กรุงเทพฯ--29 ก.ย.--วิธิตา แอนิเมชั่น
กทม. จับมือ สสส. และโรงพยาบาลกรุงเทพ เดินหน้าป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดตัวโครงการ “ ปังปอนด์ยุวทูตวัยใส กับ ปฎิบัติการ ปิ๊ด ปี้ ปิ๊ด รวมพลัง สู้หวัด” ตามหลัก 3 ป. เพื่อส่งเสริมสุขภาพอนามัยที่ดี พร้อมแต่งตั้งปังปอนด์ให้เป็น “ยุวทูตวัยใส” เพื่อเป็นตัวแทนในการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และรู้เท่าทันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ให้แก่เด็กและประชาชนอย่างถูกต้อง
เนื่องด้วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มีการแพร่ระบาดอยู่ในปัจจุบัน และทุกคนมีโอกาสติดโรคนี้ ดังนั้น จึงควรร่วมกันในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโดยการหยุดวัฎจักรของการเกิดโรค ด้วยเหตุนี้จึง ทำให้ เกิดโครงการ “ปังปอนด์ยุวทูตวัยใส กับ ปฎิบัติการ ปิ๊ด ปี้ ปิ๊ด รวมพลังสู้หวัด” พร้อมพัฒนาหลัก 3 ป. ป้องกัน เปลี่ยนแปลง และ ปลอดภัย ขึ้นมาเพื่อเป็นหลักในการปฏิบัติตน ให้ห่างไกลจากโรคดังกล่าว โดยเน้นการสื่อสารอย่างเข้าถึง เข้าใจง่าย พร้อมนำไปปฏิบัติได้จริง
หลัก 3 ป. ประกอบด้วย ป. ป้องกัน ล้างมือให้สะอาด ไม่ใช้ของร่วมกัน และใส่หน้ากากอนามัยเมื่อมีอาการป่วย เพื่อปิดการเดินทางของเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ป. เปลี่ยนแปลง หมั่นกินผัก ผลไม้และหันมาออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง สุดท้ายคือ ป.ปลอดภัย พยายามหลีกเลี่ยงการเข้าไปที่ชุมชนแออัด หรือถ้าจำเป็นต้องไปควรใส่หน้ากากอนามัยเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อ หรือรับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย รวมไปถึงการสร้างความปลอดภัยให้คนรอบข้าง เมื่อรู้สึกตัวว่าไม่สบายต้องดูแลตนเองอย่างถูกวิธี
พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีนโยบาย ทั้งชีวิต..เราดูแล ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพคนกรุงเทพฯ ให้แข็งแรง มีคุณภาพชีวิตที่ดี ตั้งแต่วัยแรกเกิด จนถึงวัยสูงอายุ ซึ่งโครงการ “ปังปอนด์ยุวทูตวัยใส กับ ปฎิบัติการ ปิ๊ด ปี้ ปิ๊ด รวมพลังสู้หวัด” นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ตอกย้ำให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปเห็นความสำคัญในการดูแลสุขภาพและป้องกันโรคไข้หวัด สายพันธุ์ใหม่2009 โดยใช้หลักปฏิบัติการ 3 ป.กันอย่างจริงจัง รวมทั้งส่งเสริมให้ล้างมือและสวมหน้ากากอนามัยเมื่อป่วย ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะทำให้กทม.ผ่านสถานการณ์โรคดังกล่าวไปได้ด้วยดี ทุกคนมีสุขภาพ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”
ทั้งนี้ ปังปอนด์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นยุวทูตวัยใส และเป็นตัวแทนเด็กไทยที่ห่วงใยสังคม ในการเป็นสื่อกลางถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่เข้าใจยากให้ง่ายขึ้น ในรูปแบบ Education Cartoon หรือ Edutoon ซึ่งอธิบายเกี่ยวกับ การเดินทางของเชื้อโรคว่าเข้าสู่ร่างกายได้อย่างไร การป้องกันไม่ให้ติดโรค วิธีการลดการแพร่กระจายของโรค รวมไปถึงการปฎิบัติตนที่ถูกวิธีของผู้ติดเชื้อและผู้ไม่ติดเชื้อตามแบบฉบับของปังปอนด์ที่ให้ความรู้ควบคู่ไปกับความสนุกสนาน เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้รับรู้วิธีการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อย่างถูกวิธีต่อไป
