กรุงเทพฯ--29 ก.ย.--วีม คอมมูนิเคชั่น
ประเด็นสำคัญในการลงทุนทองคำแท่ง (Gold SPOT)
ปัจจัยสำคัญด้านพื้นฐาน — วันนี้ราคาทองคำมีแนวโน้มแกว่งตัวผันผวนและอาจปิดลบได้ หลังความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มถดถอยลง จากผลกระทบจากความอ่อนแออย่างต่อเนื่องในตลาดแรงงาน แม้สัญญาณบ่งชี้ด้านการผลิตปรับตัวดีขึ้นก็ตาม ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
กรอบการเคลื่อนไหวเชิงเทคนิคราคาทองคำแท่ง (Gold SPOT)
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะสั้น — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, MACD 30 นาทีเคลื่อนอยู่ในแดนลบทว่าได้ตัดเส้น Signal จากด้านล่าง ทำให้ดูทิศทางเป็นบวก, MACDF 30 เคลื่อนตัวอยู่ใกล้ 0 ทำให้ถือเป็นระดับ Neutral และทำให้ดูว่าตลาดยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, Fast Stochastic เคลื่อนตัวขึ้น ทำให้ราคามีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้น, RSI 30 นาทีอยู่ที่ระดับ 53.165 ถือเป็นระดับ Neutral และทำให้ดูว่าตลาดระยะสั้นยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, ทิศทางตลาดระยะสั้นดูเป็น Sideways, แนวรับแนวต้านของวันอยู่ที่ $985 - $996 ค่าเงินบาทในวันนี้อยู่ที่ระดับ ฿33.48 - ฿33.62
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะกลาง — Directional Indices บ่งบอกว่าตลาดระยะกลางเป็นขาขึ้น, RSI อยู่ที่ระดับ 43.375 ถือเป็นระดับ Neutral และทำให้ดูว่าตลาดยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, MACD เคลื่อนตัวอยู่ในแดนบวกทว่าได้ตัดเส้น Signal จากด้านบนทำให้ดูราคาเป็นลบ, MACDFเคลื่อนอยู่ในแดนลบ ทำให้ดูทิศทางเป็นลบ, Fast-Stochastic กำลังเคลื่อนตัวลงทำให้ราคามีโอกาสปรับตัวลง ทิศทางตลาดระยะกลางเป็นตลาด Bull โดยจะใช้แนวต้านที่ $1,035 เป็นแนวต้านระยะกลางที่สำคัญ ส่วนแนวรับระดับกลางอยู่ที่ $985 และ $965 ตามลำดับ
พิจารณาตารางที่ 3 และกราฟด้านซ้ายมือ พบว่าราคาทองคำแท่งที่ร้านค้าปลีกปิดล่าสุด (เส้นสีแดง = 15,850 บาท) ซึ่งสูงกว่าราคาทองคำแท่ง (SPOT) ในตลาดโลกเช้านี้ (เส้นสีน้ำเงิน = 15,800 หรือที่ $989.8) แสดงถึงราคาทองคำแท่ง ณ. หน้าร้านขายปลีก มีพรีเมี่ยมจากราคาในตลาดโลก อยู่ 50 บาท ขณะที่ราคาของ GFV09 เมื่อวานนี้ปิดตลาดอยู่ที่ 15,840 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาในตลาดโลกเท่ากับ 40 บาท ซึ่งเท่ากับว่า GFV09 มีพรีเมี่ยมน้อยกว่าที่ร้านค้าปลีก ดังนั้น การขาย (Short) ทองแท่งที่ร้านทองแล้วมาเปิดสถานะซื้อ (Long) GFV09 จะทำให้มีส่วนต่างของกำไรที่คาดหวัง อยู่ที่ 50-40 = 10 บาทต่อทองคำแท่ง 1 บาท ซึ่งยังคงไม่คุ้มค่ากับค่าคอมมิชชั่น (ประมาณ 120 บาทต่อ 1 บาททอง) และดอกเบี้ยอีกราว 20 บาท ในการหากำไรจากส่วนต่างราคาได้ในวันนี้
ข่าวสารสำคัญเพื่อประกอบการลงทุน
ปัจจัยบวก
ภาวะเศรษฐกิจจีน - นายหลิว เถี่ยหนาน รองประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาและการปฏิรูปแห่งชาติของจีน กล่าวว่า จีนมั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจได้ แต่ปัจจัยความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง บ่งชี้ว่าเจ้าหน้าที่จะต้องระมัดระวังต่อความเสี่ยง ซึ่งรวมถึงเงินเฟ้อ จากการพุ่งขึ้นของการปล่อยสินเชื่อและการขยายตัวของปริมาณเงินทุนหมุนเวียน
ค่าเงินบาท — ค่าเงินบาทปิดทรงตัวที่ 33.54 บาท เท่ากับเมื่อวันก่อนหน้า หลังแข็งค่าขึ้นในช่วงแรก ก่อนที่จะอ่อนตัวลงจากดอลลาร์ที่กลับมาแข็งค่าขึ้น หลังนักลงทุนเข้าซื้อคืนดอลลาร์ เพราะความกังวลเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐและตลาดหุ้นไทยวันนี้ที่ปรับตัวลดลง ขณะที่เช้านี้เงินบาทอ่อนค่าลง +2 สต. มาที่ 33.56 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีแนวรับสำคัญที่ 33.48 บาทและ 33.43 บาทตามลำดับ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 33.62 บาทและ 33.71 บาท
