และเชื่อมต่อประสานความเป็นหนึ่งจากโครงข่ายสู่เทอร์มินัล ด้วยวิสัยทัศน์ “The Prime Driver in an all Communicating World” พร้อมนำประสบการณ์ระดับโลกสร้างโครงข่าย กว่า 1,000 แห่งใน 140 ประเทศ ถ่ายทอดสู่กลุ่มลูกค้า คู่ค้าในไทย แบบครบวงจร ตั้งแต่เริ่มต้นวางแผนธุรกิจ เลือกโซลูชั่นที่เหมาะสม ยันแจ้งเกิดการให้บริการใหม่ๆ สู่มือผู้บริโภค เชื่อ 3G เกิด ทำให้ตลาดมีการแข่งขันสูงจากผู้ให้บริการรายใหม่
มร. ฮันส์ คาร์ลสัน ประธานและผู้จัดการ บริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าปีนี้อีริคสันได้ดำเนินธุรกิจครบรอบ 100 ปีในประเทศไทย ในการวางรากฐานและพัฒนาระบบโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคมตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในปี พ.ศ. 2449 ที่อีริคสันติดตั้งชุมสายโทรศัพท์ระบบไฟกลาง โดยใช้พนักงานต่อเป็นแห่งแรกในประเทศไทย และอีริคสันเป็นผู้ริเริ่มระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งแบบอนาล็อค และดิจิตอลจีเอสเอ็ม โดยในปี พ.ศ. 2529 เป็นปีที่อีริคสันได้สร้างประวัติศาสตร์พลิกโฉมการสื่อสารด้วยการนำประเทศไทยเข้าสู่ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ ด้วยการนำระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่เซลลูล่าร์เข้าสู่ไทยเป็นครั้งแรก ด้วยการติดตั้ง NMT 470 ให้กับองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย โดยในระยะแรกได้ติดตั้ง 10,000 เลขหมายสำหรับผู้ใช้บริการในเขตกรุงเทพมหานครและชายฝั่งทะเลตะวันออก และเป็นผู้นำนวัตกรรมโครงข่ายต่างๆ สู่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยภาพรวมอีริคสันถือเป็นบทบาทสำคัญที่มีส่วนร่วมในโทรคมนาคมของประเทศไทย และโทรคมนาคมยังถือว่าเป็นส่วนหลักที่สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคม และเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญของข้อมูลที่มีประโยชน์มากมายมหาศาลในสังคม
อีริคสันในประเทศไทยพลิกบทบาทตอกย้ำแนวคิด Taking You Forward
มร. คาร์ลสัน กล่าวต่อไปว่า “ขณะนี้อีริคสันมีพันธกิจใหม่ที่ท้าทาย โดยเป็นช่วงเวลาที่เทคโนโลยีการสื่อสารได้เติบโตอย่างรวดเร็วในการบริหารงานทางโทรคมนาคมในประเทศไทยขณะนี้ โดยต่อจากนี้อีริคสันจะมุ่งเน้นครบ 3 ส่วนหลักของธุรกิจ คือ 1. Network Infrastructure (Fixed network, Mobile Network, Transmission) 2. การบริการ (Managed Services) 3. Multi-media Solutions โดยในส่วนเน็ตเวิร์กจะมุ่งเน้นการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงทั้งโครงข่ายพื้นฐาน (Fixed Broadband) และโครงข่ายไร้สาย บรอดแบนด์ (Mobile broadband) และ 3G ที่สำคัญการควบรวมกิจการของ มาร์โคนี ได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับอีริคสันในธุรกิจโครงข่ายส่งผ่านข้อมูล (Transmission) อันประกอบด้วยโครงข่ายบรอดแบนด์ และ IP เมื่อบริการด้านโทรคมนาคมพื้นฐานและไร้สายผนวกรวมกัน กลุ่มลูกค้าของอีริคสันจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการควบรวมธุรกิจนี้ และจากประสบการณ์ระดับโลกที่ดำเนินงานใน 140 ประเทศ อีริคสันยังพร้อมบริการให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโทรคมนาคมในประเทศไทย รวมทั้งการวางแผนธุรกิจ การออกแบบ การให้บริการ การให้คำปรึกษาทางการเงินและการลงทุน การจัดเก็บรายได้จากการให้บริการ ทั้งหมดนี้เพื่อให้ลูกค้าของเราประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจในโลกโทรคมนาคม ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของบริษัทที่ว่า Taking You Forward โดย “You” ในที่นี้หมายถึงลูกค้าของเรานั่นเอง”