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี อนุกรรมการควบคุม ป้องกัน และแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า “กับสถานการณ์ในครั้งนี้ สสส.จัดชุดทำงานพิเศษ ระดมคณะทำงาน ผู้เชี่ยวชาญและคุณหมอกว่า 20 ท่าน ร่วมประชุมเพื่อหาข้อสรุป และทำความเข้าใจกับโรคนี้ให้มากที่สุด โดยเราเป็นหน่วยงานกลางในการเผยแพร่ข่าวสาร ที่ถูกต้อง ให้แก่ประชาชนได้ศึกษาในเบื้องต้น ผ่าน www.flu2009thailand.com เพื่อลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคนี้”
“ สสส.เล็งเห็นการปลูกฝังวินัยในการดูแลตัวเองที่ถูกต้อง ควรเริ่มจากรากฐานของประเทศนั่นก็คือเยาวชน การมีวินัยในการดูแลตนเองอย่างถูกต้อง ไม่เพียงแต่จะทำให้ห่างไกลไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เท่านั้น แต่จะห่างจากโรคต่างๆที่มีในปัจจุบัน และที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย”
แผนงานของโครงการฯ นี้ ในระยะแรกจะเร่งเดินหน้าให้ความรู้แก่เด็กนักเรียนใน กทม. 50 โรงเรียน เพื่อให้เข้าใจถึงโรค รู้ถึงวิธีป้องกันตนเอง สิ่งที่จะทำควบคู่กันไปคือ การผลิตโฆษณาให้ความรู้ ในรูปแบบการ์ตูน แอนิเมชั่น ความยาว 15 วินาที จำนวน 3 ตอน ประกอบด้วย อย่าขยี้ตา อย่าใช้ของร่วมกัน และการล้างมือให้สะอาดและบ่อยขึ้น เพื่อสกัดกั้นไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย รวมทั้งวีซีดีชุดความรู้ ความยาว 5 นาที จำนวน 4 ตอน เพลงปิ๊ด ปี้ ปิ๊ด ความยาว 42 วินาที โดยจะเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ ที่ กทม. และ สสส. ดูแลอยู่ อาทิ โทรทัศน์ วิทยุ รวมไปถึงการทำกิจกรรมให้ความรู้ตามที่ชุมชนต่างๆ โดยสื่อทั้งหมดจะมีเนื้อหาที่สนุกสนาน ง่ายต่อการจดจำนำไปปฏิบัติ ตามหลัก 3 ป.
ทางด้านพันธมิตรอย่าง โรงพยาบาลกรุงเทพ นพ. สมชาย จันทร์สว่าง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า “การเข้าร่วมโครงการครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งของพลังอันสำคัญจากภาคเอกชน ในการผลักดันปฏิบัติการ 3 ป. คือ ป้องกัน เปลี่ยนแปลง และนำไปสู่ความปลอดภัย เพื่อให้เยาวชน และคนไทยทุกคน ห่างไกลจากโรคภัยต่างๆ อย่างยั่งยืน อันเป็นสิ่งที่องค์กรยึดมั่นมาโดยตลอด ซึ่งเราต้องส่งเสริมให้คนไทยดูแลสุขภาพด้วยการป้องกันก่อนเป็น ย่อมดีกว่าการรักษา เพื่อช่วยให้ประชาชนและประเทศไทย ไม่ต้องเสียค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น ผมหวังว่าการรวมพลังสู้หวัด 2009 นี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างเกราะให้ประเทศไทยกลับมาแข็งแรงและปลอดภัย กลับมาเป็นสยามเมืองยิ้มได้ดังเดิม ในเร็ววัน”
ติดตามข่าวสารโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้ที่ www.flu2009thailand.com และ www.bangkokhealth.com , www.bmadcd.go.th หรือโทร. 1442, 1330 รวมทั้งขอรับสื่อประชาสัมพันธ์ เพื่อการป้องกัน และ เฝ้าระวังโรคอย่างถูกต้องได้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-641-9400 ตวง (ปภาดา)