ราคาน้ำมันดิบ — ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน พ.ย. ขยับขึ้น +$0.82 มาที่ $66.84 ต่อบาร์เรล จากที่ปิด $66.02 ต่อบาร์เรลเมื่อวันก่อนหน้า จากความวิตกต่อการทดลองยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดของอิหร่าน และการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐที่พุ่งขึ้นจากการควบรวมกิจการกันมากขึ้น ขณะที่เช้านี้ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน พ.ย. พุ่งขึ้นอีก +$0.42 มาอยู่ที่ $67.26 ต่อบาร์เรล
ปัจจัยลบ
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ — เมื่อคืนนี้
1. กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐลดลงมาที่ -0.90 ในเดือนส.ค. โดยลดลงจาก -0.56 ในเดือนก.ค. แต่ฟื้นตัวขึ้นนับตั้งแต่แตะระดับต่ำสุดในเดือนม.ค.ที่ -4.12 โดยดัชนีที่ติดลบบ่งชี้ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจต่ำกว่าแนวโน้มนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2007 จากผลกระทบจากความอ่อนแออย่างต่อเนื่องในตลาดแรงงาน แม้สัญญาณบ่งชี้ด้านการผลิตปรับตัวดีขึ้นก็ตาม
ค่าเงินดอลลาร์ — ดอลลาร์ปิดแข็งค่าขึ้น -$0.0073 เมื่อเทียบเงินยูโร มาที่ $1.4613 จากที่ปิด $1.4686 เมื่อวันก่อนหน้า หลัง รมว.คลังญี่ปุ่น ได้ลดความเห็นที่บ่งชี้ว่า เขาพอใจกับการแข็งค่าของเยน + ความเห็นของประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ว่าดอลลาร์ที่แข็งค่าเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาเสถียรภาพตลาดสกุลเงินและเศรษฐกิจโลก ได้กระตุ้นแรงซื้อดอลลาร์ด้วย ส่วนเช้านี้ดอลลาร์อ่อนค่าลง +$0.0004 มาอยู่ที่ $1.4617
ปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตาม
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ — คืนนี้
1. Conference Board จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนก.ย. เวลา 21.00 น. โดยผลสำรวจคาดว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐจะอยู่ที่ 57.0 ในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้นจาก 54.1 ในเดือนส.ค.
2. S&P/K จะเปิดเผยราคาบ้านเดือนก.ค. เวลา 20.00 น. โดยผลสำรวจคาดว่า ราคาบ้านจะเพิ่มขึ้น +0.5% ในเดือนก.ค. เทียบกับที่เพิ่มขึ้น +1.4% ในเดือนมิ.ย. และเมื่อเทียบเป็นรายปี (YoY) ราคาบ้านจะลดลง -14.2% ในเดือนก.ค.ปีนี้ เมื่อเทียบกับที่ลดลง -15.4% ในเดือน ก.ค. ปี 2008
3. EIA จะเปิดเผยข้อมูลปริมาณสำรองรายสัปดาห์ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่ API จะเปิดเผยข้อมูลในคืนนี้ โดยผลสำรวจคาดว่า ปริมาณสำรองน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น +0.5 ล้านบาร์เรล ส่วนปริมาณสำรองน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น +1.1 ล้านบาร์เรล และปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินอาจเพิ่มขึ้น +1.1 ล้านบาร์เรลเช่นกัน ขณะที่อัตราการใช้กำลังการกลั่นอาจลดลง -0.4%
กองทุนทองคำ — กองทุนทองคำ SPDR ได้รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. 28 ก.ย.52 ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า รวมถือทองคำไว้ทั้งสิ้น 1,094.11 ตัน เทียบเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.49 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 35.17 ล้านออนซ์
ข้อมูลจาก YLG ศูนย์รับซื้อ-ขายทองคำแท่ง มาตรฐาน LBMA 653/14 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ (ปากซอย 9) แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 Tel: 0-2287-1155, 0-2677-5520 Fax: 0-2677-5512 www.ylgbullion.com