ตอบสนองทิศทางโทรคมนาคมในไทย
“ทิศทางของโทรคมนาคมในประเทศไทยต่อจากนี้ไป มีแนวโน้มที่เทคโนโลยีการสื่อสารแบบโครงข่ายพื้นฐาน (Wireline Network) หรือแบบดั้งเดิม (Legacy Network) มาเป็นโครงข่ายสมัยใหม่ (Next Generation Network) ที่จะเพิ่มมูลค่าในการให้บริการรูปแบบใหม่ที่จะตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการเพิ่มมากขึ้น ตอกย้ำความต้องการการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูง หรือ บรอดแบนด์ที่เพิ่มมากขึ้น โดยโครงข่ายไร้สาย (Mobile Network) จะมุ่งเน้นไปที่ 3G และมีทิศทาง การรวมกันของเทคโนโลยีการสื่อสาร (Technology Convergence) จะเป็นรูปธรรมเพิ่มขึ้น อีริคสันพร้อมพัฒนาโซลูชั่นต่างๆ เพื่อรองรับการให้บริการของโลกแห่งการสื่อสารยุคมัลติมีเดีย ที่สามารถให้บริการอื่นๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของเสียง ข้อมูล และวิดีโอสตรีมมิ่ง ซึ่งต้องอาศัยโครงข่ายความเร็วสูงมากขึ้นกว่ายุคก่อนๆ หรือยุคปัจจุบันเองก็ตาม” มร. คาร์ลสัน กล่าว
ภาพรวมธุรกิจหลักอีริคสัน
อีริคสันเป็นผู้นำในการจัดหานวัตกรรมโครงข่าย และอุปกรณ์โครงข่ายสำหรับทุกระบบโทรคมนาคมทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง Moblie Systems, Wireline Systems, Transmission and Transport, Service Layer, Services Integration รวมถึงธุรกิจ Enterprise, Mobile Platforms และ Power Modules อีกด้วย นอกจากนี้อีริคสันได้มุ่งเน้นการพัฒนาเพื่อตอบสนองยุคข้อมูลความเร็วสูง โดยไฮไลต์ของเทคโนโลยีที่มุ่งเน้น ได้แก่ HSDPA (High-Speed Downlink Packet Access), 3G LTE/SAE (3G Long-term Evolution/System Architecture Evolution), Softswitching, IMS (IP Multimedia Subsystem), MBMS (Multimedia Broadcast Multicast Service) และ Ethernet เป็นต้น
เกี่ยวกับอีริคสัน (ประเทศไทย)
ปี พ.ศ. 2449 อีริคสันติดตั้งชุมสายโทรศัพท์ระบบไฟกลางโดยใช้พนักงานต่อเป็นแห่งแรกในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2505 ได้ติดตั้งชุมสายโทรศัพท์ระบบ cross bar เป็นแห่งแรกขึ้นในประเทศไทย ณ จังหวัดยะลา และในปี พ.ศ. 2508 อีริคสันได้ก่อตั้งสำนักงานในประเทศไทย โดยใช้ชื่อ Ericsson Telephone Corporation Far East AB และได้พัฒนาเป็น อีริคสัน (ประเทศไทย) จวบจนปัจจุบัน โดยมีพนักงานทั้งหมดกว่า 220 คน ที่มุ่งมั่นให้บริการด้านโทรคมนาคมแบบครบวงจรให้แก่ผู้ประกอบโทรคมนาคมทั้งในระบบผ่านชุมสายและไร้สาย (wireline & wireless) ภายใต้การดูแลของหน่วยงานในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อการสนับสนุนด้านอุปกรณ์ เทคโนโลยี โซลูชั่นและบริการอื่นๆ ในภูมิภาค
เกี่ยวกับอีริคสัน
อีริคสันเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีในการกำหนดอนาคตของการสื่อสารไร้สายและการสื่อสารบรอดแบนด์ อินเตอร์เน็ต มาอย่างต่อเนื่อง การที่อีริคสันจัดหานวัตกรรมโซลูชั่นใหม่ๆ ให้แก่ประเทศต่างๆ กว่า 140 แห่ง ช่วยสร้าง บริษัทสื่อสารให้มีศักยภาพในการให้บริการ ด้วยประสิทธิภาพสูงสุดมาแล้วทั่วโลก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
แสงดี สีแดง สุพัตรา บุญชัย (แอน)
ผู้อำนวยการสื่อสารการตลาด ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์
บริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0 1610 9897
โทร. 0 2299 7000 อีเมล annapr55@gmail.com
อีเมล saengdi.sidaeng@ericsson.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net